Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
รีวิวไปเรื่อยเปื่อย
•
ติดตาม
2 ก.พ. 2023 เวลา 14:13 • ท่องเที่ยว
ไต้หวันในวันเหงาๆ
เรามีโอกาสได้กลับไปไต้หวันอีกครั้งหลังจากเปิดประเทศโดยที่ไม่ต้องกักตัว แค่สังเกตตัวเองที่ที่พักได้เลย การกลับไปไต้หวันครั้งนี้เราไปในฐานะนักท่องเที่ยว แต่สำหรับเรา เราขึ้นว่ามันไม่ได้ต่างจากตอนที่ไม่มีโควิด เพียงแต่ว่าค่าครองชีพค่อนข้างที่จะสูงขึ้น และร้านค้าบ้างร้านก็ปิดตัวลง เปลี่ยนแปลงไปตามเศรษฐกิจ
เนื่องจากช่วงที่เราไปเป็นช่วงสิ้นปีพอดี จะได้บรรยากาศที่แตกต่างจากหลายๆ ช่วงของเดือน เจอทั้งฝน ลม อากาศที่หนาวลงเรื่อยๆ และสลับไปเป็นอากาศที่สบายๆ
และตัวไทเปเองจะมีอากาศที่แตกต่างจากตัวเมืองอื่นๆ อย่างตอนที่เราไปเราพักที่ไทเป อากาศก็จะ 16 17 องศามีฝน มีลม แต่พอเราไปไถจงอากาศก็อุุ่นขึ้น 18 19 ที่เป็น 18 19 ที่ต่างจากไทเป
Ximen Ding 【西門町】ding ding dong
Ximen
เราเริ่มกันที่ซีเหมิน เป็นแหล่งรวมวัยรุ่นที่แน่นอนใครมาไต้หวันต้องไม่พลาดที่จะมาที่นี้แน่นอน เนื่องจากเราพักโรงแรมเที่ยวซีเหมินและค่อนข้างคุ้นเคยเป็นอย่างนี้ และช่วงที่เราไปมันเป็นช่วงศุกร์ เสาร์ อาทิตย์พอดี คนก็จะเยอะหน่อย
90 % เป็นคนไทยแน่นอน บอกเลยว่าใครที่ไม่เคยไปไต้หวัน หรือเพิ่งไปครั้งแรก ไม่ต้องกลัวเหงาเลย อาจจะได้เพื่อนเพิ่มกลับไปจากการมาไต้หวันครั้งนี้ก็ได้นะ
ซีเหมินจะเปิดตั้งแต่ประมาณ 10 - 11 โมงไปจนถึง 4 - 5 ทุ่มเลย ยิ่งดึงคนยิ่งเยอะ และที่ซีเหมินจะมีโชว์กายกรรมมาแสดงให้เราดูทุกๆ วันตรงกลางวงเวียนซีเหมินเลย คนจะค่อนข้างแน่นช่วงเวลานั้น
ถัดมาตรงไฮไลน์ของซีเหมินเลยคือ ทางม้าลายสายรุ้ง
ทางม้าลายหน้าทางออกที่ 6
สืบเนื่องจากปีแรกๆ ที่ไต้หวันผ่านกฎหมายเกี่ยวกับ LGBT ทำให้ซีเหมินทำทางข้ามม้าลายต้อนรับกฎหมายตัวนี้และเป็นกลายเป็นจุดไฮไลน์ของการมาเยือนซีเหมินเลยก็ว่าได้
สำหรับทางม้าลายสายรุ้งนี้อยู่ที่ Ximen Exit 6 อย่าลืมแวะมาถ่ายรูปกันนะ
Banqiao 【板橋】ปันเฉียว ปันใจ
banqiao สถานีรถไฟ
เรียกได้ว่าสถานีรถไฟแห่งนี้เป็นจุดไฮไลน์ในเรื่องของการจัดงานไฟต่างๆ อย่างมากเลย เป็นสถานที่ค่อนข้างเริ่มจะออกจากตัวไทเปสักเล็กน้อย ถ้านั่งรถไฟฟ้าก็ลงสายสีน้ำเงิน banqiao
และยังสามารถต่อรถไฟ TRA เพื่อไปสนามบิน หรือออกต่างจังหวัดได้อีกด้วย ที่นี้จะเป็นเหมือนสถานีไทเปเมนเลย
และไฮไลต์ของที่นี้คือการที่การจัดไฟเช่น เค้าดาวน์ Christmas เป็นต้น สามารถมาถ่ายรูป เดินเล่นตามร้านค้าต่างๆ มาเล่นกิจกรรมตามสุ่มต่างๆ ได้อีกด้วย
แนะนำว่า ควรมาช่วงเทศกาล รับรองสนุกไม่แพ้ในไทเปเลย
Banqiao ในวันสิ้นปี
ไทเป 101 จุดเด่นของการเค้าดาวน์
ไทเป 101
จุดเด่นของการมาเค้าดาวน์ในไต้หวันคือการมาดูพลุที่ตึก ไทเป 101 ต้องบอกว่าในแต่ละปีพลุก็จะมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป แต่ละปีสวยไม่แพ้กันแน่นอน
ความน่าสนใจของการมาดูพลุและเค้าดาวน์ที่ตึกไทเป 101 คือการลุ้นสภาพอากาศว่าอากาศจะเป็นใจไหม ฝนฟ้าเป็นยังไง
แต่อย่างตอนที่เราไปนี้วันนั้นท้องฟ้าค่อนข้างมีเมฆมากเนื่องจากฝนตกตั้งแต่เช้าและตลอดทั้งวัน มากน้อยสลับกันไปหมด ตอนที่เราไปถึงคือเราก็ลุ้นว่าเราจะได้เห็นพลุชัดไหม แต่ก็สนุกมากๆ ที่สุดท้ายเราก็ได้เห็น
แต่ต้องบอกว่า ให้รีบดูและรีบกลับ อาจจะไม่ต้องอยู่จนพลุนัดสุดท้ายจบก็ได้เนื่องจากเราจะขึ้นรถไฟกลับไม่ได้ เพราะคนจะเยอะมาก
บางคนก็เลือกจะดูไปครึ่งทางละกลับบ้าน บางคนก็เลือกกลับสุดท้ายไปเลย แต่พลุดปีนี้สวยมาก คนก็เยอะมากเช่นกัน แนะนำว่าไต้หวันสิ้นปีคือเดอะเบสเลยก็ว่าได้
ไทเป 101
ไทจง ไทใจ ในวันที่เหงาใจ
TRA ไถจงมุ่งหน้าเข้าสู่เมืองไถจง
ต้องบอกว่าการมาไถจงในครั้งนี้เราตั้งใจมามู มู มูเตลู
ไทจงรอบนี้ต่างจากรอบอื่นที่เรามา เนื่องจากรอบนี้เรามาคนเดียว แล้วมาแบบชิวๆ กินลมชมวิว เราเลยจองตั๋ว TRA ผ่านทางแอพ แล้วนั่งมาลงที่สถานีไทจงแต่ว่าเรายังไม่ถึงไทจงในทันที เราต้องต่อรถไฟฟ้าที่เป็นสายที่วิ่งเฉพาะในไทจง เข้าไปในตัวเมืองไทจงอีกที
พอเราออกจากส่วนรถไฟ TRA แล้วเดินตามทางที่เขียนว่ารถไฟฟ้าได้เลย เราจะสถานี [Xinwuri] และต่อเข้าไปที่สถานีรถไฟ [Taichung]
การไปไทจงครั้งนี้เรานัดกับเพื่อนที่ไทจงไว้ว่าเราจะไปมูความรัก ที่ไทจงมีวัดดังอยู่วัดหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องความรัก และดังไม่แพ้กับในไทเป แต่วิธีการขอก็จะแตกต่างกันออกไป ตามแต่ละวัดในไทเปก็จะขออีกแบบ ในไทก็จะขออีกแบบ แต่ผลลัพธ์ก็คือเทพเจ้าองค์เดียวกัน
Taichuang Leh Cherng Temple
วัดนี้ชื่อว่า Taichuang Leh Cherng ดังในเรื่องของความรักมากๆ เทพเจ้าเหย่เหล่าจะอยู่ที่ชั้นสอง ก่อนที่เราจะขอพรเหย่เหล่า เราต้องนำขนมหวานไปถวายท่านก่อน
ค่อยทำการหยิบปัวปวยมาโยนขอพร แต่ก่อนโยนเราต้องขอพรสิ่งที่เราต้องการก่อนพอขอเสร็จแล้ว เราค่อยทำการโยน โยนแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ถ้าข้างหนึ่งคว่ำ ข้างหนึ่งหงาย แปลว่าสิ่งที่เราขอเหย่เหล่าท่านตกลง ค่อยทำขั้นตอนต่อไป
ถ้าหากเราโยนแล้วข้างหนึ่งไม่คว่ำ ไม่หงาย เราต้องทำการเปลี่ยนคำขอของเราใหม่ไปเรื่อยๆ จนกว่าเราจะโยนให้คว่ำข้างหนึ่ง หงายข้างหนึ่ง
ที่วัดนี้เราจะโยนกันแค่ครั้งเดียว ซึ่งจะแตกต่างจากที่วัดหลงซานในไทเป ที่ต้องโยนติดต่อกันสามครั้งถึงจะแปลว่าท่านตกลง
พอเราโยนได้แล้ว ให้เราเดินไปเสี่ยงใบเซียมซี ที่นี้จะไม่มีได้แดงให้เราหยิบเหมือนที่วัดหลงซาน แต่จะมีใบเซียมซีให้เรากลับมาแทน และการที่เราจะเอาปันปวยไปคืนเราต้องทำการเสี่ยงเซียมซีก่อน
ซึ่งเราก็ทำเหมือนกับที่เราขอพรเลย เพื่อถามเหย่เหล่าอีกทีว่า พรที่ขอไปเมื่อกี้คือสิ่งที่ท่านให้จริงๆ ใช่ไหม ขอเสร็จก็โยนปันปวย ให้ข้างหนึ่งคว่ำ ข้างหนึ่งหงายเหมือนเดิม โยแค่ครั้งเดียว ถ้าเราได้เราก็คืนปันปวยและเดินใบหยิบตามเบอร์ที่เราได้
ถ้าเราไม่ได้ เราก็ทำการเปลี่ยนคำขอไปเรื่อยๆ จนกว่าเราจะได้ และพอเราได้ใบเซียมซีแล้วอย่าลืมไปลาขนมที่เรานำมาถวายเหย่เหล่ากลับไปทานด้วยนะคะ เพื่อเป็นสิริมงคลไม่ต้องตั้งทิ้งไว้
ถ้าหากพรที่เราขอสำเร็จ สมหวังแล้ว เจอความรักที่เราต้องการแล้ว อย่าลืมพาเขากลับมาขอบคุณเหย่เหล่าด้วยนะคะ
วิธีการเดินทาง สามารถออกจากสถานีรถไฟ ไม่ว่าจะรถไฟฟ้าหรือ TRA ต่อแท็กซี่ไปได้เลย ในไทถงส่วนใหญ่ต้องนั่งรถอย่างเดียว การเดินทางไม่ค่อยสะดวกเท่าไทเป
แนะนำว่า ถ้าใครชอบอากาศหนาวๆ เกาใจ มาช่วง เดือนตุลาถึงกุมภาพันธ์ได้เลย จะเป็นช่วงที่ค่อนข้างหนาวกว่าเดือนอื่นๆ แต่ฝนลม อันนี้คาดเดาได้ยากเพราะทุกๆ เดือนเจอหมด
ถ้าใครโชคดีหน่อยก็จะพบกับแผ่นดินไหว ยังไงอย่าลืมมาเค้าดาวน์ที่ไต้หวันกันน้าาา แล้วจะหลงรักจนไม่อยากกลับเลยย แล้วพบกันใหม่ในการเดินทางครั้งหน้านะ
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย