ผู้สอบพบว่า Celsius ทำตัวเหมือนเป็นแชร์ลูกโซ่ Ponzi จริง
ในเดือนกันยายนปีที่แล้ว ศาลได้แต่งตั้งให้ Shoba Pillay ผู้สอบอิสระเข้าทำการสืบสวนข้อกล่าวหาต่าง ๆ ของลูกค้าและเจ้าหนี้ของ Celsius รวมไปถึงข้อกล่าวหาว่า Celsius แอบใช้เงินของลูกค้า และอาจจะเป็นแชร์ลูกโซ่
ซึ่งผู้สอบพบว่า Celsius ได้ประกอบธุรกิจผิดจากที่ตกลงไว้ในสัญญา และขาดการกำกับดูแลความเสี่ยงที่พึงมีในกิจการขนาดนี้ แต่ทั้ง ๆ ที่ระบบบริหารความเสี่ยงแย่ ยังมีการระบุถึงความกังวลกับความเสี่ยงในการให้ Tether กู้ยืมเงินมากกว่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ
นอกจากนี้ Celsius ยังเคยอ้างว่า การปล่อยกู้ทั้งหมดเป็นการปล่อยกู้แบบมีหลักประกันมากถึง 200% และไม่มีการปล่อยกู้แบบไม่มีหลักประกัน แต่ Celsius ก็ยังได้ปล่อยกู้ให้กับ FTX โดยใช้เหรียญ FTT ในการค้ำประกัน ทั้ง ๆ ที่รู้ดีว่ามูลค่าของเหรียญ FTT นั้นขึ้นกับฐานะของ FTX เอง จึงเป็นหลักประกันที่ไม่ค่อยมีประโยชน์
และจนถึงช่วงเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว Celsius ได้นำเงินของลูกค้าใหม่ไปจ่ายให้กับลูกค้าเก่าที่ทยอยถอนเงิน ก่อนที่จะหยุดให้ทำการถอนในที่สุด ซึ่งอาจจะดูไม่แตกต่างจากการประกอบธุรกิจธนาคารทั่วไป
แต่ปัญหาของ Celsius ไม่ได้เพิ่งเริ่มเกิดขึ้นในปี 2022 แต่น่าจะเกิดขึ้นมานานแล้ว ซึ่งอาจจะพอเห็นได้ว่าเริ่มมาตั้งแต่ปี 2020 ที่ Celsius ใช้เงินของลูกค้าใหม่ในการจ่ายค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน และจ่ายผลตอบแทนให้กับลูกค้าเดิม โดยที่รายได้จากการดำเนินงานไม่มากพอที่จะจ่ายค่าใช้จ่ายดังกล่าว
ส่วนเรื่องเหรียญ CEL ที่เป็นประเด็นนั้น ผู้สอบพบว่าได้มีการนำคริปโตของลูกค้าไปเป็นหลักประกันในการกู้ stablecoin (rehypothecation) เพื่อเอาไปใช้ในการจ่ายค่าใช้จ่ายต่าง ๆ และซื้อ BTC และ ETH เพื่อปั่นราคา CEL ด้วยการซื้อเหรียญคืน ซึ่งทำให้ Alex Mashinsky สามารถขายเหรียญ CEL นำเงินเข้ากระเป๋าไปได้มากถึง 68 ล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว
อ้างอิง :
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
