8 ก.พ. 2023 เวลา 05:36 • ธุรกิจ

Hermès เส้นทางของความ “หลงใหล” สู่การสะสมสร้าง “ความมั่งคั่ง” ตอนสุดท้าย

จากสองตอนที่ผ่านมาเห็นแล้วว่าเมื่อ Hermès มี Brand loyalty สูงขนาดนี้ และสินค้าของ Hermès ก็ไม่ใช่แค่สินค้าแฟชั่น แต่กลายเป็นสินค้าแสดงฐานะและสะสมความมั่งคั่ง
ราคาหุ้นของ Hermès International Société en commandite par actions เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดตั้งแต่ปี 2011 จนมาถึงปีนี้ 2023 ก็ทำ New High ใหม่ หลังจากที่ราคาหุ้นกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นตั้งแต่กลางปี 2022 หลังการประกาศตัวเลขผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2022 ออกมาดีเกินคาด
 
Hermès ผลประกอบการหลังโควิดที่ไปไกลกว่าก่อนเกิดโควิด
1
- รายได้ในครึ่งปีแรก 2022 สูงแตะระดับ 5.4 พันล้านยูโร หรือเพิ่มขึ้น 30% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2012 ที่อยู่ระดับ 4.2 พันล้านยูโร ขณะที่ช่วงก่อนโควิด รายได้ครึ่งปีแรกของปี 2019 ประมาณ 3.2 พันล้านยูโร (ปี 2020 ซึ่งเป็นปีได้รับผลกระทบจากโควิด รายได้ครึ่งปีแรกอยู่ที่ 2.4 พันล้านยูโร)
- กำไรจากการดำเนินงานก็ปรับเพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกัน โดยครึ่งปีแรก 2022 อยู่ที่ 2.3 พันล้านยูโร เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก 2021 อยู่ที่ 1.7 พันล้านยูโร เพิ่มขึ้นถึง 34% และเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2019 อยู่ที่ 1.1 พันล้านยูโร
- ถ้าเปรียบเทียบอัตราส่วนกำไรต่อรายได้ (Operating income in % of revenue) ครึ่งปีแรก 2022 อยู่ที่ 42.1% เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2021 อยู่ที่ 40.7% และครึ่งปีแรก 2019 อยู่ที่ 34.8%
ขณะเดียวกันในครึ่งปีแรก 2022 Hermès สรุปเพิ่มเติมในเรื่องของงานขาย ดังนี้
- รายได้จากการขายผ่านหน้าร้านเพิ่มขึ้น 23% (Hermès ใช้คำว่า rose sharply) โดยมาจากทางเอเชียถึงแม้ว่าจีนเองในช่วงนั้นจะยังปิดประเทศจากปัญหาเรื่อง Covid-19 อยู่
- ยอดขายก็เป็นเช่นเดียวกับรายได้ที่ไตรมาสสองมียอดถึง 2.7 พันล้านยูโร เพิ่มขึ้นจากเวลาเดียวกันนี้ของปี 2021 ประมาณ 26% คิดจากอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน
- ทั้งนี้รายได้ส่วนมากก็ยังมาจากผลิตภัณฑ์เครื่องหนัง (Leather Goods and Saddlery) โดยมีสัดส่วน 43% รองลงมาก็เป็นกลุ่มเครื่องนุ่งห่ม (Ready-to-wear and Accessories) ประมาณ 24%
- ยอดขายมาจากทาง Asia-Pacific ถึง 49% รองลงมาคือ อเมริกา 18% ยุโรป 12% ญี่ปุ่น 10% ยุโรป 12% ฝรั่งเศส 9% และอื่น ๆ 2%
ทำไม Hermès ถึงสามารถพลิกฟื้นได้แบบพุ่งทะยานภายหลังการเกิดโควิด
มีบทวิเคราะห์ How Hermes survied COVID-19 and Recovered so quickly? ที่จัดทำโดย Yitong Wu สรุปไว้อย่างน่าสนใจว่า
- ฐานะการเงินแข็งแกร่ง เพราะ Hermès บริหารจัดการการเงินไม่ได้เน้นการขยายธุรกิจจากหนี้สิน (Conservative leverage) รวมถึงการจัดการที่มีประสิทธิภาพในช่วงที่ห่วงโซ่อุปทานสะดุด (Efficient operations in the face of supply chain shortages) และการที่ธุรกิจดำเนินการต่อได้ถึงแม้จะไม่สามารถเปิดหน้าร้านได้
- ขยายช่องทางขายผ่านออนไลน์อย่างจริงจัง (ในการประกาศผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก 2022 Hermès ก็ให้ความเห็นถึงผลการดำเนินที่ดีมาจากช่องทางออนไลน์)
 
- เพราะสินค้าของ Hermès เป็น “ทรัพย์สินที่สะสมความมั่งคั่ง” กลายเป็นว่าช่วงที่เกิดภาวะเงินเฟ้อสูงในปีสองปีที่ผ่านมา สินค้าของ Hermès กับกลายเป็นที่ต้องการและมีการซื้อต่อในราคาที่สูงขึ้น
- ช่วงสองปีนี้ Hermès ขึ้นราคาสินค้าอย่างมาก (เค้าใช้ประโยคว่า Hermès has aggressively raised prices)
- Hermès ขยายงานขายเข้าสู่ “เอเชีย” อย่างมีนัยสำคัญ
Hermès Brand แบรนด์ที่ทำสินค้าของตัวเองด้วยกลยุทธ์กระตุ้น Demand ควบคุม Supply เน้นเรื่องคุณภาพ ผลักดันให้ผลิตภัณฑ์ไม่ใช่สินค้า แต่เป็น “ทรัพย์สินสะสมค่า” ก่อให้เกิด Brand loyalty ซึ่งนำมาสู่ความสามารถกำหนดราคาได้แม้ในภาวะที่ไม่เอื้ออำนวย อ่านมาถึงกันแบบนี้แล้ว ทำไมหุ้นของ Hermès ถึงน่าลงทุน
BBLAM ออกกองทุนใหม่คือ B-PREMIUM เปิดขายระหว่างวันที่ 14-21 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่ง Hermès เป็นธุรกิจใน 20 อันดับแรกที่กองทุน B-PREMIUM ลงทุน
โฆษณา