ทมิฬนาดู .. ดินแดนแห่งมหากาพย์และศาสนศิลป์คู่อินเดียใต้
“ถ้าหากจะให้ข้าพเจ้าทอดสายตาค้นหาไปทั่วโลกว่า มีประเทศใด ที่ธรรมชาติให้ทรัพยากร พละกำลัง และความงดงามไว้อย่างมาก ที่สุด ซึ่งในบางแห่งเปรียบได้เสมือนหนึ่งสวรรค์บนพื้นพิภพ ข้าพเจ้าขอชี้ว่า ประเทศนั้นคืออินเดีย
.. ถ้าหากจะมีใครถาม ข้าพเจ้าว่า ภายใต้ฟากฟ้านภากาศแห่งใดที่สมองของมนุษย์ได้ พัฒนาอย่างสมบูรณ์ที่สุด ซึ่งคุณสมบัติบางประการได้ครุ่นคิด พินิจพิจารณาอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับปัญหาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต และหาทางเฉลยปัญหาเหล่านั้นได้ในบางแง่มุมซึ่งควรจะได้รับ ความสนใจเป็นอย่างดี จากแม้บรรดาผู้ที่ได้ศึกษาเปลโตและ คานต์มาแล้ว ข้าพเจ้าก็ขอชี้ว่าฟ้านั้นคือฟ้าแห่งประเทศอินเดีย ...”
ข้อความข้างต้นเป็นปาฐกถาของศาสตราจารย์แมกซ์ มีลเลอร์ (Max Muller) นักภารต วิทยาชาวเยอรมันเรื่อง “อินเดียจะสอนอะไรให้เราได้บ้าง?” และ จาก กรุณา-เรืองอุไร กุศลาสัย,2537
ฉันชอบเดินทางและเก็บภาพความทรงจำด้วยภาพถ่าย .. มนต์เสน่ห์ของอินเดีย คือ ความงดงามของหินสลักที่แม้จะเย็นชืดไร้วิญญาณ แต่เสมือนแย้มยิ้ม เปี่ยมเสน่ห์ กวักมือยั่วยวนชวนให้หลงใหล เชื้อเชิญเราให้เข้าไปใกล้ จนไร้เรี่ยวแรงที่จะต้านทาน เหมือนต้อง มนต์ ..
.. ฉันก้าวเท้าเข้าไปใกล้ แล้วสบตา ก่อนจะกดชัตเตอร์กล้องรัวๆ
อินเดีย .. ถ้าภาพในใจของเราเห็นอินเดียในรูปแบบของ เทวาลัยโบราณ กลิ่นกำยานและกลิ่นธูปหอมกระจายไปตามสายลม
ละลานตาด้วยดอกไม้มีสดและสีเหลืองของดอกดาวเรือง
ผู้คนที่อยู่ในเครื่องนุ่งห่มสีสันสดใส จัดจ้าน .. อาจจะยากจน แต่รุ่มรวยด้วยไมตรี
ภาพเขียนสีลวดลายสวยๆที่พื้นที่เราเรียกว่า “รังโกลี” แต่ทางอินเดียใต้ จะเรียกภาพสีนี้ว่า “โกลัม” (Kolam)
.. เสียงสวดมนต์บูชาเทพเจ้าในแสงไฟสลัว
.. รัฐทมิฬนาฑูจะเป็นภาพที่โดดเด่นขึ้นมาในความทรงจำอันแจ่มใสนี้ ในใจของเรา
ทมิฬนาดู .. อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอนุทวีปอินเดีย ตั้งขนานเป็นแนวยาวไปตามชายฝั่งของมหาสมุทรอินเดีย ที่เรียกว่าชายฝั่ง โคโรแมนเดล (Coromandel)
ชายฝั่งนี้เริ่มจากจุดที่เรียกว่า Divi False Point ทางเหนือ ไปจนจรดเมืองกันยากุมารีทางใต้ ..เป็นหนึ่งในรัฐที่ตั้งอยู่ใต้สุดของประเทศ มีเขตแดนทางทะเลติดต่อกับประเทศศรีลังกา และอ่าวเบงกอล และเป็นดินแดนของชาวทมิฬ
ทมิฬนาดู .. ก่อกำเนิดและเป็นแผ่นดินที่เป็นหัวใจของชาวฮินดู อันเป็นหนึ่งในอารยธรรมเก่าแก่ที่สุดของอินเดียเมื่อมากกว่าสองพันปีที่แล้ว
.. ปัจจุบันมีเมืองหลวงของรัฐ คือ เจนไน (หรือชื่อเดิม มัทราส) และใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศ
จากอดีตถึงปัจจุบัน มีรอยเท้ามากมายจนนับไม่ถ้วนที่เดินผ่านทมิฬานาดู … บางรอยเท้าเลือนรางจนแทบมองไม่เห็น
แต่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าใด จะเดินทางผ่านไปแล้วหลายครั้ง แต่ทมิฬนาดูก็ยังคงเอกลักษณ์แห่งมนต์เสน่ห์ไว้อย่างไม่เสื่อมคลาย
.. บทความต่อๆไปเราจะไปตามรอยเรื่องราวในรามายณะและมหาภารตะยุทธ
.., ชมสะพานพระรามที่เชื่อกันว่า สร้างเพื่อไปรบกับทศกัณฐ์ที่กรุงลังกา
… ดูภาพสลักสายน้ำของพระแคงคาที่เสด็จลงมาจากสวรรค์ ..
.. และสักการะการบำเพ็ญตบะของพระอรชุน ตัวละครสำคัญของมหาภารตยุทธ
***สิ่งแรกที่ผู้เขียนอยากจะทำก่อนที่จะเล่าเรื่องต่างๆที่ไปได้เห็น ได้ยินมาจากการเดินทางหลายวันใน ทมิฬนาดูในลำดับต่อไป คือ ขอแสดงความขอบคุณอย่างสูง ต่อเนื้อความและภาพวาด ภาพถ่าย ที่ได้มาจากการค้นคว้าจากหลายๆแหล่ง ทั้งที่ได้กล่าวถึง และบางส่วนจำไม่ได้ถึงแหล่งที่มา .. ขอบคุณความรู้ที่ได้ และจะนำไปเผยแพร่ต่อ ไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- โฆษณา
- © 2025 Blockdit
