3 ก.พ. 2023 เวลา 12:30 • หุ้น & เศรษฐกิจ

เจาะลึก MEB หุ้นน้องใหม่เตรียม IPO!

MEB หรือ MEB CORPORATION PCL ได้เริ่มดำเนินการแพลตฟอร์มขายวรรณกรรมออนไลน์ ตั้งแต่ปี 2011 โดยนายวิวร มะหะสิทธิ์ และนายกิตติพงษ์ แซ่ลิ้ม เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ หลังจากนั้น B2S ได้แสดงความสนใจและเข้ามาร่วมลงทุน ในปี 2014
📌Business Model
บริษัทฯ เป็นผู้นำในการประกอบธุรกิจจำหน่ายหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) ในประเทศไทยเมื่อพิจารณาจากรายได้รวม นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีธุรกิจอื่นๆ ได้แก่ การจัดจำหน่ายอุปกรณ์อ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Reader) และ ธุรกิจให้บริการแพลตฟอร์มระบบห้องสมุดดิจิทัลสำหรับองค์กร (Hibrary) ซึ่งดำเนินงานผ่านบริษัทย่อยของบริษัทฯ โดยถือหุ้นร้อยละ 75 ของบริษัท ไฮเท็คซ์ อินเตอร์แอคทีฟ จำกัด (“Hytexts”)
1️⃣Meb Corporation ดำเนินธุรกิจจำหน่ายหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) ผ่านแพลตฟอร์ม meb และ readAwrite ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับอ่านวรรณกรรมออนไลน์ระดับแนวหน้าของประเทศไทย โดยมีช่องทางจำหน่ายผ่านเว็บไซต์ www.mebmarket.com และ www.readAwrite.com และแอปพลิเคชัน meb และ readAwrite บนระบบปฏิบัติการต่างๆ ซึ่งทั้ง 2 แพลตฟอร์มมีวรรณกรรมออนไลน์ที่จัดจำหน่ายที่แตกต่างกันดังนี้
🔹 แพลตฟอร์ม meb: จำหน่ายวรรณกรรมออนไลน์ที่มีความหลากหลายจากสำนักพิมพ์และเจ้าของผลงานอิสระ เช่น นิยาย หนังสือทั่วไป (non-fiction) การ์ตูน นิตยสาร และหนังสือพิมพ์ เป็นต้น โดยแพลตฟอร์ม meb มีการจำหน่ายวรรณกรรมเป็นเล่มและเป็นชุด
- Registered Users: ~8.2 ล้านราย
- Monthly Active User หรือ MAU: ~600,000 ราย/เดือน
- Payment Method: Credit & Debit Card, ThaiQR Payment, PromptPay, True Money, ShopeePay, Rabbit Line Pay, Counter Service, จ่ายเงินสดที่จุดรับชำระเงินต่างๆ ของบุคคลภายนอก, meb coin, The1 Point, Alipay และ Dolfin Wallet
🔹 แพลตฟอร์ม readAwrite: เป็นแพลตฟอร์มสำหรับชุมชนนักเขียน-นักอ่าน โดยให้สมาชิกสามารถโพสต์คอนเทนต์หรือเนื้อหาได้ด้วยตัวเอง (User Generated Content หรือ “UGC”) โดยเจ้าของผลงานสามารถเลือกที่จะจำหน่ายผลงานของตัวเอง และ/หรือ ให้นักอ่าน Donate ให้เพื่อเป็นการสนับสนุน ทั้งนี้ เนื้อหาบนแพลตฟอร์ม readAwrite จะเป็นการนำเสนอนิยายเป็นตอน และนิยายแชท โดยนักเขียนสามารถเขียนไปและโพสต์นิยายตอนต่อไปได้พร้อมๆ กัน
- Registered Users: ~8.2 ล้านราย
- Monthly Active User หรือ MAU: ~5.4 ล้านราย/เดือน
- Payment Method: meb coin (meb coin 1 เหรียญ มีมูลค่าเท่ากับ 1 บาท)
รายได้ในส่วนของการขายผลงานจะคิดเป็นประมาณ 20-30% ของราคาขายหลังหักค่าบริการตัวกลางชำระเงิน ในส่วนที่เหลือ 70-80% จะเป็นรายได้ให้กับนักเขียนหรือเจ้าของผลงานนั้นๆ
2️⃣Hytexts ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายเครื่องอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Reader) ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น เว็บไซต์ www.hytexts.com ร้านค้าและช่องทางออนไลน์ของ B2S และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำทั่วไป เป็นต้น นอกจากนี้ Hytexts ยังดำเนินธุรกิจให้บริการระบบห้องสมุดหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Library) สําหรับองค์กร (หรือเรียกว่า “Hibrary")
โดยผู้ใช้บริการสามารถสร้างห้องสมุดดิจิทัลของตัวเอง และ เผยแพร่วรรณกรรมให้แก่บุคลากรในองค์กร โดยมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เช่น โรงเรียน มหาวิทยาลัย หน่วยงานรัฐ บริษัทเอกชน และโรงพยาบาล เป็นต้น นอกจากนี้ Hytexts ยังมีธุรกิจจัดจำหน่าย E-Book ผ่านแพลตฟอร์ม Hytexts โดยมีช่องทางจำหน่ายผ่าน เว็บไซต์ www.hytexts.com และแอปพลิเคชัน Hytexts บนระบบปฏิบัติการต่างๆ
- Registered Users: ~43,000 ราย
- Monthly Active User หรือ MAU: ~5,000 ราย/เดือน
- Payment Method: Credit & Debit Card, Paypal และ Hytexts Coin
กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงอายุตั้งแต่ 20-45 ปี
📌Shareholding Structure
โครงสร้างการถือหุ้นก่อนนำและหลัง IPO
B2S: 55.42% >>> 51.26%
Two Bees (HK): 19.58% >>> 4.82%
นายวิวร มะหะสิทธิ์: 10.14% >>> 9.38%
นายกิตติพงษ์ แซ่ลิ้ม: 10.14% >>> 9.38%
Brain Ventures Limited: 4.72% >>> 0%
ประชาชนทั่วไป: 0% >>> 25.17%
CRC ถือ B2S อยู่ 100%
B2S ถือหุ้นของ Two Bees 100%
นายวิวร มะหะสิทธิ์ และนายกิตติพงษ์ แซ่ลิ้ม ถือหุ้นของ Brain Ventures Limited อยู่คนละ 50%
สรุปโครงสร้างการถือหุ้นก่อนและหลัง IPO
CRC ถือหุ้น meb ผ่าน B2S อยู่ 75% >>> 56.08%
นายวิวร มะหะสิทธิ์ ถือหุ้น meb อยู่ 12.5% >>> 9.38%
นายกิตติพงษ์ แซ่ลิ้ม ถือหุ้น meb อยู่ 12.5% >>> 9.38%
ประชาชนทั่วไป: 0% >>> 25.17%
📌Financial Highlight
9M2022
- Revenue: 1,251.92 MB, +22.37% YoY
- Gross Profit: 385.84 MB, +29.04% YoY | ต้นทุนหลักๆมาจากงานระบบและซอฟแวร์ที่เป็นหัวใจหลักสำคัญของแพลตฟอร์มบริการ
- GPM: 29.9% จาก 9M2021 อยู่ที่ 28.98%
- SG&A: 84.2 MB, +53.04% YoY
- %SG&A: 6.73% จาก 9M2021 อยู่ที่ 5.33%
- Net Profit: 241.85 MB, +23.84% YoY
- NPM: 19.14% จาก 9M2021 อยู่ที่ 18.93%
- บริษัทมีฐานะการเงินที่มั่นคง ไม่มีหนี้ที่เป็นภาระดอกเบี้ย
📌Objectives
วัตถุประสงค์ในการนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหลักทรัพย์ครั้งนี้
1️⃣เพื่อใช้สำหรับการขยายธุรกิจที่อยู่ในแพลตฟอร์มปัจจุบัน (meb, readAwrite และ Hytexts) โดยการเพิ่มเนื้อหาวรรณกรรมออนไลน์ จำนวนเงินประมาณ 320 ล้านบาท ภายในปี 2023-2024
🔹 การซื้อลิขสิทธิ์วรรณกรรมประเภทนิยาย เช่น นิยายภาษาไทยที่แต่งขึ้นโดยนักเขียนชาวไทยที่เป็นที่นิยม และ/หรือนิยายภาษาต่างประเทศที่แต่งขึ้นโดยนักเขียนชาวต่างชาติหรือมีที่มาจากต่างประเทศที่เป็นที่นิยม นำมาแปลเป็นภาษาไทย เป็นต้น มาจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์ม-ของบริษัทฯ
🔹 การซื้อลิขสิทธิ์วรรณกรรมประเภทอื่นที่ไม่ใช่นิยาย เช่น Webtoon หรือการ์ตูนออนไลน์ที่มีลักษณะแตกต่างจากการ์ตูนทั่วไป และ/หรือ วรรณกรรมประเภทอื่น ๆ เช่น ด้านเศรษฐกิจและการลงทุน เป็นต้น มาจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มของบริษัทฯ
2️⃣เพื่อใช้สำหรับการขยายธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจปัจจุบันไปยังต่างประเทศ (ซึ่งครอบคลุมค่าใช้จ่ายด้านต่างๆ เช่น ค่าใช้จ่ายด้านระบบสารสนเทศและค่าใช้จ่ายพนักงานที่เกี่ยวกับการพัฒนาและดูแลระบบ ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการสรรหาวรรณกรรมสำหรับแพลตฟอร์ม ค่าใช้จ่ายในการทำการตลาด และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ซึ่งรวมถึงเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบธุรกิจ) จำนวนเงินประมาณ 230 ล้านบาท ภายในปี 2023-2024
🔹 การสร้างแพลตฟอร์มวรรณกรรมออนไลน์ใหม่ในต่างประเทศ โดยใช้ภาษาท้องถิ่นของประเทศนั้นๆ ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ เพื่อให้นักเขียนอิสระและสำนักพิมพ์มาจำหน่ายวรรณกรรมเป็นเล่มหรือเป็นตอนผ่านแพลตฟอร์มวรรณกรรมออนไลน์ ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายกับแพลตฟอร์ม readAwrite
🔹 การสร้างแพลตฟอร์มวรรณกรรมออนไลน์ใหม่ในภาษาอังกฤษ โดยเน้นรูปแบบที่บริษัทฯ ซื้อลิขสิทธิ์ของวรรณกรรมภาษาไทยที่แต่งขึ้นโดยนักเขียนชาวไทยที่เป็นที่นิยมมาแปลเป็นภาษาอังกฤษแล้วจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มวรรณกรรมออนไลน์ใหม่ในภาษาอังกฤษที่เป็นของบริษัทฯ และในรูปแบบแพลตฟอร์มที่บริษัทฯ จะให้นักเขียนอิสระสามารถจำหน่ายผลงานวรรณกรรมในภาษาอังกฤษเป็นตอนได้ ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายกับแพลตฟอร์ม readAwrite
📌Growth Strategy
1. ต่อยอดความเป็นผู้นำในธุรกิจวรรณกรรมออนไลน์ด้วยการพัฒนาแพลตฟอร์มและระบบการดำเนินงานของบริษัทฯ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่พิเศษให้แก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
2. เพิ่มวรรณกรรมที่น่าสนใจเพื่อเพิ่มความสัมพันธ์กับผู้ใช้บริการเดิมและดึงดูดผู้ใช้บริการใหม่เพื่อมาใช้งานแพลตฟอร์มของบริษัทฯ มากยิ่งขึ้น
3. ต่อยอดความสำเร็จของบริษัทฯ ผ่านการควบรวมกิจการหรือเข้าซื้อกิจการ (Inorganic Growth) และ สร้างแพลตฟอร์มใหม่ของตัวเอง (Organic Growth) ทั้งในประเทศ และ ต่างประเทศ
4. ใช้ประโยชน์จากการวิเคราะห์ฐานข้อมูลของลูกค้าเพื่อที่จะคัดเลือกหนังสือหรือวรรณกรรมที่ตรงตามความต้องการของแต่ละบุคคล
5. พัฒนาความสัมพันธ์กับเจ้าของผลงาน เพื่อต่อยอดความสัมพันธ์ เช่น ลดความยุ่งยากในการดำเนินการสำหรับนักเขียน การสร้างระบบที่เจ้าของผลงานสามารถตรวจสอบยอดขาย และ สถิติต่างๆ ได้ด้วยตนเองผ่าน แพลตฟอร์มของบริษัทฯ และมีการแบ่งสัดส่วนรายได้ให้แก่เจ้าของผลงานที่สมเหตุสมผลและจูงใจ
6. ใช้กลยุทธ์ทางการตลาด เพื่อส่งเสริมให้บริษัทฯ เข้าถึงผู้ใช้บริการและกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น
📌Summary
MEB เป็นบริษัทที่มีแพลตฟอร์มให้บริการที่หลากหลายรูปแบบ อีกทั้งยังมี Performance ในการดำเนินงานที่ดีกว่าคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกัน ถ้าดูถึงเทรนด์ในอนาคต E-Book ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะเอกสารต่างๆ สมัยนี้ก็เริ่มแปรเปลี่ยนไปตามเทคโนโลยี การแบกหนังสือเรียน หรือนิยาย ไปไหนต่อไหน ก็ดูจะไม่สะดวกเท่าก็การพก iPad, Tablet สังคมผู้ใช้ E-Book มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมานี้ จากโควิดที่เป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดการเรียนออนไลน์
อ่านหนังสือผ่านหน้าจอมากกว่า ทำให้เด็กรุ่นใหม่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยคุ้นชินกับการอ่านหนังสือเป็นเล่มจริงๆ ทำให้กระแส E-Book มีการเติบโตมากขึ้น เรียกได้ว่ายังมี Room ให้เข้าไปกิน Market Share ของหนังสือปกติอีกมาก แต่เมื่อถึงจุดนึง ก็จะโตไปตามอุตสาหกรรม เรามองว่า E-Book อาจจะสามารถไป Disrupt หนังสือแบบเป็นเล่มได้ แต่ไม่ใช่ในอนาคตอันใกล้นี้แน่นอน นักลงทุนที่สนใจอย่าลืมประเมินมูลค่าก่อนตัดสินใจลงทุนนะครับ
#JTrader
#เทรดไปเที่ยวไป
#แผนชัดก็ซัดเลย
#MEB
ปล1. จากข้อมูลข้างต้น ไม่มีเจตนาชักชวน หรือให้ซื้อ-ขายตามบทความข้างต้น
ปล2. การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรพิจารณาไตร่ตรองการลงทุนว่าจะซื้อหรือขายด้วยตัวท่านเองเท่านั้น
โฆษณา