Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
บ่นทึก :บันทึกการเดินทางไปที่ต่างๆของแมวอ้วนขี้บ่น
•
ติดตาม
1 ก.พ. 2023 เวลา 11:21 • ประวัติศาสตร์
รายงานสรุปการไปไหว้พระวันนี้
#KUChorusชวนกันไปไหว้พระ9วัด2023 เดินไปได้ไง 20,000 ก้าว แมวอ้วนบ้าไปแล้ว
:
*ยาวนะบอกก่อน ขออภัยถ้าทำให้รกหรือรำคาญค่ะ*
:
ก่อนอื่น ขอสวัสดีปีใหม่ ปีกระต่ายน้อยกลอยใจแก่ผู้อ่านที่รักของแมวอ้วนทุกคนค่ะ
ขอให้ปีนี้เป็นปีที่ดีของทุกคน
มีความสุข สดใส ร่างกายจิตใจแข็งแรง ปลอดโรคปลอดภัย ร่ำรวย ถูกหวยทุกงวดที่ซื้อ สาธุ
:
ทำใจพร้อมแล้วก็เชิญมาอ่านความเรียงยาวๆ ของแมวอ้วนขี้บ่นและการบุกตะลุยพระนครของเขาได้เลยค่ะ
:
1. สวัสดีการทำบุญแบบปุบปับ นัดล๊อกตัวกันมาตั้งแต่ก่อนปีใหม่ โดยเด็กหญิงรัชชุแห่งดินแดนอัลโต้
:
2. บอกตามตรงว่าเข็ดจากวันปีใหม่ปีที่แล้ว เลยขยับวันนัดมาซะปลายเดือนมกรา นึกว่าจะได้ไหว้พระแบบชิลล์ๆ โดยลืมไปสนิทว่า วันนี้เป็นวันเสาร์ และ เหมือนว่าคนทั้งประเทศได้นัดมาทำบุญเก้าวัดแบบไม่ได้นัดหมายกันเกือบหมดกรุงเทพฯขนาดนี้
:
3. ตื่นไม่เช้ามาก ตีสาม ออกจากบ้านตอน..หกโมงสิบนาที ถึงแยกคปอเวลาหกโมงครึ่ง วันเสาร์รถไฟฟ้าไม่ติด จะรีบมาทำไมก่อน ผ่าม!
:
4. นั่งรถ สวดมนต์ แต่งหน้า พยายามตื่นจนมาถึงห้าแยก ละก็มุดลง MRT การเดินไกลเพิ่งเริ่มขึ้นเท่านั้น เดินสับไปค่ะ กินเอ็มร้อยบวกกับกาแฟ นี่เธอจะไปไหว้พระหรือไปรบ พูดมา
:
5. เปิดทริปดียังไง ตกบันได กรดไหลย้อน ไม่พอ แว่นกรอบแหกใส่ดิฉัน เยี่ยมค่ะ มารไม่มี บารมีไม่เกิด จะไปทำบุญเนอะนางสาวแมวอ้วน
:
6. นั่งรถยาวๆ ไปจนถึงสนามไชย ขึ้นมาเจอมิวเซียมสยามเด่นเป็นสง่า เซฟพลังขาโดยการโดดขึ้นพี่วิน อากาศวันนี้ดีงามมาก หนาวพอดี มีแดดบ้าง พี่คนขับน่ารักจนอยากทิปให้
:
7. เข้าช่วงแมวอ้วนมีสมองซะหน่อย ไหว้พระ 9 วัด เป็นคำเรียกการตระเวนไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัดและศาลเจ้าที่มีชื่อเสียง 9 แห่งในกรุงเทพมหานคร โดยสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ 9 แห่งมีตามเส้นทางที่วางไว้วันนี้ ได้แก่ศาลหลักเมือง วัดพระแก้ว วัดโพธิ์ ข้ามฟากไปวัดอรุณ วัดกัลยาณมิตร และ วัดระฆัง ข้ามฝั่งกลับมาท่าช้าง ไปวัดบวร วัดชนะสงคราม วัดสุทัศนและ จบที่ภูเขาทอง วัดสระเกศ แต่บางคนก็มักจะไปไหว้ศาลเจ้าพ่อเสือด้วย (โปรดทราบ เส้นทางมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามปัจจัยทุกอย่างรอบข้างเสมอ)
:
8. ส่วนคณะพรรคKUChorus ก็ประกอบด้วยน้องปอ น้องพลอย น้องรัชชุ เหล่ามักเน่สายโซเชี่ยล และป้าแมวอ้วนสังขารเสื่อม กับน้องชมิ้ง
:
9. อย่างที่บอก ความที่รีบมาก เจ้าแมวอ้วนมาถึงเป็นคนแรก เริ่มต้นที่ศาลหลักเมือง ที่มีคนเยอะมาก เยอะแบบ แทบจะเยอะที่สุดที่เคยเห็น
:
10. ขอเล่าประวัติของศาลหลักเมืองซักหน่อย เหมือนไม่เคยเล่า อะแฮ่ม
:
11. ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร เป็นศาลที่สร้างขึ้นมาพร้อมกับการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี ตามธรรมเนียมพิธีพราหมณ์ว่า ก่อนที่จะสร้างเมืองจะต้องทำพิธียกเสาหลักเมืองในที่อันเป็นชัยภูมิสำคัญ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านเมืองที่จะสร้างขึ้น ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานครตั้งอยู่บริเวณมุมด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของท้องสนามหลวง ตรงข้ามพระบรมมหาราชวัง ถนนหลักเมือง แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
:
12. จุดสำคัญของศาลหลักเมืองคือ เสาหลักเมือง ซึ่งได้กระทำพิธียกเสาขึ้นเมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2325 เดิมทีเสาหลักเมือง มีเพียงศาลาปลูกไว้กลางแดดกันฝนเท่านั้น จนชำรุดลงอย่างมากในสมัยรัชกาลที่ 4 จึงโปรดเกล้าฯให้ทำขึ้นใหม่อีกเสาหนึ่ง ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานครมีเสาหลักเมือง 2 ต้น นับจากนั้นเป็นต้นมา
:
13. สำหรับศาลาศาลหลักเมืองหลังปัจจุบันนี้ มีรูปแบบเป็นอาคารเครื่องปูน ทรงยอดปรางค์ มีมุขยื่นทั้ง 4 ด้าน แต่ละด้านมีหลังคาซ้อน 2 ชั้น และมีมุขลดอีกด้านละ 1 ชั้น มีหลังคากันสาดโดยรอบ เครื่องมุงประดับกระเบื้องเคลือบ ตามลักษณะสถาปัตยกรรมอยุธยาในอดีต ได้รับการออกแบบโดย พล.อ.ต. อาวุธ เงินชูกลิ่น (ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะสถาปัตยกรรม ในเวลาต่อมา) พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชวินิจฉัยในงานออกแบบครั้งนี้ด้วย
:
14. เมื่อเข้ามาแล้ว จงเดินทางไปซื้อชุดไหว้ราคาหกสิบบาท พร้อมผ้าสามสีเตรียมผูกกันไป
:
15. น้องปอมาแล้วววว เย้ เลยได้ไปไหว้พร้อมกันเลย ถวายน้ำมันเอยใดเอย แล้วก็มานั่งเม้ามอย รอรัชชุกับพลอย รอไม่นานเท่าไหร่ คุยกันจนไม่มีเรื่องจะคุยแล้ว แบบ สงสารน้อง ต้องมาฟังป้าบ่นอยู่สองสามชั่วโมง พี่ขอโทษลูกกกกกก
:
16. ไหว้กันเสร็จเรียบร้อย เดินไปที่วัดพระแก้ว ทัวร์ทุกประเทศอยู่ตรงนั้นแล้ว ทางเราก็เดินวน สลับกับถ่ายรูป บอกแล้วว่า วัดพระแก้วเป็นวัดที่ประหลาด ยกกล้องถ่ายมุมไหนก็สวย ชอบคณะเราที่ให้อารมณ์เหมือนคุณครูพาเด็กมาทัศนศึกษา น้องรัชชุ มีคำถามมาถามครูแมวอ้วนตลอดการเดินชม และน้องนางให้ความสนใจกับอับเฉาเรือเป็นที่สุด ส่วนน้องพลอยเป็นสายโมเดล ถ่ายรูปเอยใดเอย น้องปอเป็นช่างภาพ และ ป้าแมวอ้วนเป็นหัวหน้ากรุ๊ปทัวร์ ผู้ซึ่งพยายามขุดความรู้ตอนเรียน English for Tourguide ออกมาทุกเม็ดอย่างสุดความสามารถ
:
17. จากวัดพระแก้ว เราแวะทานข้าวก่อน ที่ซึ่งต่อมล่ามในตัวอยากออกมาทำงานมาก นับถือใจพี่ฝรั่ง ญี่ปุ่น และ จีนทุกคนที่มาเที่ยวเอง โดยไม่อาศัยล่าม หรือ เข้าใจภาษาอังไทยกฤษของชาวเราได้เป็นอย่างดี
:
18. เดินทางไกลต่อมาจนถึงวัดโพธิ์ แม่เจ้า เดินยังไงให้เหนื่อยหอบย้ายปอดมาไว้ที่คอหอย ดีว่าหนนี้เข้าประตูถูก เดินมาแล้วเจอวิหารพระพุทธไสยาสเลย แน่นอน คนเยอะมากทุกชาติทุกภาษา ที่น่าสนใจคือ ตรงนั้นไม่มีล่ามฟรี มีแต่ล่ามขูดเลือดขูดเนื้อ น่ากลัวมาก เราเป็นนักท่องเที่ยวเข้ามาเราก็กลัวนะ บอกเลย นานาชาติมุงตรงพระเศียรของพระพุทธไสยาส เยอะมาก มีต่อคิวรอถ่ายรูปด้วย สุดยอดมาก ยอมใจเลยครับผม
:
19. เดินต่อมาเรื่อยๆ จนถึงพระบาทประดับมุกภาพมงคล 108 ประการ ตรงกลางเป็นรูปจักรตามตำรามหาปุริสลักขณะ โดยลวดลายของมงคล 108 ประการนั้น เป็นการผสมผสานกันระหว่างคติความเชื่อที่รับมาจากชมพูทวีปและจีน และชาวคณะของเราเมื่อเก็บภาพจนพอใจแล้ว ก็เดินหาทางออก เราเลยบอกว่า ขอแวะไปเยี่ยมคุณปู่กับคุณย่าหน่อยได้ไหม อัฐิของปู่ย่าเราอยู่ที่วัดโพธิ์แห่งนี้แหละ ตรงวิหารคด พอเข้าไปมีฝรั่งนั่งสมาธิกันอยู่สองคน เลยได้สอนเขาเขย่าเซียมซี และได้มีการใช้วิชาแปลสด แปลด่วน แปลทันที เปลี่ยนคำทำนายด้วยเอ้า สนุกดี
:
20. พอพูดถึงพระพุทธไสยาสทีไร จะคิดถึงเวลาที่เรียนเรื่องปางพระกับอาจารย์ติโรธทุกที ปางไสยาสจริงๆ คือ reclining buddha อาจารย์มาเล่าให้ฟังบอก เจอ เด็กแปล sleeping buddha พระนอน ก็ถูกต้องแล้วไง แล้วก็ขำแบบสำรวมกันลั่นวัด ไหล่สั่นเลยทีเดียว
:
21. ปางห้ามญาติ stop the family / ปางอุ้มบาตร hold the bowl / ปางโปรดสัตว์ oh please animal อาจารย์ถือไม้เรียวรอแล้วนะ
:
22. จบจากวัดโพธิ์ เราข้ามฟากโดยเรือ ราคาตั้งห้าบาท ไปยังวัดอรุณ คนเยอะมาก เยอะจนกลัวโป๊ะจะล่มอ่ะ วัดอรุณเต็มไปด้วยนางสไบ ชาวชุดไทยเต็มไปหมด มีทุกสี ทุกทรง เราไม่ได้ใส่หรอกนะ สายถ่ายรูปรอบๆ ปีนบันไดชันมากแบบไม่เกรงใจกระโปรงตัวเอง ทั้งขาขึ้นและขาลง ถ่ายรูปแดดแยงตารับวิตามินดี
:
23. อะแฮ่ม เล่าประวัติวัดอรุณซักนิด
:
24. ไหว้พระวัดอรุณ ชีวิตโรจน์รุ่ง ทุกวันคืน
:
25. วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ข้างกองทัพเรือ ถนนอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกใหญ่
:
26. เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก สร้างสมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อวัดมะกอก เมื่อ พ.ศ. 2310 สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (พระเจ้ากรุงธนบุรี)
:
27. เสด็จทางชลมารคจากกรุงศรีอยุธยามารุ่งเช้าที่หน้าวัดมะกอก จึงโปรดเกล้าฯให้ปฏิสังขรณ์ แล้วเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "วัดแจ้ง" เพราะพระอาทิตย์ขึ้นพอดี
:
28. ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 2 ได้ทรงปฏิสังขรณ์และพระราชทานนามใหม่ว่า "วัดอรุณราชวราราม"
:
29. กลับมาที่วัดอรุณกันต่อ
:
30. พอพ้นประตูมาทางพระปรางค์ที่ขึ้นจากแม่น้ำเท่านั้นแหละ แม่เจ้า คนจะมาจากไหนเยอะแยะ
:
31. มาแบบทุกไซส์ ทุกขนาด กลุ่มเล็ก กลุ่มใหญ่ โอยยย ใดๆ จะถ่ายรูปล้วนเดินตัดกล้อง
:
32. เพลียใจจริงๆ ศาลาวัดน้อยกับศาลาพระเจ้าตากสินไม่สามารถเข้าได้
แต่ยังดีที่ได้ลอดตั่ง และถวายเงินทำบุญ
:
33. แล้วจู่ๆ ในขณะที่ออกันอยู่ตรงพี่ยักษ์วัดแจ้ง เจ้าของตำนานซัดกะยักษ์วัดโพธิ์ ผู้ก่อให้เกิดท่าเตียน เอากะยักษ์ซี่ รองเท้าน้องพลอยคนดีก็ถึงแก่การอวสานซะอย่างนั้น เลยต้องหารองเท้าแตะคู่ใจมาเปลี่ยนกันทันใดโดยด่วน ถ้าถามแมวอ้วน ยักษ์ที่น่าเอามาสู้ น่าจะเป็นยักษ์วัดพระแก้วมากกว่า ดูขนาดยักษ์วัดโพธิ์ กะยักษ์วัดแจ้งแล้ว ไม่น่าตีกันจนท่าเรือมันเตียนไปได้อ่ะ
:
34. เคลื่อนพลไปต่อที่วัดกัลยาณมิตรจ้า
:
35. ไปด้วยเรือ ที่ตรงท่าคนเยอะมาก รอคิวอยู่นานเกือบสิบนาที เป็นเรือแบบที่ต้องมุดเข้าไป
:
36. ซึ่งเราไม่ชอบเลย กลัวหัวชนเอย กลัวตกเรือเอย ไหนจะกลัวชมิ้งร่วง
อีก
:
37. ขึ้นเรือมา อากาศเย็น มีขายหนมปังให้ปลาด้วย แล้วก็ผ่านป้อมของทางทหารเรือ ลมแรงโบกพัดธงสวยเชียว
:
38. เมื่อเรือใกล้ถึงวัดกัลยาณมิตร ก็เห็นว่ามีเรือจอดเทียบอยู่อีกลำ ก็คือ ต้องเดินข้ามเรือ เพื่อไปลงท่า
:
39. อะไรจะแปลกใหม่เบอร์นั้น แถวคนรอขึ้นเรือก็ยังหนาแน่นเหมือนเดิม
:
40. วัดกัลยาณมิตร เป็นวัดที่เราชอบส่วนตัวในการมาไหว้พระ 9 วัด คือ ปรกติที่ไม่ใช่หน้าเทศกาล
:
41. วัดกัลยาณมิตรจะเป็นวัดที่เงียบสงบ ลมพัดสบาย แมวเยอะ มัคทายกอารมณ์ดี
:
42. และมากี่ที เราก็ งงกับจำนวนธูปหนึ่งกำมือในมือทุกที หนนี้ผู้ช่วยชีวิตคือคุณป้า ที่มาสอนวิธีให้
:
43. คุณป้าบอก เอาเทียนแดงไปจุด (เราทำน้ำตาเทียนหกใส่มือ) จุดธูปทั้งกำ ไหว้ฟ้าดินก่อน จากนั้นไหว้กระถางละสาม 15 ดอกจะพอสำหรับ หนึ่งกระถางธูปตรงกลาง และห้ากระถางธูปบูชาเทพเจ้าได้แค่ห้าองค์จากหกองค์ที่อยู่ตรงนั้น
:
44. เทพเจ้าแห่งหมอยา เทพแห่งโชคลาภ เทพแห่งความมั่งคง เทพแห่งการต่อสู้ เทพเจ้าแห่งเศรษฐี เทพเจ้าแห่งความรัก มัคทายกตบท้ายว่า
:
45. ไปผสมเอาสูตรเทพเจ้า ที่หลานต้องการเอาละกัน (เทพเจ้าหรือ cocktail คะ มีผสมสูตรด้วย)
:
46. วัดกัลยาณมิตร ไหว้หลวงพ่อซำปอกง โชคดีมีชัยปลอดภัยตลอดปี ให้มีมิตรที่ดี
:
47. วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร ตั้งอยู่แขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี เป็นพระอารามหลวงชั้นโท
เจ้าพระยานิกรบดินทร์ (โต กัลยาณมิตร) ได้อุทิศที่ดิน ซึ่งบริเวณดังกล่าวเดิมเรียกว่า "หมู่บ้านกุฎีจีน" วัดนี้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2368
:
48. ในสมัยรัชกาลที่ 3 และได้ถวายเป็นพระอารามหลวง ได้รับพระราชทานนามว่า "วัดกัลยาณมิตร" พร้อมกับทรงสร้างพระวิหารหลวงเพื่อเป็นที่ประดิษฐาน
:
49. "พระพุทธไตรรัตนนายก" (หลวงพ่อโต) ซึ่งเป็นชื่อที่ได้รับพระราชทานจากรัชกาลที่ 4 หรือเรียกตามแบบจีนว่า ชำปอฮุดกง หรือ ชำปอกง
:
50. พอไหว้เสร็จ ก็เข้าไปในโบสถ์ ไหว้หลวงพ่อ เสี่ยงเซียมซีแรกของปี ได้หมายเลข 28 เซียมซีดีมาก
:
51. ถือเป็นการเริ่มต้นปีที่ดีนะ ก็ถ่ายรูปหมู่พอเป็นพิธีแล้วไปต่อกันเลย
:
52. ตอนเดินออกมาเจอน้องเคน ก็กรี๊ดและกระโดดใส่กันกลางวัด กอดกันแน่นมากพูดเลย คิดถึงน้องมาก
:
53. ก่อนพุ่งไปเรือทัวร์สามวัด ข้ามไปยังวัดระฆัง
:
54. บอกเลยว่า ค้นพบความกลัวของตัวเองอีกอย่างแล้ว นั่นก็คือ การขึ้นและลงเรือ คืออยู่บนเรืออ่ะไม่เป็นไร ไม่เป็นเลยจริงๆ จะมาเป็นหนักๆ คือช่วงที่จะก้าวลงและก้าวขึ้นจากเรือ หวาดเสียวที่สุดแล้ว โชคดีมากที่วันนี้ไม่ร่วงน้ำลงไปซะก่อนอ่ะ วันนี้น้ำสูงด้วย แรงด้วย
:
55. วัดระฆัง ท่าน้ำมีปลาเพียบ นกพิราบอีกฝูง และ โรงเรียนจิงเกอเบลคอนแวนต์ (สตรีวัดระฆัง) คำถาม ทำไมโรงเรียนสตรีถึงไปอยู่ในวัด
:
56. วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร หรือ วัดระฆัง, วัดหลวงพ่อโต
:
57. เป็นพระอารามหลวงชั้นโทชนิดวรมหาวิหาร อยู่ในเขตการปกครองคณะสงฆ์มหานิกายภาค 1
:
58. ไหว้พระวัดระฆัง มีชื่อเสียงโด่งดังตลอดปี
:
59. มาถึงวัดระฆัง สวดชินบัญชร ถ่ายรูปพอเป็นพิธี
:
60. ความเชื่อที่สำคัญเกี่ยวกับการไหว้พระที่วัดระฆังก็คือ หากมาสักการะสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) และพระประธานที่วัดระฆังด้วยธูป จะช่วยเสริมความเป็นสิริมงคลให้แก่ชีวิต และมีชื่อเสียงโด่งดังตลอดปี
:
61. ระหว่างที่น้องๆ ถ่ายรูป ทางนี้ยืนสวดชินบัญชรจนจบ แล้วจรลีออกมา กลับมาที่ท่าช้าง
:
62. พอมาถึงท่าช้าง เวลาก็ล่วงเลยมาจนถึงห้าโมงเย็น นั่นหมายความว่า หลายๆ วัดจะปิด คำถามที่ว่า ชีวิตเราๆ เอาไงกันดี ก็โผล่มาอีก คุยไปคุยมา จบที่วัดสุทัศน เทวสถาน และ ศาลเจ้าพ่อเสือ เป็นการไหว้แบบระบบ Drive-Thru เอาศรัทธาและการเดินผ่านเป็นที่ตั้ง ไหว้และถ่ายรูปกันไปอีกสักพักการเดินทางไกลมาราธอนก็เริ่มขึ้น จากวัดสุทัศน ยาวไปยังสามยอด ตลอดทางมีร้านขายปืนเยอะมาก เยอะจนแบบ เอามาเลยซักกระบอก แมวอ้วนจะไปสวรรค์แล้ว ไม่ไหวแล้ว ขาจะหลุด สองหมื่นก้าวคงมาด้วยสาเหตุนี้
:
63. ไม่เคยดีใจที่เห็นสถานี MRT เท่านี้มาก่อน พูดเลย สามยอดจ๋า ไอเลิฟยู และขึ้นทั้งที ขึ้นซะนานเชียวนะ หนึ่งสถานีถ้วนมาลงสถานีวัดมังกร แล้วก็เดินไปวัดมังกร ลุ้นว่าเปิดไหม เอาน่า ลองดูเผื่อยังเปิดอยู่ โชคดีมาก เลยเข้าไปไหว้ ถ่ายรูป และน้องๆ ได้แก้ชงด้วย ถือเป็นเรื่องราวดีๆ
:
64. จะมีเรื่องไม่ดีก็ตรงที่ จากสามปีที่แล้ววัดยังซ่อมไม่เสร็จ เส้นทางลึกลับประหนึ่งเข้าดิสนีย์แลนด์ยังอยู่ ไม่พอ ความที่ไม่รู้ ว่าถ้าจะแก้ชง ไม่ต้องซื้อชุดไหว้เข้ามาก็ได้ มาซื้อชุดปัดตัวอย่างเดียวด้านใน ก็เลยโดนเจ้าหน้าที่ดุ บอกว่า โดนข้างหน้าเค้าต้มมาละสิ เอ้า..บ้านไม่ได้อยู่ในวัดมังกร จะไปรู้ได้ไงละคะ แหม พูดมากเดี๋ยวโดดทับเลย ยิ่งโมโหหิวอยู่
:
65. จากนั้นเราก็ออกมาเพื่อพบว่า เยาวราช วันเสาร์ คนเยอะมาก มากแบบไม่มีคำไหนอธิบายได้เลย คนจะเยอะไปไหน อยากกินอะไรที่ดัง รอไปเลยอย่างน้อยๆ ก็ครึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นบะหมี่มังกรขาว ก๋วยจั๊บโรงหนัง ปลาหมึกย่าง เกาลัด ขนมปัง อยากรู้อะไรดังแค่ไหนให้ดูคนค่ะ คนยิ่งเยอะแปลว่ายิ่งดัง เสียดายว่าไม่ได้แวะซื้อจันอับเลย
:
66. ความที่ไม่รู้หนทางอะไรทั้งสิ้น มีหน้าที่เดียวคือเดินตามน้องๆและถ่ายรูปถนนเยาวราช อยากได้อะไรที่ตรุษจีน สีแดง มังกร พัด ขอให้มาที่นี่ สุดยอด แดงจนตาลายไปหมด
:
67. สุดท้ายเราก็มาจบกันที่ ร้านข้าวต้ม 3/1 ตรงแปลงนาม เป็นสิบนาทีที่ได้ระบายปัญหาให้น้องๆฟัง ท่ามกลางเชิดสิงโต ไอติมมะแพ้วบ้านพร้าว และเมื่อกับข้าวลง ทั้งโต๊ะก็ตกอยู่ในความเงียบ จ้วงข้าวกันเงียบกริบ ข้าวต้มอร่อยมาก ผัดกุ้ยช่ายก็อร่อย เอาเป็นว่า เท่าที่มาเยาวราช ไม่ค่อยเจอร้านที่เฟลนะ ขนาดกุ้ยช่ายทอดยังอร่อยเลย
:
68. เราอยากกินก๊วยจั๊บโรงหนัง อยากกินบะหมี่มังกรขาว อยากกินหนมปังปิ้ง พรละมัยด้วย
:
69. เดินกลับมาขึ้น MRT ในสภาพที่แม้มีข้าวลงท้องไปแล้วก็ถ่านหมดอยู่ดี เพราะลากยาวมาตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า ยาวไปสองทุ่มนิดๆ และไม่ได้นอน ประกอบร่างมาได้ถือเป็น success แล้ว 555
:
70. สรุปหนนี้ ยังไม่ครบ 9 วัดค่ะ ได้ไหว้ ศาลหลักเมือง วัดพระแก้ว วัดโพธิ์ วัดอรุณ วัดกัลยาณมิตร วัดระฆัง และไหว้พระแบบ drive thru อีกคือ วัดสุทัศน ศาลเจ้าพ่อเสือ เทวสถาน และ วัดเล่งเน่ยยี่ รวมเป็น 2 ศาล 7 วัด หนึ่งเทวสถาน เราไม่นับศาลกับวัดรวมกันค่ะ หนหน้าเอาใหม่ ขอไปหาร้านนวดขาก่อนนะคะ
:
71. การเดินทางทั้งหมด สนับสนุนโดยสองขา พูดเลยว่าวันนี้น่าจะเดินมากที่สุดในรอบสามเดือน เดินไปได้ไงสองหมื่นก้าว ตีระยะทางออกมาคือ 13 กิโล เดินลู่วิ่งตอนโหดๆยังไม่เท่านี้เลยค่ะ
:
72. อีกทางคือเรือข้ามฟากและเรือไหว้พระ บริการทุกท่า ระทึกใจทุกครั้งที่ก้าว กระดูกหลังลั่นก๊อบแก๊บไปหมดเลยค่ะ
:
73. ทริปวันนี้บันเทิงอยู่ในระดับนึงนะ ถ่ายรูปโฟโต้ชู๊ตมากแม่ จนบางทีก็แอบคิด
:
74. ไหนไหว้พระ ไหนบุญ นี่ไม่น่าจะได้บุญแล้ววันนี้ แมวอ้วนเอ๊ยยยยยยยย
:
75. วันนี้มีกัลยาณมิตรไปด้วยนะจา ไม่ได้ไปคนเดียวแล้วนะ
:
76. วันนี้แลดูยุ่งยากเวลาไปวัดแต่ละที่
:
77. ขั้นตอนก็ จุดธูป ถือน้องชมิ้ง ถือถาดไหว้ด้วยเอ้า เช็คอิน ถ่ายเดี่ยว ถ่ายหมู่ เปลี่ยนนางแบบ ถอดแว่น ถอดมาส์ก โพส ยิ้มหวาน ถ่ายสตอรี่อีก วุ้ย ยุ่งจริงแมวอ้วน
:
78. อากาศดีไม่มีแดด อากาศน่ากินหมูกะทะพูดเลย ขอย้ำอีกครั้ง เป็นความโชคดีมากๆๆๆๆๆ
:
79. ราวกับเหมาตะไคร้ทั้งตลาดไทมากปัก ตัวแอบไหม้อยู่นะ
:
80. ทำเวลาดีมากเลยด้วย เสียดายที่ไม่ทัน
:
81. ใครที่เคยบอกว่า คนไทยไปวัดน้อย วันนี้ไม่ใช่แล้วนะจ๊ะ
:
82. แต่ก็ยังขอบ่นเหมือนเดิม ป้ายอธิบายกฎต่างๆเป็นภาษาอังกฤษน้อยมากคนไทยอ่านยังไม่เข้าใจฝรั่งจะเข้าใจได้ยังไง
:
83. อย่าเชื่ออะไรๆในพันทิป การวางแผนที่ดีคือการวางแผนด้วยตัวเองเท่านั้น อยากไปไหนไป อยากหยุด หยุด กินน้ำก็ต้องกิน เหนื่อยพัก
:
84. คนไทย "โขกสับ" เอากะนักท่องเที่ยวเยอะมาก ทุกรูปแบบ ที่แย่คือพูดภาษาเค้าได้ปร๋อกว่าภาษาไทยอีกค่ะ
:
85. ไม่ได้เจาะจงถึงอาชีพใดนะ แต่บอกเลยว่าเกือบทุกอาชีพตรงนั้น มันน่าเศร้าในระดับนึงเลยนะพูดเลย
:
86. กรุงเทพฝั่งในพระนครรถติดมาก และบางอย่างก็เหนือการตัดสินใจของเรา
:
87. ฝรั่งมาไทยกินเบียร์กันเหมือนกินน้ำเปล่า..น้ำแพงไม่มียี่ห้อ ปิดฝาไม่สนิท อันตรายมากกก
:
88. เด็กเล็กๆที่ผู้ปกครองพามา พาเราเครียด บางคนถ่านหมด หลับคอพับคออ่อนเลย
:
89. ธูปแต่ละวัดกลิ่นไม่เหมือนกัน
:
90. อยากไปอีกแต่สารร่างไม่ไหวแล้ว อยากไปเก็บให้ครบ 9 วัดอ่ะ
:
91. เอาเป็นว่า มากี่หน เส้นทางไม่เคยจะถูกต้องซักที ครั้งนี้ก็เช่นกัน มันจะมีแต่เส้นทางที่ไปแล้วสบายใจ ไม่มีเส้นทางที่ถูกต้องที่สุดหรอก
:
92. ขอขอบคุณกัลยาณมิตรที่แสนดี ปอ พลอย และรัชชุ ที่มาอดทนอยู่กับเราทั้งวัน ตั้งแต่เช้ามากยันกลางคืน ช่วยถือกระเป๋า เอาน้ำให้กิน เอายาดมให้ ถ่ายรูปสวยๆให้ น่าจะมีลงไปถึงปีหน้า รักมาก รักเลยจริง
:
93. ทนร้อน ทนแดด เลือดสาด แต่ก็ยังสู้ตายกับเราเสมอ
:
94. ขอบคุณหนูมิ้งตัวเล็ก ที่เกาะกระเป๋าหม่าม๊าแน่นๆ และออกมาถ่ายรูปเมื่อมีอาหารและขนมมาเกี่ยวข้อง
:
95. แม้คนรอบข้างจะไม่เข้าใจ พวกเอ็งทำอะไรกันวะ ตุ๊กตาตัวนี้คืออะไร ทำไมมีเขาด้วย
:
96. ขอบคุณสองขา หนึ่งใจ และน้ำขวดกับยาดม ที่ช่วยให้รอดชีวิตในวันนี้
:
97. ขอบคุณสำหรับทุกการติดตามและขอโทษที่หากการอัพรูปหรือบ่นในวันนี้ทำให้ทุกคนรำคาญค่ะ
:
98. ขอบคุณผู้อ่านทุกคนที่ติดตามบ่นทึกป่วยๆของเจ้าแมวอ้วนขี้บ่นอยู่เสมอ ขอบคุณที่อ่านมาจนจบ และเป็นกำลังใจที่ดีของหนูเสมอมา
:
99. หนหน้าแมวอ้วนจะเก็บให้ครบทุกวัด ทุกศาล และพาแม่เปี่ยมไปด้วย แมวอ้วนสัญญา
:
100. เขียนมาได้ไงหนึ่งร้อยข้อ สมแล้วที่เป็นเจ้าแมวอ้วนขี้บ่นตัวจริงแบบไม่ต้องสืบ
:
แมวอ้วนตัวนั้น กับสัมภาระสามโลครึ่ง น้องมิ้ง เสื้อ Alto หมวกแดง และกระโปรงเทายาวลากพื้นของหล่อน
#VanillaTK #บ่นทึก #แมวอ้วนตัวนั้นเจอนั่นเจอนี่ #KUChorus #Altoรุ่นเพี้ยนอลังการ
บันทึก
1
3
1
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย