1 ก.พ. 2023 เวลา 12:49 • ประวัติศาสตร์

ตัวตนจริงของ “ป็อนติอุส ปีลาต (Pontius Pilate)” ผู้สั่งประหาร “พระเยซู (Jesus)”

“ป็อนติอุส ปีลาต (Pontius Pilate)” คือหนึ่งในบุคคลที่นักประวัติศาสตร์และชาวคริสต์ให้ความสนใจมากที่สุดผู้หนึ่ง
2
ปีลาตคือขุนนางระดับสูงของโรมัน และตามพระคัมภีร์ ปีลาตคือผู้ที่สั่งประหาร “พระเยซู (Jesus)”
ด้วยความที่เป็นผู้สั่งประหารพระเยซู ทำให้ภาพลักษณ์ของปีลาตในประวัติศาสตร์คือผู้ชั่วร้าย เลือกที่จะทำสิ่งที่ผิดเพื่อรักษาอำนาจของตนมากกว่าสิ่งที่ถูก
2
หากแต่จากหลักฐานต่างๆ ก็ชี้ให้เห็นว่าเป็นไปได้ว่าบางทีเรื่องราวของปีลาตอาจจะซับซ้อนกว่านั้น อาจจะเป็นหนังคนละม้วนก็เป็นได้
พระเยซู (Jesus)
จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ไม่ใช่พระคัมภีร์ เช่น บันทึกประวัติศาสตร์ของนักประวัติศาสตร์ชาวยิว ได้แสดงภาพของปีลาตว่าเป็นขุนนางที่มีความสามารถ เป็นที่ยอมรับนับถือในหมู่ประชาชนที่ปีลาตปกครอง
ตามพันธสัญญาใหม่ (New Testament) ซึ่งเป็นภาคสองของคัมภีร์ไบเบิ้ล (Bible) ได้ระบุว่า กลุ่มชาวยิวซึ่งปกครองเยรูซาเลมในเวลานั้น ไม่เห็นด้วยกับการกระทำและคำสอนของพระเยซู และคิดว่าพระเยซูจะเป็นภัยต่ออำนาจและความมั่นคงของพวกตน
มีการกล่าวหาพระเยซูว่าเป็นผู้ที่ดูหมิ่นศาสนา อีกทั้งยังกล่าวอ้างว่าตนเป็นบุตรแห่งพระเจ้า จึงนำตัวพระเยซูไปไต่สวนโทษ โดยผู้ที่ไต่สวนก็คือ “ป็อนติอุส ปีลาต (Pontius Pilate)”
ตามพันธสัญญาใหม่ ปีลาตคือขุนนางชั้นสูงแห่งโรมันผู้ซึ่งตัดสินโทษให้พระเยซูถูกตรึงกางเขน ดังนั้นภาพลักษณ์ของเขาจึงไม่ดีนัก
1
แต่จากข้อมูลอื่น ก็ได้ระบุว่าเมื่อกลุ่มผู้นำชาวยิวนำตัวพระเยซูมาให้ปีลาตไต่สวน กลุ่มผู้นำชาวยิวก็เรียกร้องให้ประหารพระเยซู ถึงแม้ว่าปีลาตจะลังเลและไม่เห็นด้วยก็ตาม
นอกจากนั้น ยังมีหลักฐานว่าอันที่จริง ภาพลักษณ์ของปีลาตอาจจะไม่ใช่อย่างที่หลายคนคิด
หลักฐานต่างๆ บ่งชี้ว่าปีลาตนั้นเป็นผู้ที่มีความสามารถและเป็นที่เคารพนับถือ เช่น มีบันทึกว่าปีลาตเป็นผู้นำที่เด็ดขาดและเด็ดเดี่ยว โดยเขาเป็นผู้ที่รับผิดชอบในการสร้างสิ่งสาธารณะต่างๆ มากมาย รวมทั้งทางระบายน้ำที่นำพาน้ำสะอาดมาสู่เยรูซาเลม
จากหลักฐานนี้ อาจจะทำให้ภาพลักษณ์ของปีลาตเปลี่ยนไป จากผู้โหดเหี้ยมกลายมาเป็นผู้นำที่เด็ดเดี่ยวและมีความสามารถ ผู้ที่ห่วงใยประชาชนในปกครอง
1
และยังมีบันทึกว่าปีลาตนั้นรู้สึกสับสน ไม่ได้เห็นด้วยกับการตรึงกางเขนพระเยซูเลย หากแต่เหล่าผู้นำชาวยิวก็เรียกร้องให้ลงโทษพระเยซู
ในบันทึกบางฉบับ กล่าวว่าปีลาตถึงขนาดพยายามหาวิธีช่วยพระเยซู ทำแม้กระทั่งเสนอว่าให้ปล่อยตัวพระเยซู และนำตัวนักโทษรายอื่นมาแทนที่
หากแต่ผู้นำชาวยิวก็ได้ขู่ปีลาตว่าจะรายงานไปยังทางการโรมัน หากปีลาตไม่ยอมทำตามที่ผู้นำชาวยิวต้องการ
ด้วยความที่โดนกดดัน ก็อาจจะทำให้มองว่าปีลาตไม่ต้องการจะเสียอำนาจ จึงทำเช่นนั้น แต่ก็มองในอีกแง่ได้ว่าปีลาตอาจจะเล็งเห็นว่าถึงตนไม่ทำ เมื่อตนถูกปลดจากตำแหน่ง ข้าหลวงคนต่อไปก็คงจะถูกกดดันและต้องยอมทำตามอยู่ดี ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลอะไรที่ตนจะถูกปลดเพราะเรื่องนี้
ด้วยความที่เรื่องเป็นแบบนี้ ทำให้นักประวัติศาสตร์บางรายมองว่าปีลาตนั้น แท้ที่จริงไม่ใช่คนเลวร้าย หากแต่ถูกกดดัน
บางรายก็แสดงความเห็นว่าปีลาตต้องการรักษาความสงบและมั่นคงแห่งดินแดน ไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งจนนำไปสู่ความรุนแรง จึงจำเป็นต้องประหารพระเยซู
แต่ไม่ว่าสาเหตุจะเป็นอะไร การสั่งประหารพระเยซูก็เป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ชาวคริสต์ และเป็นที่ร่ำลือกันมาจนถึงทุกวันนี้
และเรื่องราวของปีลาต ก็คงเป็นที่ถกเถียงกันต่อไปว่าชายผู้นี้ แท้จริงแล้วคือเผด็จการจอมปีศาจ หรืออันที่จริง คือผู้นำที่ดีหากแต่ถูกกดดันจนไม่มีทางเลือก
อันนี้คงเป็นสิ่งที่ถกเถียงกันต่อไป
โฆษณา