8 ก.พ. 2023 เวลา 12:19 • หุ้น & เศรษฐกิจ

จีนเปิดประเทศช้า แต่เศรษฐกิจแซงหน้าอย่างรวดเร็ว

จากการที่ประเทศจีนได้ยกเลิกการใช้นโยบายโควิดอย่างเข้มงวด
เศรษฐกิจประเทศจีนก็ได้มีการฟื้นตัวอย่างน่าประทับใจ โดยเฉพาะ ในภาคการบริโภคของประชาชน
ช่วงตรุษจีนที่ผ่านมา จีนมีการเดินทางข้ามพรมแดนเกือบ 2.9 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้น 120.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี และการเดินทางภายในประเทศ 308 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้น 23.1%
บ็อกซ์ออฟฟิศทั่วประเทศกวาดรายได้ 6.76 พันล้านหยวน (1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดอันดับสองในช่วงวันหยุดประจำปี
ในขณะเดียวกัน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อสำหรับภาคการผลิตของจีนอยู่ที่ 50.1 ในเดือนมกราคม
ซึ่งกลับมาขยายตัวหลังจากหดตัวติดต่อกัน 3 เดือน
องค์กรระหว่างประเทศและวาณิชธนกิจต่าง ๆ ก็มีการเพิ่มการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในปี 2023 ขึ้น โดยนักเศรษฐศาสตร์บางส่วนมองว่า GDP ของจีนอาจเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 6%
Morgan Stanley ยังเพิ่มแนวโน้มการเติบโตของจีดีพีของจีนในปีนี้เป็น 5.7% จาก 5.4%
โดยคาดการณ์ว่าการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจจะมาเร็วกว่าที่คาดไว้
ในขณะที่ IMF คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของจีนมีกำหนดจะฟื้นตัวในปีนี้
เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ที่ฟื้นตัวขึ้นหลังจากการยกเลิกข้อจำกัดของโควิด
ซึ่งสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจโลกอีกด้วย
โดย IMF ได้มีการปรับการคาดการณ์ล่าสุดเป็น เศรษฐกิจจีนจะขยายตัว 5.2% ในปี 2023 นี้ เทียบกับการขยายตัว 3% ในปีที่ผ่านมา
การที่เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวในครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นข่าวดีสำหรับประเทศจีนอย่างเดียว
แต่ยังเป็นข่าวดีสำหรับเศรษฐกิจโลกอีกด้วย
โดยมีการคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะมีส่วนในการสนันสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจโลกถึง 25%
ถึงจะฟื้นตัวเร็ว แต่ความเสี่ยงในระยะยาวยังคงอยู่
ถึงแม้เศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว
แต่จีนก็ยังเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น
การหดตัวของอสังหาริมทรัพย์
ความไม่แน่นอนของการแพร่ระบาดโควิด 19 และการกลายพันธุ์
จำนวนประชากรที่ลดลงและการเติบโตของผลผลิตที่ช้าลงที่จะกลายมาเป็น อุปสรรคต่อการเติบโต ทางเศรษฐกิจ
จากรายงานประจำปีสำหรับประเทศจีนของ IMF ได้มีการแนะนำว่า จีนจำเป็นต้องมีนโยบายเศรษฐกิจมหภาคที่ครอบคลุมและมีการปฏิรูปโครงสร้างเพื่อรับประกันการฟื้นตัวและส่งเสริมการเติบโตที่สมดุล เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ IMF ยังแนะนำให้จีนคงผ่อนปรนนโยบายการเงินเพิ่มเติมเพื่อช่วยในการฟื้นตัวท่ามกลางแรงกดดันด้านเงินเฟ้อและการเติบโตที่ต่ำกว่าศักยภาพ รวมถึงการปรับโครงสร้างของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่มีปัญหาอย่างเป็นระเบียบจะช่วยลดความเสี่ยงได้
ในส่วนของปัญหาเรื่องกำลังแรงงานที่ลดลงและผลตอบแทนจากการลงทุนที่ลดลง
อาจส่งผลให้ในปีต่อ ๆ ไป การเติบโตของจีนจะชะลอตัวลง
โดย IMF คาดการณ์ว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจจะลดลงต่ำกว่า 4% ในอีก 5 ปีข้างหน้า
สิ่งสำคัญที่จีนต้องพิจารณา คือ การเพิ่มบทบาทความต้องการบริโภคในครัวเรือน การปฏิรูปต่างๆ เช่น การค่อย ๆ ขยายอายุเกษียณเพื่อเพิ่มปริมาณแรงงาน การเสริมสร้างสวัสดิการการว่างงานและประกันสุขภาพ และการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจเพื่อให้มี Productivity เทียบเท่ากับบริษัทเอกชนจะช่วยกระตุ้นการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในปีต่อ ๆ ไป
การดำเนินการปฏิรูปดังกล่าวจะทำให้ระดับรายได้ของจีนเพิ่มขึ้นประมาณ 2.5% ภายใน 5 ปี
และยิ่งเศรษฐกิจจีนดีมากขึ้นเท่าไร เศรษฐกิจโลกก็ยิ่งยิ่งดีตามไปด้วย
โดยการวิเคราห์ของ IMF พบว่า เมื่ออัตราการเติบโตของจีนเพิ่มขึ้น 1 percentage point
การเติบโตในประเทศอื่น ๆ จะเพิ่มขึ้นประมาณ 0.3 percentage points
เราก็ต้องมาจับตาดูกันว่า การฟื้นตัวของประเทศจีน และ การแก้ไขปัญหา ปฏิรูปภายในประเทศสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนและของประเทศอื่น ๆ ได้อย่างไร
ผู้เขียน : ณิศรา วาดี Economist, Bnomics
ภาพประกอบ : จินดาวรรณ อรรถมานะ Graphic Designer, Bnomics
▶️ ติดตามช่องทางของ Bnomics ได้ที่
Line OA : @Bnomics https://bit.ly/3eYkTJC
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
References:
โฆษณา