3 ก.พ. 2023 เวลา 01:00

สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว สิ่งนั้นดีเสมอ…

หลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินสำนวนนี้มาบ้าง แต่คงมีน้อยคนที่เชื่อในสำนวนนี้ไปมากกว่า Lou Pai เขาเป็นนักธุรกิจชาวจีนที่เคยทำงานที่ Enron ตั้งแต่ปี 1987 จนได้เป็น CEO ของ Enron Energy Services ตั้งแต่ปี 1997 - 2001
ถึงแม้เขาจะเป็นคนเงียบ ๆ ไม่ค่อยสุงสิงกับคนอื่น แต่เขาก็ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ที่ Enron เขากินข้าวที่ร้านหรูหราเป็นประจำ และใช้เครื่องบินเจ็ตของบริษัทในการเดินทางไปมาเสมอ ๆ จนภายหลัง Ken Lay อดีต Chairman ของบริษัทได้สั่งห้าม
1
และถึงแม้ว่าเขาจะแต่งงานแล้ว เขาก็ใช้ชีวิตทั้งในช่วงเวลาทำงาน และหลังเวลาทำงานในคลับเปลื้องผ้าเป็นประจำ จนได้รู้จักกับ Melanie Fewell สาวเปลื้องผ้าที่ทำงานในที่แห่งนั้น
ซึ่งก็มีสามีแล้วเช่นกัน ทั้งสองได้มีความสัมพันธ์จนกระทั่งเธอตั้งท้องในเวลาต่อมา และถูก Lanna ภรรยาของเขาที่แต่งงานกันมากว่า 20 ปี และมีลูกด้วยกันสองคนจับได้ เขาจึงถูกเธอฟ้องหย่า และเรียกร้องให้จ่ายค่าชดเชยการหย่าจำนวนมาก
ชีวิตที่ดูเหมือนเลวร้ายกลับกลายเป็นโชคดีของเขา ตามข้อตกลงของการหย่า เขาจำเป็นต้องขายหุ้นของ Enron ออกมากว่า 250 ล้านเหรียญสหรัฐ เพียงไม่กี่เดือนก่อน Enron จะล้มละลาย และด้วยข้ออ้างดังกล่าว เขาจึงรอดข้อกล่าวหาการใช้ข้อมูลภายในในการซื้อขายอย่างหวุดหวิด ในขณะที่เพื่อนร่วมงานของเขาหลายคนถูกกล่าวหาในข้อหาดังกล่าว
ถึงแม้ในภายหลังเขาจะยอมตกลงจ่ายค่าปรับนอกศาลรวม 31.5 ล้านเหรียญ โดย 30 ล้านเหรียญสหรัฐถูกนำไปเข้ากองทุนเพื่อชดเชยผู้เสียหายจาก Enron
หลังการหย่า เขาได้แต่งงานกับ Melanie Fewell และย้ายไปซื้อที่ดินเพื่อทำฟาร์มม้าในรัฐ Texas และเคยเป็นเจ้าของที่ดินใหญ่ที่สุดอันดับสองในรัฐ Colorado เลยทีเดียว และ Live happily ever after
ในปี 2005 เขาได้เคยให้สัมภาษณ์ในหนังสารคดีเรื่อง Enron: The Smartest Guys in the Room ซึ่งได้เรียกเขาว่า "the invisible CEO" (เดาว่าน่าจะเป็นเพราะมัวแต่อยู่ที่คลับเปลื้องผ้า)
อ้างอิง :
ป.ล. ต่อต้านการกระทำดังกล่าว แต่บังเอิญว่าคนนี้ทำชั่วแล้วดันได้ดี
โฆษณา