Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
บ่นทึก :บันทึกการเดินทางไปที่ต่างๆของแมวอ้วนขี้บ่น
•
ติดตาม
6 ก.พ. 2023 เวลา 22:40 • ไลฟ์สไตล์
บ่นทึก : #หลังเดาะDiary ภาคทัศนศึกษา เมื่อพาป้ากับมารดาไปดูโขน “สะกดทัพ”
:
กราบสวัสดี มิตรรักแฟนเพลง ผู้อ่านที่น่ารักของเจ้าแมวอ้วนทุกคนค่ะ ช่วงนี้ขยันเขียน เพราะอัตราการขี้บ่นนั้นมันช่างสม่ำเสมอ..
ไม่ใช่สิ
:
เพราะเป็นเจ้าแมวอ้วนตัวดีที่มีแต่เรื่องเล่าท่วมตัวไปหมด และออกเดินสายพบปะประชาชนรายวันตังหาก
เจออะไรมาก็ต้องมาเขียนใช่ไหม มันถึงออกมาเป็น “บ่น ทึก” ยังไงละ
:
เคยกล่าวไปแล้วในบ่นทึกอันเก่าๆ ว่า จะมีช่วงเวลาบางสัปดาห์ที่ยุ่งอะไรได้ทุกวัน และอาทิตย์นี้ก็เช่นกัน
ผู้อ่านทุกท่านจงทดไว้ในใจว่า เย็นนี้เราจะไปดูโขนกันนะคะ รอบหนึ่งทุ่ม
และพรุ่งนี้ เราจะไปแปดริ้วกัน ไปทำบุญประจำปี (เขียนลงไปก่อนบ่นทึกอันนี้แหละ มันสั้นกว่านี่นา)
:
ระหว่างวัน เราต้องไปตามล่าหาดอกไม้มาปักแจกันถวายพระ แอ๊ปเปิ้ล ส้ม กล้วย มีแล้ว มะละกอไม่ต้อง นั่นแหละค่ะ ตื่นมาปั๊บ ภารกิจท่วมตัว วิ่งไปสี่มุมเมือง ไปแมคโคร ลื่นหัวเกือบแตกที่ตลาดสี่มุมเมืองเพราะรองเท้าแตะไร้ดอก แต่เจอแมวตลาดมาน้วยเลยดีขึ้น
และหลักการที่ว่า เวลาคุณรีบมากๆ แค่ไหน คนรอบข้างจะกลายเป็นวิถีสโลว์ไลฟ์ สลอธเดินแซง หอยทากวิ่งแข่งจนโมโหได้ง่ายๆ ก็จริงจนไม่มีอะไรจะเปรียบเทียบ แอ๊ปเปิ้ลกับส้มที่ได้มาพร้อมกับความหัวร้อนมันคุ้มค่ากันไหมวะคะเนี่ย..
:
อ่านมาตั้งนาน คงเริ่มงง ไหนคือโขนของเธอนะเจ้าแมวอ้วน
เอาละ วันนี้ 3 ธันวาคม (2565) หลังจากที่แมวอ้วนวอแว หลบสปอยด์จากคนรอบข้างที่เหมือนว่า จะได้ไปดูก่อนแมวอ้วนทุกคน ไม่ว่าจะเป็น น้าๆ พี่ๆ เพื่อนๆ รอบตัว ที่ได้บัตรก่อน
บอกว่า ไม่ได้อิจฉานะ
ไม่ได้อิจฉาเลยยังไงละ!!
:
ถึงจะหน้าตาไม่ให้เท่าไหร่ แต่หารู้ไม่ เจ้าแมวอ้วนเป็นคนที่หลงไหลในโขน และศิลปะการร่ายรำ เคยครอบครู รำละครเป็นตัวพระ และชอบดูโขนมากๆ พอทราบข่าวว่า ทางมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ จะเปิดการแสดงโขน ในตอน “สะกดทัพ” เราก็เลยทำการ “สะกิดทิพย์” มารดาแม่เปี่ยมและป้าต้อย เพื่อไปดูด้วยกัน
สะกิดอยู่ไม่นาน เอาเป็นว่า เค้าเปิดขายบัตรกันยา กว่าเราจะกดบัตร กว่าจะเลือกที่นั่งได้ กว่าจะได้ไป เรากดบัตรวันที่ 27 ตุลา ได้ไปดูวันที่สามธันวา เบาๆ คือ ต่อจากรอบเรา อีกสี่รอบคือปิดรอบการแสดงค่ะ
และด้วยสกิลล์การกดบัตรคอนเกาหลี ธธิดากดได้แถวหน้าเลย ไม่ได้อวดนะพูดเลย แอบมีความภูมิใจแบบบอกไม่ถูก ฝึกทักษะมาอย่างดี พูดเลย
:
เร่งวันเวลามาที่วันที่ 3 เดือนธันวา เวลาดีออกจากบ้าน หกโมงเย็น แต่งตัวสวยจัดเต็มมากนุ่งซิ่นแดงทอง เสื้อโขนที่ได้จากงานศิลป์แผ่นดิน ชมิ้ง ชวี่พร้อม แม่พร้อม
กดกูเกิ้ลบวกโทรถามน้าติ๊กเลยว่า จะไปยังไงให้ทันการแสดง น้าติ๊กบอกทางแบบเชี่ยวชาญมาก ขอขอบพระคุณมา ณ ที่นี้ค่ะ
โชคดีมากที่เป็นวันหยุดยาว และ การเปิดเพลงฝ่ารถติดของเจ้าพ่อเฮย์เซย์จั๊ม และสกิลล์การขับรถของมารดาเปี่ยมผู้อยู่เหนือดอมแห่งฟาสแอนด์ฟิวเรียส ก็ทำให้เรามาถึง ศูนย์วัฒนธรรม เวลาดีหกโมงครึ่งพอดี
:
ทุกครั้งที่มาที่ศูนย์วัฒนธรรม ต้องลุ้นกับที่จอดรถเหมือนสุ่มกาชา แต่พอเค้าสร้างอาคารจอดรถใหม่แล้ว มีที่จอดรถเยอะขึ้นเยอะ แถมมีรถกอล์ฟรับจากรถส่วนตัวพามาส่งยังหน้าอาคารโรงละครเลย เจ๋งค่ะ
ประทับใจเจ้าแมวอ้วนยิ่ง แม้ขาขึ้นเนินจะหวาดเสียว กลัวตกนิดหน่อยก็ตาม กลั้นหายใจจนตัวฟีบไปสองเซนต์ ก็เจ้าแมวอ้วนตัวกลมไงจะใครละ
:
ลงจากรถ นึกเอะใจจึงหันไปถามแม่เปี่ยมว่า “แม่ แน่ใจนะ ว่าป้าต้อย รู้ว่าแสดงที่ศูนย์วัฒนธรรม ไม่ใช่โรงละครแห่งชาติ” เท่านั้นแหละ เกิดภาวะ สตั๊นค้าง
แม่เปี่ยมก็คว้าโทรศัพท์ทันที “พี่ต้อยยยยย เธออยู่ไหนแล้ว” ป้าต้อยตอบมาว่า “on the way จ้ะ on the way”
แม่รีบถามต่อเลยว่า “รู้ใช่ไหมว่าแสดงที่ศูนย์วัฒนธรรม?” ป้าต้อยตอบมาเสียงใสว่า “นี่ไงจะถึงแล้ว” ทำเอาแม่ถอนหายใจอย่างโล่งอก เหมือนยกเขาพระสุเมรุออกจากอก…รอด!
:
บอกตรงๆ เลยว่าปลื้มใจที่ได้เห็นคนแน่นศูนย์วัฒนธรรม แบบที่ออกข่าวว่า การแสดงทั้งหมด 50 รอบ บัตรทุกใบได้ขายจนหมดเกลี้ยง
ได้เห็นผู้คนทุกอายุ ทุกเพศ ทุกวัย ตั้งแต่เด็กน้อยจนถึงวัยรุ่นควงไม้เท้า ทุกคนแต่งตัวอลังการงานสร้าง
ออเจ้าเอย ท่านขุนเอย จีบหน้านางเอย สไบเอย ชาวเขาเอา หางปลาเอย ราตรีเอย สูทเอย ตู้เพชรเคลื่อนที่เอย มีให้ดูจนเพลินไปหมด (สวยจริงเอย..เอ่อ เอยพอก่อนไหมเอย)
:
ที่หน้าอาคาร จะเจอกับหุ่นหนุมาน มัจฉานุ ให้ถ่ายรูปก่อน และเนื่องจากแถวรอถ่ายรูป ยาวจนยอมใจ เลยบอกแม่ให้ต่อแถวไว้ก่อน ส่วนทางนี้โกยผ้าถุงไปรับบัตร ขั้นตอนยาวนานกระชากใจ
กลับลงมาหาแม่คือ เกือบถึงตาเราถ่ายรูปแล้ว ขอขอบคุณตากล้องจำเป็นทุกท่านที่ช่วยสงเคราะห์ถ่ายรูปให้แมวอ้วนและแม่เปี่ยม โพสไปมาจนผ้าถุงจะหลุด(สงสัยจะหลวม) ยิ่งป้าต้อยมาอีก ยิ่งสนุกสนานบันเทิงไปอีก
:
ก่อนจะก้าวขาเข้าตัวอาคาร มีขั้นตอนการตรวจกระเป๋า บอกเลยว่า พี่เค้าไม่กล้าค้น ถามเราว่า ในกระเป๋ามีงูไหม บอก ไม่มีค่ะ มีแต่ป่าอะเมซอน งูอ่ะเรื่องเล็ก
:
พอเข้ามาด้านใน เจอร้านขายของที่ระลึกเยอะมาก ถามว่าได้ดูไหม ก็ไม่หรอก เพราะว่า คนเยอะมาก คนรุมเยอะมากกกกกกก และต้องไปทำภารกิจที่สำคัญที่สุด
คือต้องเข้าห้องน้ำก่อนการแสดง ที่เป็นอีกหนึ่งตำนานกล่าวขานของศูนย์วัฒนธรรมอีก บอกเลยว่า มีเท่าไหร่ก็ไม่พอค่ะ
บวกกับความขยันประกาศของพนักงานที่ว่า โขนเริ่มตรงเวลานะคะ ย้ำทุกๆ สองวิ อัตราการแพนิค ปนกลัวตกบันได เหยียบผ้าถุงหน้าแหก ก็ทำเอาเจ้าแมวอ้วนหอบกิน ปอดขยับมาอยู่ตรงคอ เหนื่อยตั้งแต่ยังไม่เริ่มดูเลย เจ้าแมวอ้วนเอ๊ยยยย
:
แม้ว่าจะเคยเข้ามาชมการแสดงที่ศูนย์วัฒนธรรมหลายรอบแล้ว แต่ทุกครั้งที่ก้าวเข้าประตูไป ก็ยังลุ้นกับตำแหน่งที่นั่งทุกครั้ง สารภาพตามตรงว่า เคยนับจำนวนขั้นบันได ที่ศูนย์วัฒนธรรมมาแล้วครั้งหนึ่ง
(กลิ้งลงบันไดมาค่ะ แต่ไม่ต้องห่วง ขั้นบันไดไม่เป็นไร) มาหนนี้เพื่อพบว่า ที่นั่งดีเหนือความคาดหมาย ไม่ใกล้ไป ไม่ไกลไป
เพอร์เฟคเกินราคาบัตรมาก ประทับใจสุดๆ
:
ช่วง แมวอ้วนสมอง
การแสดงโขนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นการแสดงโขนเนื่องในมหามงคลสมัยที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 75 พรรษา
เป็นความร่วมมือระหว่างมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และคณะกรรมการในการจัดสร้างเครื่องแต่งกายโขนและละคร ตามพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้มีการอนุรักษ์และสืบสานการแสดงโขนในด้านต่าง ๆ ซึ่งเป็นศิลปวัฒนธรรมของไทยไม่ให้สูญหายไปตามกาลเวลา
โดยมีท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ ผู้ช่วยเลขาธิการมูลนิธิศิลปาชีพฯ และประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดการแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ และ หม่อมหลวงปิยาภัสร์ ภิรมย์ภักดี เป็นรองประธาน
โดยการแสดงโขนเฉลิมพระเกียรตินั้น นำแสดงโดยนาฏศิลปินชั้นนำจากกองการสังคีต กรมศิลปากร สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กรุงเทพมหานคร นักเรียนและนักศึกษาวิทยาลัยนาฏศิลป์ จากทั่วประเทศไทย ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย โดยแสดงไปแล้วดังนี้
พ.ศ.2550 จัดแสดงในชุด ศึกอินทรชิต ตอน พรหมาศ
พ.ศ.2551 ไม่มีการจัดการแสดง
พ.ศ.2552 จัดแสดงในชุด ศึกอินทรชิต ตอน พรหมาศ
พ.ศ.2553 จัดแสดงในตอน นางลอย
พ.ศ.2554 จัดแสดงในตอน ศึกมัยราพณ์
พ.ศ.2555 จัดแสดงในตอน จองถนน
พ.ศ.2556 จัดแสดงในชุด ศึกกุมภกรรณ์ ตอน โมกขศักดิ์
พ.ศ.2557 จัดแสดงในชุด ศึกอินทรชิต ตอน นาคบาศ
พ.ศ.2558 จัดแสดงในชุด ศึกอินทรชิต ตอน พรหมาศ
พ.ศ.2559 จัดการแสดงในตอน พิเภกสวามิภักดิ์
ยกเลิกเนื่องในเหตุการณ์สวรรคต
ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร
พ.ศ.2560 จัดการแสดงเนื่องในงานถวายพระเพลิงพระบรมศพ
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร
ในตอน รามาวตาร สีดาหายถวายพล พิเภกสวามิภักดิ์
:
ต่อมาปี พ.ศ.2561 มีการจัดแสดงเป็นวาระพิเศษฉลองครบรอบหนึ่งทศวรรษของโขนพระราชทาน ตอนพิเภกสวามิภักดิ์ และปี พ.ศ.2562 จัดแสดงชุดสืบมรรคา ซึ่งเป็นเนื้อเรื่องตอนต้นของรามเกียรติ์ และเป็นการจัดแสดงครั้งสุดท้ายของโขนพระราชทานก่อนเกิดการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 ในปี พ.ศ.2563 ต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน
เข้ามามีวงปี่พาทย์มโหรีสองข้าง ใส่สีแดงกะคอรัสโบราณเป็นแถบ เอาง่ายๆ แค่มองม่านรอเปิดการแสดง ก็วิจิตรอลังการงานสร้าง (เชิญยลได้จากภาพประกอบ) นางแบบเป็นคนกันเอง ชื่อแม่เปี่ยม
เมื่อนั่งว่างไม่มีอะไรทำ ก็ถ่ายรูปวนไป ถ่ายหนึ่ง ถ่ายคู่ ชมิ้ง ชวี่ ป้า แม่ ม่าน ปี่ วนไปจ้ะ อ้อ กฏข้อสำคัญที่สุดของการเข้าชมโชนในครั้งนี้คือ “ห้าม ถ่าย ภาพ และ วีดีโอระหว่างการแสดง” ไม่งั้นคุณจะโดนพี่ชุดม่วงเข้าชาร์จด้วยความเร็วสูง บอกว่า “อย่าถ่ายนะยูว” และไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ได้เห็นของจริงเพราะมีคนฝ่าฝืนกฏตลอดการแสดง พี่เค้าวิ่งด้วยความเร็วแสงไปชาร์จอย่างไว
:
ไม่ต้องพูดจาอะไรมาก อลังการตั้งแต่ลายปักผ้าม่าน กั้นฉากเป็นองค์พระสีทอง เมื่อไม่มีอะไรทำ ก็นั่งถ่ายรูปเดี่ยวหมู่ คู่กลุ่ม ถ่ายจนคนข้างหลังเม้าว่า “จะถ่ายจนกว่าจะดับไฟเริ่มโขนเลยใช่ไหม?” อยากหันไปตอบมากว่า “ใช่ค่ะ คุณป้าเก่งมาก สิบแต้มกริฟฟินดอร์” แต่ดูจากผ้าถุงป้าแล้ว ป้าน่าจะไม่รู้จัก หันรี พรเถอะ (Harry Potter) เลยข้ามไป และนั่งรอดูโขนต่อไปน่าจะดีกว่า
:
เมื่อเวลาประจวบเหมาะเคาะที่หกโมงครึ่ง มโหรีปี่พาทย์ก็บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี โชคดีอย่างยิ่งที่รอบนี้ คนลุกขึ้นยืนทุกคน ไม่งั้น แม่เปี่ยมอาจจะองค์ลงก่อนโขน พิโรธโกรธาราวกับนางยักษ์นำร่องไปก่อนเป็นแน่
:
เรื่องราวของโขน “สะกดทัพ” ในครั้งนี้เล่าเรื่องราวการต่อสู้ของหนุมาน ยอดวานรทหารเอกของพระราม ที่ต้องฝ่าฟันด่านต่าง ๆเพื่อช่วยพระรามกลับมาจากเมืองบาดาล หลังจากถูกไมยราพ พญายักษ์แห่งเมืองบาดาล ผู้มีกล้องยาวิเศษพร้อมมนต์ ลอบเข้ามาสะกดทัพและลักพาตัวไป
:
แล้วจึงแบกพระรามพาแทรกแผ่นดินไปยังเมืองบาดาล เป็นเหตุให้หนุมานต้องตามไปช่วยพระราม ในระหว่างทางไปเมืองบาดาล หนุมานจะสามารถฝ่าฟันด่านต่าง ๆ เพื่อไปช่วยพระรามกลับมาได้สำเร็จหรือไม่ ก็ลุ้นกันใจหายใจคว่ำเลยสิครับ
:
เปิดฉากมาด้วยการรำอวยพร เทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง บอกเลยว่า คุณไม่ต้องชอบโขน ไม่ต้องรู้เรื่องรามเกียรติ์ก็ได้ แค่มาดู Costume มาดูสไบ การจับคู่สี ความอ่อนของมือ หลังตรงเผ๊ะแบบเหมือนมีไม้ดามหลังตัวพระ การแต่งหน้านางรำที่วิจิตรบรรจง บอกเลยว่าคุ้มค่าบัตรสุดๆ แล้วแบบไม่ต้องสืบ
:
จบจากการรำอวยพร เปิดตัวทัพยักษ์ เคลื่อนไปหาไมยราพ ก็ชอบเล่นมุกกับแม่ทุกครั้งว่า พวกเหล่าตัวประกอบ เวลาโทรบอกที่บ้าน แบบ “แม่ครับ ผมได้เล่นโขนด้วย” แม่ก็จะถามต่อว่า “เป็นตัวอะไรละลูก?” ลูกก็จะบอกอย่างภูมิใจ “เป็นคนถือธง” มั่งละ “เป็นม้า” บ้างล่ะ และแมวอ้วนกะแม่เปี่ยมก็ขำกันอยู่สองคน ซึ่งพอมาดูจริงๆ บทเล็กๆเหล่านี้มีความสำคัญมาก สมมุติ ไม่มีม้านี่..ไมยราพหัวทิ่มลงมาจากราชรถได้เลยนะ
:
สำหรับเนื้อเรื่อง เราว่าทุกคนพอจะทราบอยู่แล้วว่าเรื่องราวในตอนนี้เป็นยังไง ฉะนั้น เราจะข้ามเหล่านั้นไป ไปชื่นชมความละเอียดของทุกดีเทล ตั้งแต่ฉากยันพื้นเวที ยาวไปถึงบ่อบัว ท้องพระโรงลงกาเอย ปะรำพิธีพิเภก เครื่องโชน อาวุธไม้ตะบอง
และคือ ความที่เจ้าแมวอ้วนเป็นพวกตื่นเต้นง่าย เอะอะอะไรก็โวยวายไว้ก่อน โชคดีคนนั่ข้างๆ ก็มีอารมณ์ร่วม ตื่นเต้นไปพร้อมกัน เชียร์หนุมานเหมือนเชียร์บัวขาวพอกัน เลยรอดมาได้ บอกเลยว่าสนุกมาก ถึงขนาดว่า จบรอบปุ๊บหาบัตรจะดูอีกรอบเลย และมันน่าภูมิใจมากนะที่เห็นบัตรหมดทุกรอบเลยอ่ะ ปลื้มมาก
:
ประทับใจตัวละครทุกตัว พูดเลย ไม่ว่าจะเป็นคนรำ คนร้องคนพากษ์ ปี่พาทย์ โดยเฉพาะ คณะตลก
“คณะทวารบาล” และมุขป้า นี่โดนใจคุณเปี่ยมมาก คำว่าป้า พูดเบาๆ ก็เจ๊บบบบบ ไหนจะด่านลอย ATK อันเท่าบ้าน ขำจนน้ำตาไหล ชอบมากกกกก และหนุมานกับมัจฉานุนี่น่ารักมากกกก ไมยราพเท่สุด พระรามงามมาก แบบว่า ชอบหมดทุกอย่างเลย เทคนิคแพรวพรายมาก เอฟเฟคดีงาม ฉากสวย คือจะอวยยศต่อไปเรื่อยๆ พูดเลย
ชุดลิง หนุมานอมพลับพลา หนุมานยักษ์ คือ หนุมานนี่เป็น เดอะแบกของเรื่องที่แท้ทรู เป็นทุกอย่างให้เธอแล้วจ้ะ ทหาร พลับพลา จา พนม (ต่อยกะอุปสรรคก่อนลงไปเมืองบาดาล) เป็นพ่อ เป็นนักกระโดดลงบ่อบัว แถมต้องหาวโชว์ลูก ปั้นของเล่น กล่อมมัจฉานุ ติดสไบป้าพิรากวน #เป็นหนุมานมันเหน่ย แถมสู้กับไมยราพอีก โอย สารพัประโยชน์ลิงไปไหนเนี่ย สู้เค้านะ ทาเคหนุมาน
:
เล่นไปเล่นมา กว่าจะถึงอินเตอร์มิชชั่น เข้าสู่ช่วงพุ่งไปแย่งชิงห้องน้ำในเร็วพลัน ตอนแรกหาญกล้า จะไม่ไปด้วย คิดไปคิดมา ไม่ควรต่อสู้กับอำนาจมืด (ระบบขับถ่าย) ครั้นแล้วก็วิ่งขึ้นเนิน ที่เคยกลิ้งลงมา ตอนมากับคอรัสตอนโน้น ไปเพื่อพบว่า ห้องน้ำได้รับความนิยมอย่างสูง
เอาน่ะ รอได้ แม้ผ้าถึงจะยาวกรอมพื้นก็ไม่เป็นปัญหา ถ้าเจ๊ผู้ลากหางปลามาประหนึ่งเป็นแอเรียล เข้าได้ ผ้าถุงไทยสุดไฉไลของแมวอ้วนก็ต้องเข้าได้
รอนานไม่มาก แค่แทบจะสนิทกับคุณป้าๆ รอบๆ ที่รอห้องน้ำ ป้าถามอายุ ป้าถามที่เรียน ป้าถามเรียนจบรึยัง ป้าจะสัมภาษณ์หนูไปลงนิตยสารสกุลไทยเหรอคะ(คนสมัยนี้ยังรู้จักสกุลไทยกันไหมอ่ะ?)
:
เข้าห้องน้ำเสร็จเดินกลับมาที่นั่ง เพื่อพบป้าต้อยอยู่เพียงลำพัง ถามไปถามมาจึงรู้ว่า แม่อยากเดินสำรวจห้องน้ำเล่น เลยไปอีกรอบ เกือบกลับมาไม่ทัน
แม่เล่าว่า แม่วิ่งออกไปห้องน้ำข้างล่างก่อน อุตส่าห์ต่อคิวที่หกอยู่ดีๆ ไม่ชอบ ชอบเลขสองตัว เพราะพนักงานบอกว่าชั้นบนมีห้องน้ำอีก 30 กว่าห้อง โปรดขึ้นไปข้างบนเถอะค่ะ มารดาเป็นคนว่าง่าย จึงสับผ้าถุงเดินไป ด้วยหวังว่าจะไร้คิว
แต่ปรากฏว่า คนทั้งชั้นสอง อยู่ที่นั่นมารดาจึงอยากคลุกคลีกะคนหมู่มาก จึงไปเป็นคิวที่ 20 ดีนะว่ากลับมาทันก่อนปิดไฟ จบเรื่องการเดินทางหาห้องน้ำหรรษาของมารดาเปี่ยม กลับสู่โขนจ้ะ
:
จำได้ว่า นอกจาก มานะ มานี ปิติ ชูใจ สิ่งต่อไปที่เรียนในวิชาภาษาไทยก็คือ “รามเกียรติ์” คิดว่าตัวเองเป็น Expert พอใช้ได้ (อย่างน้อยก็ไม่ถามออกมาว่า ลิงอีกตัวชื่ออะไรเหมือนคนที่นั่งข้างๆ ที่ชื่อแม่เปี่ยมอ่ะ)
ตอนที่นำมาแสดงนี้ ไม่อยู่ในความทรงจำเลย โดยเฉพาะฉากดงตาล (ที่ฝ่ายพร๊อพ เอาซะต้นตาลเหมือนขนมเกลียวเลย) แถมโยนหอกไมยราพไปโดนฉากดังแก๊ง หมดท่าเลยหนุมานของพรี่
:
อีกสิ่งหนึ่งที่แพรวพราว และว้าวมากทุกครั้งที่ออกแสดงคือ ฉากหนุมานโดดลงไปในดอกบัว ที่พีคก็คือ โดดเสร็จปั๊บ ป้าแถวหน้า โกยผ้าถุงลุกขึ้นยืนชะเง้อลงไปดูว่าหนุมานหายไปไหน
กับฉากไมยราพแบกพระราม ที่มารดาข้างๆดิฉันเถียงเสียงแข็งแปดสิบเบอร์ว่า หุ่น หุ่นอะไรเล่า คนแสดงแต๊ๆ เลยจ้า การแสดงล่วงเลยไปถึงเกือบสี่ทุ่มครึ่ง
จบด้วยฉากเทพชุมนุมที่อลังการงานสร้างมาก สวยมาก สวยทุกอย่างตั้งแต่ฉากยันสไบ ผ้านุ่ง เครื่องโขน พลับพลา นางฟ้า นางโปรย นางห้อย นางโหน ดูไม่ทันเลย มัวแต่อ้าปากค้างอยู่ สุดยอดฝีมือทางด้านการแสดงแล้ว
:
พอช่วง Curtain Call ตกใจมากกกับจำนวนนักแสดงทั้งหมด ทั้งตัวหลัก ตัวเสริม ชาวบ้านหนึ่ง ชาวบ้านสอง อัศจรรย์ใจ ประทับใจ และงงมาก ว่ามีคนแสดงเป็นหนุมานถึงห้าตัว ยังนึกชมอยู่เลย พี่ๆ ไม่เหนื่อย เหรอ ตีลังกาเสร็จ อะ โดดบ่อ อะต่อ ปีนเขา ตีลังกา ตีกะยุง เหาะได้ ซัดมวยกะไมยราพ
ถ้ามีคนเดียวแสดง คาดว่าไม่รอด โรงพยาบาลต้องเข้าเป็นสปอนเซอร์ละ แต่ถึงอย่างงั้น ถึงจะมีห้าคนแสดงก็ยังเหนื่อยแทนอยู่ดี ชื่นชมมากค่ะ
:
จบการแสดงออกมายังไม่วายตามหาห้องน้ำอีกรอบ (อะไรเอ่ยพูดถึงห้องน้ำหลายรอบจริงๆ) ถ่ายรูปในที่มืดตรงพลับพลา เดินลงมาหารถ หาข้าวกิน หาทางออก
อะไรไม่ว่า ออกมาเจอด่าน หัวเราะกันจนหัวทิ่ม ตำรวจงง เมายาป่าววะเนี่ย แถมไม่พอ หลงทางจนต้องไปกลับรถในม่านรูด บอกแล้วไม่ใช่ดอมเปี่ยม ทำไม่ได้หรอก
:
บอกเลยว่า การแสดงโขนครั้งนี้จะประทับอยู่ในใจไปอีกนาน ความอลังการของฉาก รายละเอียดในส่วนของเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม หัวโขน เอฟเฟค แสง สี อลังการ ประทับใจที่สุด ขอบคุณแม่และป้าต้อยที่พาไปดู
ต่อไปนี้ขอสมัครเป็นแฟนพันธุ์แท้ของการแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ไม่ว่าจะนำตอนไหนมาแสดง ก็จะตามไปดูทุกครั้งค่ะ
:
แมวอ้วนตัวนั้น ที่หน้าตาไม่ให้ แต่ใจรักษ์โขน
#บ่นทึก #แมวอ้วนตัวนั้นเจอนั่นเจอนี่ #VanillaTK
บันทึก
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย