Black Bird (TV Mini Series 2022) / Apple TV+
ก่อนอื่นต้องบอกว่าทึ่งกับการแคสนักแสดงที่เหมือนโคลนนิ่ง Larry Hall ฆาตกรต่อเนื่องตัวจริงออกมาแบบเป๊ะ ๆ แล้วพอเหมือนตัวจริงมากมันเลยทำให้เราสะพรึงตอนที่แลร์รี่บอกว่าฆ่าเด็กสาวยังไง บุคลิกการพูดช้าเนิบ ๆ ดูเหมือนคนไม่มีพิษมีภัย แต่ทว่าแผ่รังสีความโรคจิตออกมาเต็ม ๆ ต้องชมเลยว่า Paul Walter Hauser แสดงเก่งมากจริง ๆ และอีกหนึ่งความดีงามของเรื่องนี้คือ ความหล่อเท่ของ Taron Egerton เหมาะแล้วกับบทที่ถูกใช้ให้ไปสอดแนมแลร์รี่ เพราะถึงลุคจะดูเป็นหนุ่มแบดบอย แต่ก็ดูเป็นคนเฟรนด์ลี่อ่อนโยนน่าไว้วางใจด้วย
มินิซีรีส์ 6 ตอนที่สนุกไม่อยากให้พลาด สร้างมาจากเค้าโครงคดีฆาตกรรมต่อเนื่องสุดโด่งดังในอดีต ที่ทุกวันนี้ก็ยังตามหาศพของเด็กสาวเหล่านั้นไม่เจอ เพราะแลร์รี่ไม่ยอมบอกว่าฝังพวกเธอไว้ที่ไหน ซีรีส์เล่าตั้งแต่ช่วงที่เริ่มควบคุมตัวแลร์รี่เข้าคุกในข้อหาฆาตกรรม แต่ว่าก็ยังไม่มีหลักฐานมัดตัวแน่ชัด นักสืบเลยส่ง จิมมี่ คีน นักโทษที่ติดคุกคดียาเสพติดให้ไปล้วงข้อมูลจากแลร์รี่ เผื่อว่าเขาจะหลุดปากพูดถึงจุดฝังศพออกมาก่อนที่แลร์รี่จะถูกปล่อยตัวในอีกหนึ่งเดือน ถ้าจิมมี่ทำภารกิจนี้สำเร็จเขาจะได้รับการปล่อยตัว
จิมมี่จึงต้องเนียนไปตีสนิทเพื่อสืบว่าแลร์รี่ฝังศพไว้ที่ไหน แต่ช่วงเวลาแห่งการพูดคุยกับฆาตกรโรคจิตในแต่ละครั้ง จิมมี่ถึงกับหน้าเปลี่ยนสีแอบขนลุกชูชันเพราะความหวาดกลัวเมื่อยามที่แลร์รี่เผยธาตุแท้เล่าความวิปริตออกมาได้อย่างหน้าตาเฉย โดยเฉพาะซีนที่แลรี่เล่าว่า เขาร่วมรักกับเด็กสาวแล้วจิ๊มิแห้งผาก อันนี้ต้องไปดูเอง น่าขยะแขยงสัส ๆ ไอ้โรคจิตเอ้ย!
นอกจากประเด็นหลักที่ให้จิมมี่ล้วงความลับจากแลร์รี่แล้ว ยังมีดราม่าพ่อลูกที่ใส่มาดีจัด ๆ พอหอมปากหอมคอ ตัดสลับกับการสืบสวนคดีของตำรวจที่อยู่นอกคุก และเล่าย้อนปมความหลังในวัยเด็กของทั้งคู่ รวมแล้วเป็นมินิซีรีส์ที่เล่าเรื่องกระชับแต่ดีเทลทุกอย่างครบถ้วน ไม่ขาดไม่เกิน สนุกจริง!
#BlackBird
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
