6 ก.พ. 2023 เวลา 12:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ฝากเงินบนแอป Dime! คิดดอกเบี้ยอย่างไร ?

เพื่อน ๆ หลายคนที่ใช้แอป Dime! น่าจะเคยออมเงินผ่านบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ Dime! Save กัน เพราะได้ดอกเบี้ยสูงสุดถึง 3% ต่อปี จากธนาคารเกียรตินาคินภัทร
💰 แต่หลายคนก็ยังสงสัยว่า ต้องฝากเท่าไรถึงจะได้ดอกเบี้ย 3% และได้รับดอกเบี้ยทุกกี่วัน เรามาดูรายละเอียดอัตราดอกเบี้ยแต่ละช่วงกัน ดังนี้ครับ
- หากฝากไม่เกิน 30,000 บาท จะได้รับดอกเบี้ย 3% ต่อปี
- ส่วนที่เกิน 30,000 แต่ไม่เกิน 100,000 จะได้รับดอกเบี้ย 1% ต่อปี
- ส่วนที่เกิน 100,000 บาท จะได้รับดอกเบี้ย 0.50% ต่อปี
💵 ซึ่งธนาคารจะจ่ายดอกเบี้ย 2 ครั้งต่อปี คือวันที่ 30 มิถุนายน และ 31 ธันวาคม
อย่างไรก็ดี บางคนอาจยังไม่ค่อยเห็นภาพ แอดเลยจะมายกตัวอย่างให้ดูว่า เงินฝากแต่ละจำนวน ในเวลาที่แตกต่างกัน จะได้ดอกเบี้ยเป็นจำนวนเท่าไร
ก่อนอื่น เราจะบอกสูตรวิธีการคิดดอกเบี้ย เพื่อที่เพื่อน ๆ จะได้เข้าใจวิธีคำนวณไปด้วยกัน
สูตรคือ ดอกเบี้ย = จำนวนเงินฝาก x อัตราดอกเบี้ย x จำนวนวันที่ฝาก / 365
ดังนั้นหากรวมทั้งเงินฝากและดอกเบี้ย = จำนวนเงินฝาก + [จำนวนเงินฝาก x อัตราดอกเบี้ย x จำนวนวันที่ฝาก / 365]
มาเริ่มที่ตัวอย่างกันเลย
🚩 กรณีที่ 1 เริ่มต้นฝากเงิน 20,000 บาท ในวันที่ 1 มกราคม 2566
ในวันที่ 30 มิถุนายน จากเงิน 20,000 บาท จะกลายเป็น 20,000 + [(20,000 x 3% x 181) / 365] = 20,297.5 บาท
ภายในสิ้นปี เราจะมีเงินทั้งหมด = 20,297.5 + [(20,297.5 x 3% x 184) / 365] = 20,604.5 บาท
จากตัวอย่างจะเห็นได้ว่า ดอกเบี้ยที่ได้รับจาก Dime! Save ไม่ใช่เท่ากับ 20,000 x 3% = 600 บาท เพราะการคิดแบบนั้น เป็นการคิดแบบได้ดอกเบี้ยครั้งเดียวต่อปี ซึ่งไม่ใช่ดอกเบี้ยของ Dime! Save ที่ให้ 2 ครั้งต่อปี
🚩 กรณีที่ 2 เริ่มต้นฝากเงิน 30,000 บาท ในวันที่ 1 มกราคม 2566
ในวันที่ 30 มิถุนายน จากเงิน 30,000 บาท จะกลายเป็น 30,000 + [(30,000 x 3% x 181) / 365] = 30,446.3 บาท
ต่อมาเราจะแบ่งคิดดอกเบี้ยเป็น 2 ส่วน เพราะสิ้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เงินนั้นเกินกว่า 30,000 บาทแล้ว อัตราดอกเบี้ยที่ได้นั้นจะต่างกัน เราเลยแบ่งเงินเป็น 30,000 บาท กับ 446.3 บาท
โดยภายในสิ้นปีจากเงิน 30,000 บาท จะกลายเป็น 30,000 + [(30,000 x 3% x 184) / 365] = 30,453.7 บาท ขณะที่ 446.3 จะกลายเป็น 446.3 + [(446.3 x 1% x 184) / 365] = 448.5 บาท
เมื่อรวมกันแล้ว เราจะมีเงินทั้งหมด = 30,453.7 + 448.5 = 30,902.2 บาท
🚩 กรณีที่ 3 เริ่มต้นฝากเงิน 30,000 บาท ในวันที่ 1 เมษายน 2566
ในวันที่ 30 มิถุนายน จากเงิน 30,000 บาท จะกลายเป็น 30,000 + [(30,000 x 3% x 91) / 365] = 30,224.4 บาท
ต่อมาเราจะแบ่งคิดดอกเบี้ยเป็น 2 ส่วนเช่นเดิม ไม่ต่างจากกรณีที่ 2 เลย เพราะสิ้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เงินนั้นเกินกว่า 30,000 บาทแล้ว โดยเราจะแบ่งเงินเป็น 30,000 บาท กับ 224.4 บาท
ภายในสิ้นปี จากเงิน 30,000 บาท จะกลายเป็น 30,000 + [(30,000 x 3% x 184) / 365] = 30,453.7 บาท ขณะที่ 446.3 จะกลายเป็น 224.4 + [(224.4 x 1% x 184) / 365] = 225.5 บาท
เมื่อรวมกันแล้ว เราจะมีเงินทั้งหมด = 30,453.7 + 225.5 = 30,679.2 บาท
🚩 กรณีที่ 4 เริ่มต้นฝากเงิน 20,000 บาท ในวันที่ 1 มกราคม 2566 แล้วฝากเพิ่มอีก 30,000 บาท ในวันที่ 1 มีนาคม 2566
การจะหาว่าวันที่ 30 มิถุนายน ก่อนอื่นเราจะแบ่งเงินเป็นทั้งหมด 3 ส่วน
1. 20,000 บาท ที่ฝากวันที่ 1 มกราคม 2566
2. 10,000 บาท ที่ฝากวันที่ 1 มีนาคม 2566
3. 20,000 บาท ที่ฝากวันที่ 1 มีนาคม 2566
โดยส่วนของการฝากเพิ่มอีก 30,000 บาท ในวันที่ 1 มีนาคม 2566 เราต้องแบ่งเป็น 10,000 บาทและ 20,000 บาท เพราะว่าจำนวนเงินที่ฝากนั้นมากกว่า 30,000 บาทแล้ว ซึ่งต้องคิดอัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกัน
ภายในวันที่ 30 มิถุนายน เงินฝากจะเป็นดังนี้
1. 20,000 บาทแรก กลายเป็น 20,000 + [(20,000 x 3% x 181) / 365] = 20,297.5 บาท
2. 10,000 บาท กลายเป็น 10,000 + [(10,000 x 3% x 122) / 365] = 10,100.3 บาท
3. 20,000 บาท กลายเป็น 20,000 + [(20,000 x 1% x 122) / 365] = 20,066.8 บาท
รวมแล้วภายในวันที่ 30 มิถุนายน เราจะมีเงินทั้งหมด = 20,297.5 + 10,100.3 + 20,066.8 = 50,464.6 บาท
และหากอยากคำนวณว่า ภายในสิ้นปีเราจะมีเงินทั้งหมดกี่บาท ก็คิดแบบในกรณีที่ 2 และ 3 โดยแบ่งคิดดอกเบี้ยเป็น 2 ส่วน คือ 30,000 บาทและ 20,464.6 บาท
ภายในสิ้นปี จากเงิน 30,000 บาท จะกลายเป็น 30,000 + [(30,000 x 3% x 184) / 365] = 30,453.7 บาท ขณะที่ 20,464.6 บาท จะกลายเป็น 20,464.6 + [(20,464.6 x 1% x 184) / 365] = 20,567.8 บาท
เมื่อรวมกันแล้ว เราจะมีเงินทั้งหมด = 30,453.7 + 20,567.8 = 51,021.5 บาท
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนเท่านั้น แต่ก็น่าจะพอช่วยให้เพื่อน ๆ เข้าใจหลักการคิดดอกเบี้ยของ Dime! Save ได้ดีขึ้นนะครับ
โดยการเสียภาษีจะเกิดขึ้นเมื่อเราได้รับดอกเบี้ยจากบัญชีออมทรัพย์รวมทุกบัญชีจากธนาคารแห่งเดียวกัน และ/หรือธนาคารพาณิชย์อื่นรวมกันเกิน 20,000 บาทในปีภาษีนั้น และจะต้องแจ้งให้ธนาคารทราบ เพื่อธนาคารจะหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย 15% และนำส่งกรมสรรพากรต่อไป
แต่ถ้าหากเราได้ดอกเบี้ยไม่ถึง 20,000 บาท ธนาคารจะไม่มีการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย
สำหรับเพื่อน ๆ ที่สนใจและยังไม่ได้เปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ Dime! Save หากใครเปิดบัญชีภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 พร้อมฝากเงินอย่างน้อย 500 บาท เข้าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ Dime! Save และคงเงินไว้อย่างน้อย 24 ชั่วโมง จะได้รับเงินสมนาคุณ 50 บาท* เพิ่มอีกด้วย
*จำกัด 1 ท่านต่อ 1 สิทธิ์ สงวนสิทธิ์เฉพาะผู้เข้าร่วมรายการส่งเสริมการขาย 3,000 ท่านแรกเท่านั้น ต้องไม่เคยเปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ Dime! Save มาก่อน และปฏิบัติครบตามข้อกำหนดและเงื่อนไข
อ่านข้อกำหนดและเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ที่ https://dime.co.th/th/articles/dime-save-promotion-feb?utm_medium=apparticle
โหลดแอปได้เลยที่ https://dimekkp.onelink.me/sq7H/pya1dxrd
อัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขเป็นไปตามที่ ธนาคารเกียรตินาคินภัทรกำหนด
ผูู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
════════════════════            
#เพราะการเงินเป็นเรื่องของทุกคน            
════════════════════
Dime! เปลี่ยนเรื่องเงินให้เป็นเรื่องสนุก เพื่อความสุขอย่างเท่าเทียมของทุกคน
บริษัทหลักทรัพย์ เคเคพี ไดม์ ผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน Dime! ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง กำกับโดยสำนักงาน ก.ล.ต. ใบอนุญาตเลขที่ ลก-0007-02
ติดตามเราในช่องทางต่าง ๆ ได้ที่            
Facebook - https://www.facebook.com/dimeinvest            
Instagram - https://www.instagram.com/dime.finance            
TikTok - https://www.tiktok.com/@dime.finance            
LINE -  https://lin.ee/4W7j4nG                  
โฆษณา