Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
planbisnotcool
•
ติดตาม
8 ก.พ. 2023 เวลา 03:00 • นิยาย เรื่องสั้น
#เรื่องแต่งเอง :1: สมรสลับแม่ทัพสยบเหนือ
-- แม่ทัพเยี่ยหานเป็นแม่ทัพคู่บารมีของฮ่องเต้แคว้นซ่ง และยังเป็นพระสหายร่วมชั้นเรียนมาตั้งแต่เยาว์วัย หลังจากที่ฝ่าบาทให้กำเนิดโอรสธิดาสร้างความมั่นคงภายในได้แล้วถึงได้นึกถึงสหายที่ได้รับแต่งตั้งให้ไปประจำอยู่ชายแดนเหนือ จึงคิดส่งของขวัญพิเศษไปให้โดยมิได้ระบุข้อความอันชัดแจ้ง ด้วยเกรงว่าของขวัญที่ส่งไปนี้อาจถูกช่วงชิงระหว่างทาง
-- ของขวัญที่ว่านั้นก็คือหญิงงามมากความสามารถ 'จางเซวีย' เดิมทีนางเป็นเจ้าหน้าที่อยู่ในหน่วยสืบราชการลับของฮ่องเต้ ทว่าเพราะฮ่องเต้เห็นถึงความเพียบพร้อม และฮองเฮาเองก็ไม่ประสงค์ให้มีสตรีงดงามถึงเพียงนั้นคอยทำงานใกล้ชิดฮ่องเต้ จึงปรึกษาหารือกันส่งนางไปเป็นกำนัลแก่แม่ทัพสยบเหนือเยี่ยหาน
-- เมื่อจางเซวียไปถึงแดนเหนือแล้ว นอกจากความหนาวเหน็บที่เสียดลึกเข้าไปถึงกระดูกที่ต้อนรับผู้มาเยือนหน้าใหม่แล้ว ก็ไม่มีสิ่งใดที่จะเป็นสัญลักษณ์ของการทักทายสำหรับการมาเยือนนี้ได้อีก
-- เดินทางมาร่วมเดือนสู่ชายแดนหนาวเหน็บเพื่อเป็นชายาแม่ทัพซึ่งนางก็ไม่เคยพบหน้าสักครั้ง จางเซวียอดประหม่าไม่ได้ ตั้งแต่เกิดมาภายใต้การดูแลของพ่อบุญธรรมซึ่งเป็นขันทีใกล้ชิดฮ่องเต้ นางก็ไม่เคยมีช่วงเวลาที่เติบโตเป็นเด็กสาวรุ่นเช่นเดียวกับสตรีอื่นเลย พ้นจากวัยเด็กมาได้ก็ถูกส่งเข้าฝึกวรยุทธ์เป็นส่วนหนึ่งในหน่วยสืบราชการลับไปแล้ว
" แม่นางจาง "
ขณะที่นางก้าวลงจากเกี้ยว ด้านหน้าจวนแม่ทัพขนาดใหญ่ ทว่าสภาพทรุดโทรมไม่เหมือนที่พักอาศัยของผู้คน ก็มีคนผู้หนึ่งเอ่ยเรียกนางเอาไว้
-- หญิงสาวหันไปมองเขา บุรุษผู้นั้นอยู่ในชุดชาวบ้านทั่วไป ทว่าเรือนร่างสูงใหญ่บึกบึนดั่งชายชาตินักรบ นางอาจไม่ได้รู้สึกว่าเป็นเรื่องน่าตกตะลึงเพราะบุรุษอื่นในหน่วยสืบราชการลับเดียวกับนางก็มีรูปร่างคล้ายๆ เช่นนี้ ทว่าเขากลับแลดูใหญ่โตกว่าบ้าง
" เจ้าคือ...? "
นางมองเห็นหน้าเขาไม่ชัดนัก ด้วยว่าเขาทั้งไม่ได้เก็บเผ้าผมให้เรียบร้อย ทั้งสวมหมวกสานซึ่งปิดบังสายตา ทว่าที่เห็นชัดคือปลายจมูกโด่งกับริมฝีปากบางเฉียบ
" ท่านแม่ทัพรออยู่ที่ค่าย "
เขาตอบเพียงเท่านั้นแล้วก็ไม่ได้อธิบายขยายความต่อ
-- จางเซวียดูจากที่ผู้ติดตามไม่ได้ทักท้วงสิ่งใดก็เข้าใจว่าเขาผู้นี้คงต้องเป็นคนสนิทของแม่ทัพเยี่ย และคงจะมาเชิญให้นางไปพบท่านแม่ทัพที่ค่ายเป็นแน่ นางกำลังจะกลับขึ้นเกี้ยวเพื่อให้คนแบกตามเขาไปยังค่ายทหาร เขาก็คว้าข้อมือนางเอาไว้ให้หยุดชะงักอยู่ตรงนั้น
" ขี่ม้าเป็นหรือไม่? "
" เป็น แต่...เจ้าเอาม้ามาอีกตัวรึ? "
จางเซวียเอียงศีรษะมองหาม้าอีกตัว นอกจากตัวสีนิลพ่วงพีและดูมีกำลังดีตัวหนึ่งซึ่งคงเป็นของเขา นางก็ไม่เห็นม้าตัวอื่นใด
" ม้าตัวนี้ "
เขาตอบก่อนจะดึงนางให้ก้าวตามไป โดดขึ้นม้าอย่างคล่องแคล่วแล้วเอนตัวโน้มลงมา ใช้มือข้างเดียวเกี่ยวเอวพานางขึ้นมานั่งบนหลังม้าด้วยกัน
-- หญิงสาวขึ้นมานั่งด้านหน้าเขามือก็จับเชือกบังเหียนม้าเอาไว้อย่างคุ้นเคย ทว่านี่ไม่แปลกหรืออย่างไร บุรุษผู้นี้เป็นใครก็ยังไม่แน่ชัด เขายังพานางนั่งม้าตัวเดียวกันเพื่อจะไปพบแม่ทัพผู้เป็นว่าที่สามีของนาง!
" เจ้า! "
นางหันไปมองเขาอย่างสับสน ก่อนจะเหลียวไปมองผู้ติดตามที่ยืนนิ่งไม่พูดไม่จา ทั้งยังค้อมตัวส่งนางราวกับไม่เห็นว่าเป็นเรื่องประหลาดแต่อย่างใด
" เจ้าจะไม่แนะนำตัวเองหน่อยหรือ ขะ ข้าน่ะเป็น เป็นถึงว่าที่ฮูหยินแม่ทัพของเจ้าเชียวนะ นี่จะหยาบคายไปหน่อยหรือไม่... "
" เดี๋ยวก็ถึงค่ายแล้ว "
เขาว่าพลางถอนหายใจแผ่วเบา สองแขนที่ยื่นมาจับบังเหียนไว้เช่นกันรับรู้ถึงไออุ่นจางๆ จากร่างบางซึ่งเขาโอบอยู่กลายๆ
" แล้วท่านแม่ทัพให้เจ้ามารับข้าเช่นนี้หรือ? "
นางยังรู้สึกว่าการใกล้ชิดบุรุษอื่นถึงเพียงนี้ทั้งที่ตนได้รับการหมายหมั้นให้เป็นภรรยาของบุรุษอีกคนดูจะไม่เหมาะสมนัก
" ข้าแซ่เยี่ยชื่อหาน เจ้านั่งดีๆ "
" !!! "
จางเซวียเงียบสนิทลงพลัน ก่อนจะพยายามหันกลับมามอง พอดีกับที่บุรุษผู้นี้ดันหมวกขึ้น ทำให้นางได้สบตากับเขาโดยตรง
-- จางเซวียจ้องเขาตาไม่กะพริบ แววตาคมกริบที่ได้เห็นเป็นครั้งแรกทำให้ใบหน้าทุกส่วนของเขาแลดูสง่างามน่าเกรงขามจนนางเกิดขนลุกชันไปทั้งตัว ยิ่งดวงตานางเบิกกว้างขึ้น เขาก็ยิ่งพบว่าว่าที่ภรรยาน่าเอ็นดูขึ้นหลายเท่าจนอดยิ้มขบขันไม่ได้
-- รอยยิ้มนั่น! บุรุษผู้นั้นยิ้มหรือ? หญิงสาวไม่แน่ใจนักว่านางตาฝาดไปหรือไม่ แม้จะทั้งแปลกประหลาดในความรู้สึก ทว่านางก็ได้สติรีบหันกลับมาพลางนิ่งตรึกตรอง เขาหลอกนางอยู่หรือไม่นะ?
" ไม่เชื่อข้ารึ? เจ้าเป็นถึงข้าราชบริพารของฝ่าบาท...ไม่รู้จักข้าเช่นนี้จะนับว่าไม่จงรักภักดีได้หรือไม่ หรือว่าคนในเมืองหลวงลืมไปแล้วว่ายังมีนายทหารเช่นข้าปกป้องชายแดนอยู่ที่นี่ "
" เอ่อ ท่าน... "
จางเซวียเคยเห็นรูปเขามาก่อน แต่ก็เป็นเพียงครั้งเดียวเมื่อนานมาแล้ว แต่ทว่างานของนางก็ต้องพบปะผู้คนมากหน้าหลายตา ดูรูปมาก็ไม่น้อย นางคงไม่มีความสามารถจะจดจำรายละเอียดบนใบหน้าเขาได้จนถึงตอนนี้
" หากภายหน้ายังจำหน้าสามีไม่ได้อีก เห็นทีว่าจำต้องลงโทษตามแบบของสามีแล้ว "
" แม่ทัพเยี่ย ผู้น้อยขออภัยท่านด้วย ผู้น้อยไร้สามารถ ไม่อาจจดจำใบหน้าท่านได้ วันหน้าจะไม่เกิดเหตุเช่นนี้แล้วเจ้าค่ะ "
" ผู้น้อย? "
เยี่ยหานหัวเราะขบขันเสียงดัง ม้าตัวใหญ่ย่างใกล้ทางเข้าค่าย ทหารที่เฝ้ายามแลเห็นเขาก็ทำความเคารพตามปกติ
-- จางเซวียได้รับการยืนยันจากทหารรักษาการณ์นี่เอง นางนั่งตัวเกร็งไปตลอดทางที่เขาพาไปสู่กระโจมส่วนตัว ถึงที่หมายแล้วก็โดดลงไปก่อนที่จะยื่นมือเกี่ยวเอวคว้านางตามลงมาเหมือนตอนขึ้นไป
-- นางซึ่งนิ่งก้มหน้าก้มตาไม่พูดไม่จาอันใดก็ถูกเขาจูงเข้าไปด้านในกระโจมหลังใหญ่ เยี่ยหานถอดหมวกและถอดเสื้อคลุมตัวใหญ่ออก แล้วเดินไปนั่งที่ชุดโต๊ะเก้าอี้ที่ใจกลางกระโจมนั่นเอง
" ข้าไม่ชอบพิธียุ่งยาก เจ้าก็มาดื่มสุรามงคลด้วยกันเถิด "
เขารินสุราอุ่นๆ ให้แล้วหันไปมองคนที่เริ่มเงยหน้ามองสำรวจไปรอบตัว ก่อนเอ่ยเร่งนางอีกครั้ง จางเซวียจึงต้องก้าวเข้าไปนั่งด้านตรงข้ามกับเขา มือยื่นออกไปคว้าจอกสุรามาถือไว้
"ดื่มสุรามงคลแล้วก็นับว่าเสร็จสิ้นพิธีใช่หรือไม่ท่านแม่ทัพ? "
นางมองของเหลวในจอก แล้วเงยหน้ามองบุรุษตรงหน้าอย่างสงสัยใคร่รู้ เรื่องพวกนี้กงกงผู้เป็นบิดาบุญธรรมใช่ว่าจะไม่เคยให้คนมาอบรมสั่งสอน ในเมื่อท่านแม่ทัพไม่ชอบพิธีรีตอง นางก็หวังว่าเขาจะทำให้ทุกอย่างจบสิ้นลงภายในจอกเดียวนี่เอง
" เจ้าว่าพรมขนสัตว์บนเตียงนั่นเป็นอย่างไร? "
เขายกมุมปากข้างหนึ่งขึ้นเล็กน้อย หากไม่สังเกตให้ดีจะมองไม่ออกว่าเขาขยับปาก สายตาคมหลุบจ้องจอกในมือซึ่งหมุนไปมาเบาๆ อย่างมีลีลา
"เอ่อ ก็สวยดีเจ้าค่ะ "
" ได้ยินว่าเจ้าเคยทำงานในหน่วยสืบราชการลับ คงเข้าใจอยู่บ้างว่าชีวิตทหารอย่างข้าเป็นอย่างไร... "
"ข้าเข้าใจดีเจ้าค่ะ"
นางเอ่ยขึ้นอย่างกระตือรือร้น แสดงออกว่านางเข้าใจความยากลำบากของเขา อย่างน้อยๆ ก็ให้เขารู้ว่านางจะไม่แข็งข้อให้เขาต้อง 'ลงโทษ'
-- เขาเหลือบมองนางคล้ายอยากจะพินิจของขวัญจากฮ่องเต้ให้ชัดอีกสักหลายๆ ครั้ง และยอมรับว่าตนถูกใจอย่างยิ่ง ทำให้นางได้สติว่ากำลังเผลอเอ่ยแทรกขึ้นมาทั้งที่เขายังพูดไม่ทันจบ จึงรีบเม้มปากเอาไว้
" ถึงอย่างไรเจ้าก็เป็นสตรี ทั้งยังจะเป็นภรรยาของข้า ข้าคงต้องถนอมเจ้าสักหน่อยเพื่อไม่ให้ 'ของขวัญ' ที่ฝ่าบาทพระราชทานมาให้ชิ้นนี้บอบช้ำเกินไปนัก "
" ถนอม? "
นางสะอึกขึ้นมาทันที แลไปยังเตียงซึ่งมีพรมเนื้อหนาปูรอง ก่อนจะหันมามองคนตรงหน้า พอดีกับที่เขาหันมาจ้องนางอยู่พอดี
" เพื่อไม่ให้เสียฤกษ์ ดื่มสุราเถิด...เซวียเอ๋อร์ "
" ท่านแม่ทัพ? "
นางตกตะลึง แต่เห็นเขายกจอกขึ้นดื่มรวดเดียวแล้วนางก็จำต้องดึงจอกเข้ามาชิดริมฝีปาก จิบทีละนิด ก่อนจะถูกคนที่ดื่มหมดก่อน หันมาเท้าคางมองนางนิ่ง รอยยิ้มของเขาค่อยๆ ขยายกว้างขึ้นก่อนจะกลายเป็นหัวเราะดังลั่น
" กลัวสามีขนาดนั้นเชียวหรือ ข้าล้อเจ้าเล่นเท่านั้นเอง รีบดื่มแล้วไปนอนพักผ่อนเถิด เดินทางมาไกลมิใช่หรือ ที่นี่เป็นที่พักของเจ้า ของข้าอยู่ด้านหลัง เจ้าดื่มหมดข้าก็กลับแล้ว "
-- จางเซวียคาดไม่ถึง เมื่อได้ฟังเขาพูด และมองสายตาอบอุ่นอ่อนโยนผิดจากก่อนหน้านี้นางก็ค่อยๆ ดื่มสุราจนหมดแล้วทวนถามเขาให้แน่ชัดอีกครั้ง
" ที่นี่...ที่นี่ของข้าหรือ? เช่นนั้นท่านแม่ทัพก็ไม่ได้จะ... "
" เรื่องนั้นข้าไม่ทำในค่ายหรอก เอาไว้กลับจวนค่อยคิด "
" แล้วท่านพาข้ามาที่ค่ายด้วยนี่ก็แค่เพื่อเข้าพิธีมงคล? "
" ข้อแรกก็เพื่อการนั้น ข้อที่สองข้าได้ยินว่าเจ้าเป็นคนเจ้าแผนการ ฝ่าบาทส่งมันสมองมาให้ทั้งที ข้าก็อยากจะลองใช้ดูสักหน่อย แต่ไว้เจ้านอนพักผ่อนเต็มที่แล้วค่อยว่ากัน "
" เอ่อ... "
" แล้วเวลาอยู่กันสองคน ไม่ใช่ว่าควรเรียกข้าว่าท่านพี่หรือ? "
"ท่านแม่ทัพ..."
จางเซวียนึกไม่ถึงว่าเขาจะใจดีกว่าชื่อเสียงอันเล่าลือว่าโหดเหี้ยมดุร้ายของเขาราวกับเป็นคนละคน เมื่อมองเขาหรี่ตาหลังจากเพิ่งเอ่ยเรียกออกไปอย่างนั้นนางก็สะบัดหน้าเบาๆ แล้วเปล่งเสียงเรียกใหม่
" ท่านพี่ "
" เช่นนั้นข้าไปล่ะ "
" ข้ายังไม่ได้แนะนำตัวกับท่านอย่างเป็นทางการเลย "
เมื่อนึกได้หญิงสาวก็ลุกขึ้นแล้วก้าวตามไปเบื้องหลังเขาติดๆ
" คงไม่ต้องหรอก ข้ารู้จักเจ้าอยู่แล้ว อย่าเสียเวลาเลย ไปนอนเอาแรงฟื้นฟูสมองเจ้าให้ดีๆ วันหน้าเจ้าจะได้ใช้ความสามารถของเจ้าอย่างคุ้มค่าทีเดียว เซวียเอ๋อร์ "
" ท่าน...พี่ "
มือเล็กยื่นออกไปจับแขนแน่นๆ ของเขาเอาไว้ได้ทัน เมื่อเขาหันกลับมานางก็ไม่รู้จะพูดอะไร เพียงว่าอยู่ๆ ก็รู้สึกอยากมองเขาให้นานกว่านี้
" สามี...ข้าขออภัยอีกครั้งที่จำท่านไม่ได้ "
-- แม่ทัพหนุ่มอดไม่ได้ เมื่อจ้องมองคนงามนานเกินไป แล้วยังผละออกไปจากกระโจมไม่ได้เสียที เขาก็ถอยกลับมาก้าวหนึ่ง มือประคองใบหน้าภรรยาเอาไว้ก่อนโน้มลงมาจุมพิตหน้าผากมนครั้งหนึ่ง
" ย่อมให้อภัยเจ้า เด็กดี "
เขายิ้มให้นางอีกครั้ง จางเซวียเองก็มองสบตาเขาแล้วยิ้มได้เป็นครั้งแรกตั้งแต่ออกจากเมืองหลวงมา ที่แท้สามีนางผู้นี้ก็ไม่ได้น่ากลัวเลยสักนิด
[ Cr. image ::
pinterest.com
-- ขอบคุณที่แวะมาอ่านน้าาา ]
เรื่องสั้น
จีนโบราณ
นิยายสั้น
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย