6 ก.พ. 2023 เวลา 10:18 • บันเทิง

เธอคือใคร? ในหอประชุม

เหตุเกิดที่หอประชุมในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
ในขณะที่กิจกรรมการแสดงโชว์ของน้อง ๆ เฟรชชี่ ในงาน Freshy Night จบไป มีเพื่อนผมที่เป็น Staff จัดงานคนหนึ่งเหมือนจะลืมโทรศัพท์มือถือไว้ตรงเบาะที่ตนเองนั่งในหอประชุม
เวลาที่รู้ตัวคือเกือบ ๆ จะเที่ยงคืน ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีใครอยู่ในหอประชุมแล้ว นอกจากความมืดและความว่างเปล่า ดังนั้นมันจึงชวนผมเข้าไปหาโทรศัพท์กับมัน ซึ่งเอาจริง ๆ ให้ตายเถอะ ผมโคตรจะกลัวความมืดและสิ่งอย่างว่านั้น
เราผลักประตูบานใหญ่ของหอประชุมแง้มไว้แล้วแทรกตัวเข้าไปแบบเงียบกริบ ซึ่งประตูก็ไม่ได้ล็อคไว้แต่อย่างใด
หอประชุมนี้มีลักษณะเหมือนโรงหนังขนาดใหญ่ เมื่อเข้าไปแล้ว แน่นอนว่ามีแต่ความมืดมิด เพื่อนผมมันก็จำไม่ได้แน่ชัดว่าตัวเองนั่งอยู่เบาะไหน แถวไหน ผมจึงช่วยโทรเข้าเครื่องมันเพื่อที่จะได้เห็นแสงหรือได้ยินเสียง จะได้รู้พิกัดว่าอยู่ตรงไหน
ในยุคนั้น ยังเป็นยุคเฟื่องฟูของ NOKIA 3310 ซึ่งเสียงริงโทนก็จะไม่ดังมาก และไฟหน้าจอก็จะไม่สว่างมากนัก แต่หลังจากที่โทรเข้าไป ในความเงียบและความมืดเช่นนี้ ทำให้เสียงโทรศัพท์ดังชัดเจน พร้อมกับเห็นแสงไฟนวล ๆ อยู่ตรงเบาะแถวเกือบตรงกลางค่อนไปทางขวา
เรารีบเดินเข้าไปยังที่หมายตานั้น โดยผมให้เพื่อนเอามือถือผมใช้ไฟหน้าจอส่องทางเดิน เพื่อที่จะไม่เดินไปสะดุดหรือเดินตกขั้นบันใด
เราเลือกเดินไปโดยใช้ทางเดินขวาสุด เมื่อเดินผ่านไปได้สัก 4-5 แถว เพื่อนผมที่ส่องไฟอยู่ก็หยุดชะงักนิดนึง จากนั้นรีบคว้าต้นแขนผมแล้วลากมาชิดกับตัวมันเอง ไม่พูดไม่จา แล้วกึ่งลากกึ่งบังคับพาผมเดินไปข้างหน้า
ก่อนที่จะถึงโซนที่มือถือตกอยู่ มันก็ดึงผมให้เลี้ยวตัดแถวไปยังทางเดินตรงกลาง แล้วเดินย้อนขึ้นมาออกจากห้องประชุมไป แบบกึ่งเดินกึ่งวิ่ง ทิ้งเสียงริงโทนของโทรศัพท์เจ้ากรรมให้ดังก้องอยู่เบื้องหลัง
ผมเองก็ไม่พูดอะไร เพราะรู้สึกว่าต้องมีอะไรสักอย่างแน่นอน ทันทีที่เดินออกมาไกลจนถึงที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ของพวกเรา ก็มายืนนิ่ง ๆ กันอยู่ซักพัก เพื่อนผมมันจึงเริ่มเล่าว่ามันเจออะไร
มันบอกว่าขณะที่มันเดินส่องไฟไปนั้น ตรงเบาะนั่งตัวที่ 4 ของแถวข้างหน้าที่กำลังจะเดินผ่าน มันเห็นผู้หญิงในชุดนักศึกษาคนหนึ่ง มีผ้าคลุมใหล่คลุมอยู่ด้วย นั่งนิ่งตัวตรงเด่อยู่ตรงเบาะนั่งตำแหน่งนั้น ซึ่งตัวผมเองไม่เห็นอะไร เพราะขอบเขตความสว่างของแสงไฟจากจอมือถือมันแคบมาก และก็ไม่ได้โฟกัสอะไรอื่นนอกจากตำแหน่งที่เห็นแสงมือถือเครื่องที่ลืมไว้สว่างอยู่
ทันทีที่เพื่อนผมมันเห็นผู้หญิงคนนั้น มันไม่รู้เลยว่าผมที่เดินตามมาด้านหลังเห็นหรือไม่เห็น ก็ตัดสินใจลากผมเดินอ้อมมาแถวกลางเพื่อที่จะเดินหนีออกไป โดยไม่สนใจมือถือที่ยังส่งเสียงดังก้องอยู่ตรงนั้น
ผมฟังมั่นเล่าจบก็ร้องคำ "กูว่าแล้ว" ในใจ ไม่อะไรก็อะไรสิน่าที่หอประชุมแห่งนี้ ขนาดตอนกลางวันที่มี Class ที่ต้องเรียนในหอประชุมนี้ ใครแอบหลับยังมีโดนตบกบาล โดนหยิก โดนข่วน จากอะไรก็ไม่ทราบ
ผมปลอบใจมันว่า พรุ่งนี้เราจะเข้ามาดูกันอีกแต่เช้า รอให้มีแสงอาทิตย์สักหน่อย ทั้งที่ผมเองก็ไม่ชัวร์เหมือนกันว่า จะมีช่วงเวลาไหนปลอดภัยสำหรับหอประชุมแห่งนี้
ก่อนเราจะคร่อมมอเตอร์ไซค์เพื่อขับกลับหอ ก็ต้องสะดุ้งอีกครั้ง เมื่อได้ยินเสียงริงโทนของโทรศัพท์เพื่อนผมดังอู้อี้อยู่ใกล้ ๆ ที่ใดสักที่ หลังจากหายตกใจเราก็ช่วยกันหาที่มาของเสียง
ปรากฏว่า มือถือของเพื่อนผมอยู่ใต้เบาะมอเตอร์ไซค์มันเอง แล้วมีเพื่อนอีกคนโทรเข้ามาจึงดังขึ้นในเวลานี้ เพื่อนผมยังไม่กดรับสาย จากนั้นมันนึกอะไรสักพัก ก็จำได้ทันทีว่า มันน่าจะเผลอวางไว้เองตอนเติมน้ำมันที่ปั้มหลอด
แล้ว....มือถือใครวะที่ดังในหอประชุม มันจะเป็นของใครไปได้ในเมื่อที่มันดังเพราะผมโทรเข้าไปเอง หรือมันจะเป็นมือถือคนอื่นที่บังเอิญดังพอดีตอนผมโทรเข้าไป ซึ่งโอกาสนั้นน้อยมาก
ผมให้เพื่อนเช็คดูว่ามีเบอร์ผมโทรเข้ามาในเวลานั้นจริงหรือไม่ ซึ่งปรากฏว่ามีเบอร์ผม โทรเข้าไปจริง ๆ นั่นแหละ
เราตกลงกันว่า พรุ่งนี้เช้า เราจะ "ไม่" ไปสืบสาวหรือดูให้แน่ใจว่า ตรงตำแหน่งนั้นมีมือถือของใครตกอยู่หรือไม่ ซึ่งอาจจะมีหรือไม่มีก็ออกได้ทั้งสองแง่ก็ปล่อยผ่านมันไป
แต่ที่แน่ ๆ ยิ่งกว่าแช่แป้ง คือ เพื่อนผมเห็นผู้หญิงคนนั้นจริง ๆ แบบ She sat alone in the dark !!!
ปล.เรื่องแต่งจากเค้าโครงเรื่องจริง
โฆษณา