7 ก.พ. 2023 เวลา 13:31 • ความคิดเห็น
เรื่องจิตใจเวลาบาดเจ็บ ก็เหมือนแผลที่ปรากฏในร่างกาย เป็นแผลเป็น แผลถูกน้ำร้อนลวก แผลหายแล้วก็เป็นแผลเป็น แผลเป็นที่ติดลงไนจิตใต้สำนึก เวลามันผุดขึ้นมา ก็เหมือนเจ็บปวดเหมือนเป็นฝี เป็นหนองอักเสบ เจ็บปวดที่กาย มันล้วนเป็นอารมณ์ที่ไหลออกมาจากจิตใต้สำนึก ที่ตาเราเคยเห็นหูเราเคยได้ยิน รูปที่เราเคยชอบ เคยรักเคยหลงมันเปลี่ยนแปลงไป ไม่ได้ดังใจคิด ไม่ได้เป็นไปตามอารมณ์ที่เราปรารถนา ที่เค้าบอกว่าอารมณ์มายา นั้นให้เพียงความสุขที่สมหวัง ไม่สมหวังก็เกิดทุกข์เจ็บปวดจากอารมณ์เหมือนกัน
ทั้งเค้าทั้งเี่ล้วนก็ไม่เที่ยง ล้วนมีมายาปรุงแต่ง ให้เจอะเจอกัน. เค้าว่าทำบุญคล้องเวรกรรม ก็มาเจอะเจอกัน แล้วก็พลัดพรากกันไป มันไม่มีความแน่นอน ในสิ่งที่เราเคยยึด ..มันเปลี่ยนแปลงไป การที่เราได้เจอเหตุการณ์ ที่ไม่สมหวัง
..ก็เหมือนโลกเค้าสอนเรา ให้รู้จักรักตัวเองให้เป็น สอนให้รู้จักว่า .จิตใจของคนนั้นมัน ที่มีอารมณ์ปรุงแต่ง นั่นหาความแน่นอนไม่ได้ ..เมื่อมีกรรม อารมณ์กรรม ก็เข้ามาให้มีเหตุ มีความวิปริต ผิดปกติ .ในนิสัยที่ตนเองเคยใช้
เหมือนของที่เคยชอบ อยู่ก็เป็นไม่ชอบเสียงั้นแหละ เมื่อเราผ่านมีประสบการณ์ ..มันก็เป็นเรื่องปกติ ที่จะระมัดระวังจิจใจของตนเอง เหมือนเจ็ดไม่อยากให้เกิดซ้ำรอยๆ เดิมๆ คราวนี้..ถ้าเราหวาดวิตก ..ไม่ใช้เหตุผล ใคร่ครวญพิจารณา เรื่องที่มันจบ ..ก็ให้มันจบไป..ก็ทิ้งเรื่องเดิม..เรื่องที่เราจดจำเหมือนแผลเป็นนั่นแหละ ต้องทิ้งมันไป มันต้องอาศัยเวลารักษาแผลใจ
ยารักษาแผลใจ ที่ดี ก็โอสถในธรรมขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า สร้างบุญกุศล อุทิศให้กับผู้ที่เคยคล้องกรรม จองเวรกันมา จึงมีเหตุให้มาเจอกัน..ให้เราทุกข์กายทุกข์จิต ให้เกิดเป็นอโหสิกรรม .อภัยกันไป เพื่อให้เกิดเป็นกัลยามิตร อุปถัมภ์กันในทางที่ดี ..จิตของจะได้เบิกบาน เพราะบุญกุศลที่กระทำ หนุนนำให้เกิดเป็นอโหสิกรรมกัน จิตใจเราจะได้.ไม่ไปยึดเรื่องอดีต ที่ทำให้เราทุกข์
โฆษณา