1 ก.พ. 2023 เวลา 08:20 • ความคิดเห็น
ปล่อยวางสุด ๆ ไปเลยค่ะ เราเป็นคนนึงที่ไม่ได้อายุเยอะมาก เราป่วยเป็นนั่นนี่มาโดยตลอด หนักบ้าง เบาบ้าง สลับกันไปในทุกวัน ช่วงที่แย่มากทรมานเหมือนตายทุกวัน ได้แต่นอนร้องไห้ค่ะ เพราะลุกไม่ไหว อย่าว่าแต่งานเลยค่ะ ลุกไปทานข้าว เดินได้ก็ถือว่าวันนั้นโชคดีสุด ๆ ที่ผ่านมาโทษตัวเองมาโดยตลอดที่ไม่ดูแลตัวเอง แต่พอถึงจุดหนึ่งที่โทษไป แย่ไป มันไม่มีอะไรดีขึ้น อาการก็ไม่ได้ทุเลาลง เราเลยปล่อย ทั้งความคิด ทุกสิ่งอย่างที่มันเคยพังออก เรารู้สึกเบาสบายมาก ๆ และมีกำลังใจใช้ชีวิตต่อ
ที่ผ่านมาสงสารครอบครัวที่ต้องมารับผิดชอบกับอาการป่วยของเรา ไม่ใช่แค่เงิน แต่สุขภาพจิตในครอบครัวแย่ลงไปตาม ๆ กันหมดทุกคน เราเห็นแบบนั้นทนไม่ไหว เลยเริ่มเปลี่ยนจากตัวเองก่อนค่ะ เปลี่ยนความคิด คิดบวก เริ่มให้กำลังใจตัวเอง เริ่มพยายามทำความเข้าใจชีวิต รู้ว่าจริง ๆ แล้วอะไรคือสิ่งสำคัญ ควรทำอะไร ทำอย่างไร
เหมือนคนที่มีความคิดแบบวัยแก่ชรา ในร่างอายุ 25 มีสติพร้อมจากไปทุกเมื่อ ฝึกไม่ยึดติดสิ่งใด ประคับประคองชีวิตให้เป็นปกติสุข เอาชนะความเจ็บปวดเสมอมา บางครั้งก็เหนื่อยที่จะตอบเวลามีคนถามว่า ทำงานอะไร
อยู่ เป็นยังไงบ้าง เราทำตัวไหวในขณะที่กายเราไม่ไหว แต่ใจเรายังไหว ตัวเรารู้ดีที่สุด ว่าเรามีเวลาเหลือไม่มาก แต่นั่นก็ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะไม่รับผิดชอบชีวิตที่ยังคงเหลืออยู่
ทุกวันนี้ใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ตื่นนอน ทานข้าว พักผ่อน เดินบ้าง เที่ยวบ้างถ้ามีโอกาส หาอะไรทำเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อหารายได้บ้าง ไม่มีใครทราบว่าเราเป็นอะไรบ้าง เป็นหนักแค่ไหน ตอนแรกทุกคนภายในบ้านยังไม่เข้าใจสภาวะจิตใจ และกายที่เราทำเป็นเข้มแข็ง แต่พอได้เปิดอกคุย ว่าเราปล่อยวางละนะ พยายามให้ทุกคนทำใจปล่อยวางไปด้วย ตอนนี้ทุกคนในบ้านเคารพการตัดสินใจของเราทั้งหมด ไม่ว่าเราจะทำอะไร เค้าไม่เข้ามาบงการชีวิตแล้วค่ะ ชีวิตที่เหลือต่ออยากเป็นกำลังใจให้กับผู้คนที่ต้องเผชิญกับปัญหา และผู้คนที่กำลังเจ็บป่วย
เราอยากมอบความรู้สิ่งที่เรามี และสิ่งที่เราได้เห็นในวันนี้ สิ่งที่เราได้เผชิญ ว่าเราได้ค้นพบอะไรบ้าง อะไรคือความสุขที่แท้จริง อะไรคือสิ่งมายา อะไรที่จะเป็นประโยชน์ต่อคนอื่น ๆ คนที่ยังอยู่ต่อ เราอยากจะบอกค่ะ อยากให้เค้ามีกำลังใจ และพบหนทางแห่งความสุขที่มากขึ้น ก่อนที่เราจะจากไปค่ะ
ถือว่ามาที่นี่ก็ไม่เสียเที่ยวค่ะ ทุกการเดินทางของชีวิตล้วนมีความหมายเสมอ บางทีการที่เราป่วย และตื่นรู้ขึ้นได้ในวันนี้ ก็อาจเป็นแผนการที่ถูกจัดเตรียมไว้ก็เป็นได้ ถ้าเราไม่ป่วยหนักขนาดนี้ เราก็ไม่มีทางได้รับรู้ปัญญามากมายที่ซ่อนตัวอยู่ในโลกใบนี้ก็เป็นได้ค่ะ เราขอบคุณบทเรียนที่เราได้รับ ทุกความเจ็บปวด เราอโหสิกรรมทั้งหมด ทั้งผู้คน ตัวเราเอง และคุณร่างกายของเราด้วย ทุกสิ่งเป็นอาจารย์สอน ถ้าไม่พวกเขาเหล่านั้น ทั้งปัญหาอุปสรรคที่มาช่วยสอน ก็คงไม่มีฉัน ที่เป็นฉันในทุกวันนี้
ไม่ยึดติดสิ่งใด ไม่คิดร้ายต่อใคร มุ่งสู่ความสุขสงบที่แท้จริงค่ะ :)
โฆษณา