4 ก.พ. 2023 เวลา 13:37 • การ์ตูน

"ปล่อยวางซะสู" กับเรื่องราวโรแมนติก (เกือบ) ไซไฟ

ช่วงที่ผ่านมานายกะหล่ำได้มีโอกาสรับชมภาพยนต์แอนิเมชั่นจากญี่ปุ่นเรื่องหนึ่งที่มีต้นฉบับมาจากไลท์โนเวล
นายกะหล่ำได้มีโอกาสอ่านไลท์โนเวลต้นฉบับมาก่อนที่จะเข้าไปดูตัวหนังมาแล้ว จึงสามารถเปรียบเทียบกันได้อย่างไม่ยากเย็น
และนายกะหล่ำจะขอรีวิวโดยคร่าว ๆ สำหรับผู้ที่สนใจภาพยนต์เรื่องนี้
คําจากลาของคิมหันต์ ณ ปลายอุโมงค์ (Thai)
Natsu e no Tunnel, Sayonara no Deguchi (Japanese)
The Tunnel to Summer, the Exit of Goodbye (English)
เป็นภาพยนต์แอนิเมชั่นที่ดัดแปลงมาจากไลท์โนเวลของ Mei HACHIMOKU ฉบับภาษาไทยเป็นของสำนักพิมพ์เซนชู
เป็นเรื่องราวของ "โทโนะ คาโอรุ" ที่ได้ยินเรื่องราวของอุโมงค์อุราชิมะ ที่เมื่อเข้าไปแล้วจะทำให้ได้ทุกอย่างที่ต้องการ แลกกับอะไรบางอย่าง
เขาได้ตัดสินใจจะเข้าไปในอุโมงค์เพื่อนำตัว "คาเรน" น้องสาวที่จากไปของเขากลับมา
ทว่าเขาก็ได้พบเจอกับ "ฮานาชิโระ อันซุ" นักเรียนที่เพิ่งย้ายมาใหม่ที่มารู้เรื่องนี้เข้า
และเรื่องราวของทั้งสองที่ไขปริศนาอุโมงค์อุราชิมะก็ได้เริ่มต้นขึ้น...
ด้านภาพนั้นนายกะหล่ำคิดว่าทำออกมาได้ดูดีและลื่นไหลมาก แทบทั้งเรื่องเน้นภาพโทนสีฟ้าอย่างเห็นได้ชัดจนคุณต้องหาแว่นตากรองแสงชื่อดังมาใส่ (เออ ยี่ห้อนั้นแหละ)
เป็นการคุมโทนภาพที่นายกะหล่ำชอบเป็นการส่วนตัวก่อนจะมาเปลี่ยนโทนสีเอาตอนสุดท้ายสร้างความประทับใจให้นายกะหล่ำอย่างยิ่ง
ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องภาพเลย
ในด้านเสียงนั้นส่วนตัวนายกะหล่ำคิดว่าดรอปลงกว่าที่คิดไว้ เพลงประกอบหลายส่วนนั้นไม่ได้เข้ากันอย่างกลมกล่อมตามช่วงเวลาของหนัง และเสียงพากย์ของโทโนะ (พระเอก) เองก็รู้สึกแปลก ๆ ไปบ้างในช่วงแรก
เพราะฉะนั้นคุณอาจต้องเตรียมรับมือเรื่องเสียงเสียหน่อย แต่มันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น
ในด้านเนื้อเรื่องที่แสนดุเด็ดเผ็ดมันนั้นอดไม่ได้เลยที่จะต้องนำมาเทียบกับต้นฉบับไลท์โนเวล
ตัวเนื้อเรื่องเองแม้จะเปิดเรื่องมาดูเป็นไซไฟ แต่ในตอนจบเรื่องกลับกลายเป็นหนังรักโรแมนติก
นายกะหล่ำนั้นไม่ติดใจอยู่แล้วเรื่องความโรแมนติก แต่มิติความเป็นไซไฟนั้นถูกทิ้งหายไปอย่างไร้ร่องรอยในช่วงหลังของเรื่องจนคิดว่าน่าเสียดาย
ส่วนเรื่องชีวิตของพระนางนั้นถูกทำมาให้บีบหัวใจประมาณหนึ่งแต่ยังทำได้ไม่สุดมากนัก ตัวละครตัวอื่นที่มีบทบาทในเรื่องก็แทบจะไม่ถูกพูดถึงเท่าไรหากเป็นฉบับภาพยนต์ ตรงข้ามกับฉบับไลท์โนเวลที่บทบาทของตัวละครเสริมตัวหนึ่งถูกดันขึ้นมาจนแทบจะเป็นพลอตรองของตัวเอง
รายละเอียดจำนวนมากในฉบับภาพยนต์นั้นถูกตัดทอน หรือไม่ก็ถูกดัดแปลงให้กลายเป็นอีกแบบเหมือนหนังคนลละม้วน ราวกับเป็นเรื่องราวในโลกคู่ขนานจากไลท์โนเวล (คิดว่าดัดแปลงไปเกือบครึ่งเรื่องเลยทีเดียว) และมีการเล่าเรื่องที่ฉับไวอย่างเห็นได้ชัด
ในส่วนนี้นายกะหล่ำเข้าใจว่าเพราะต้องการจะตัดทอนรายละเอียดอื่นที่อยู่ในต้นฉบับและเน้นโฟกัสไปที่ตัวละครหลักอย่างพระเอกและนางเอกเป็นหลัก หรือไม่ก็งบน้อย
กระนั้นส่วนที่ตัดทอนออกไปหลายส่วนนั้นก็เป็นส่วนที่ส่งผลสำคัญต่อเส้นเรื่องหลักพอสมควร และอีกด้านหนึ่ง แม้จะตัดทอนให้เน้นส่วนของพระนางมากขึ้นก็ไม่ได้ช่วยให้ผู้ชมรู้สึกอินกับความสัมพันธ์ของทั้งสองแต่อย่างใด
ในส่วนแก่นหลักของเรื่องอย่างเรื่องของอุโมงค์อุราชิมะนั้นยังคงแก่นของมันไว้ได้ตามต้นฉบับอย่างดีแม้จะเปลี่ยนรายละเอียดของตัวอุโมงค์ไปบ้าง (มาก)
แต่นายกะหล่ำเองก็มีส่วนที่ชอบในด้านเนื้อเรื่องที่ดัดแปลงและเพิ่มเข้ามาใหม่บ้าง (แต่แน่นอนว่าส่วนที่เพิ่มมานั้นไม่ได้มากเลยเมื่อเทียบกับส่วนที่ตัดออกไป)
โดยรวมเนื้อเรื่องนั้นถูกเปลี่ยนแปลงไป จนคุณภาพอยู่ในระดับ "ครึ่งหนึ่ง" ของเนื้อเรื่องต้นฉบับเลยทีเดียว แม้จะยังคงเสาหลักของเรื่องไว้ได้ แต่ขาดการตกแต่งที่สวยงามจนเกือบไม่ให้อภัย
สรุปโดยรวมนั้นหากคุณได้อ่านฉบับไลท์โนเวลมาก่อนแล้วมาดูเรื่องนี้ ให้คุณเตรียมใจไว้ก่อนเลยว่าคุณจะได้คุณภาพไปประมาณครึ่งหนึ่งของต้นฉบับ
หากคุณไม่ได้อ่านฉบับนิยายมาก่อน คุณก็สามารถเข้าไปรับชมได้โดยไม่ต้องคิดอะไรมาก และไม่ว่าหลังจากรับชมแล้วจะประทับใจตัวภาพยนต์หรือไม่ก็ตาม คุณก็ควรจะลองอ่านฉบับไลท์โนเวลดู เพราะด้านเนื้อเรื่องของฉบับนิยายนั้นก็ทำได้ไม่เลวเลย
และถ้าหากคุณชอบใจสิ่งที่นายกะหล่ำเขียน แม้คอนเทนต์ที่นายกะหล่ำเขียนจะไม่ได้เจาะจงไปในด้านวงการใดวงการหนึ่ง คุณก็สามารถกดติดตามได้ที่นี่ หรือที่อื่นได้ทันที เพื่อรับชมคอนเทนต์ประเภทอื่นที่คุณสนใจจากนายกะหล่ำปลี (วิดีโอ, ภาพวาด, เกม, อื่น ๆ )
โฆษณา