5 ก.พ. 2023 เวลา 08:16 • ไลฟ์สไตล์

รู้หรือไม่ประกันคุ้มครองสินเชื่อที่อยู่อาศัยมีกี่แบบ?

อ่านจบแล้วรีบไปเปิดกรมธรรม์ที่ทางธนาคารให้มาดูด่วนๆนะจ๊ะ
ที่สิ่งเห็นและความจริงที่เป็น อาจไม่มีทางพบกัน...
ตอนเรากู้เงินจากธนาคารเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย ทางธนาคารก็จะมี Offer การทำประกันควบคู่ไปด้วย แล้วก็จะลดดอกเบี้ยให้อาจจะ 0.2-0.5 ต่อปีเพื่อจูงใจ ประกันภัยในรูปแบบดังกล่าวเรียกว่า MRTA ซึ่งจะทำหน้าที่จ่ายเงินแทนผู้กู้กับสถาบันการเงินซึ่งมูลค่าจะลดลงเรื่อยๆสอดคล้องกับสินเชื้อที่เรามีอยู่ หากเสียชีวิตหรือทุพพลภาพ ทีนี้เรารู้หรือไม่ว่าประกันที่เราทำไว้เป็นแบบไหน เท่าที่ผมทราบมาประกันสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยมีประมาณ 4 รูปแบบ
1 เต็มวงเงิน เต็มเวลาการจ่ายเบี้ย
ในแบบแรกนี้ก็ตรงตัวคือทำประกันไว้ตามวงเงินสิ้นเชื่อไปจนครบสัญญา สมุติเรากู้เงินมา 3 ล้านเป็นเวลา 30 ปี ประกันฉบับนี้ก็จะคุ้มครองชีวิตเราเริ่มที่วงเงิน 3 ล้านเป็นเวลา 30 ปีซึ่งก็จะค่อยๆลดมูลค่าลงไปสอดคล้องกับสินเชื่อของเรา แบบนี้จะเป็นแบบที่ดีที่สุด แต่ก็แลกมากับเบี้ยที่มีราคาสูง
2 เต็มวงเงินแต่ไม่เต็มเวลากู้
แบบนี้คือเต็มวงเงิน แต่ระยะเวลาอาจจะอยู่แค่ 10-15 ปีเท่านั้น ข้อดีของแบบนี้คือราคาถูกกว่าแบบที่ 1 ซึ่งหากทำแบบแรกไม่ได้แบบที่สองนี้ก็เหมาะสม เพราะหากเรามีแผน Refinance ทุกๆ 3 ปีอยู่แล้ว แบบนี้เราสามารถประหยัดค่าเบี้ยได้มากกว่า เพราะว่าอย่างไรก็ตาม เมื่อเราไปธนาคารใหม่ หากต้องการดอกเบี้ยที่ถูกลงไปอีกก็จำเป็นต้องทำประกันวงเงินสินเชื่อกับธนาคารดังกล่าว
3 แต่ไม่เต็มวงเงิน แต่เต็มระยะเวลากู้
แบบนี้คือเน้นว่าเต็มเวลา สมมุติราคาบ้าน 10 ล้านผ่อน 30 ปี อาจจะทำวงเงินไว้เพียง 20 ล้าน เป็นเวลา 30 ปี ซึ่งแบบนี้เราไม่ค่อยได้เห็นในบ้านราคาไม่กี่ล้าน เพราะว่าแบบนี้จะเป็นทางเลือกสำหรับคนที่ซื้อบ้านหลัก 10 ล้านขึ้นไปมากกว่า เหตุผลผมเองก็ไม่ทราบแน่ชั้น แต่คาดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับราคาเบี้ยที่ต้องจ่าย
แต่ถ้าท่านใดทราบเหตุผลที่แท้จริง อย่าลืมมาแบ่งปันกันนะครับ ^_^
4 ไม่เต็มวงเงิน และไม่เต็มเวลา
แบบนี้จะเป็นการกู้แบบไม่เต็มวงเงิน และก็ไม่คุ้มครองตลอดระยะเวลาการกู้ เช่น วงเงิน 100 ล้าน ระยะเวลา 35 ปี อาจจะให้คุ้มครองแค่ 80 ล้าน เป็นเวลา 15 ปี เป็นต้น
ท่านใดทราบเหตุผลที่แท้จริง อย่าลืมมาแบ่งปันกันนะครับ ^_^
แต่ละแบบก็มีความเหมาะสมกับเราผู้กู้ต่างกัน ขึ้นอยู่กับแผนการจัดการของเรา หากว่าเรานั้นไม่มีทายาท ไม่มีใครมาสืบทอดมรดกของเรา การทำประกันคุ้มครองสินเชื่อก็อาจจะไม่จำเป็นเพราะอย่างไรก็ตามหากเราเสียชีวิตไปธนาคารก็ยังมีสินทรัพย์ของเราเป็นตัวค้ำประกันสินเชื่อที่เรามีอยู่แล้ว
แต่ในการกู้เงินครั้งแรกๆ ต้องลองนำดอกเบี้ยส่วนลดมาคำนวนร่วมด้วย ถ้าหากพ่วงประกันเข้าไปด้วยแล้วดอกเบี้ยส่วนลดเหมือนได้ประกันฟรี ก็ควรจะมีติดไปด้วย เพราะเราเองก็ไม่รู้อนาคต วันนี้เราไม่มีใคร พรุ่งนี้อาจจะพบเจอคนที่ร่วมใช้ชีวิตไปกับเราก็เป็นได้
หากท่านใดอยากทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองภาระค่าใช้จ่าย ขอแนะนำประกันควบ การลงทุน ซึ่งก็ค่อนข้างตอบโจทย์ในการคุ้มครองวงเงินหนี้สิน ได้ความคุ้มครองสูงและได้ออมเงินควบคู่กันไป ก็สามารถติดต่อสอบถามมาได้นะครับ
โฆษณา