10 ก.พ. 2023 เวลา 05:34 • ธุรกิจ

<อัปเดต> สรุป ประเด็น HYBE กำลังกลายเป็น “ผู้ถือหุ้นใหญ่สุด” ใน SM Entertainment

ถือเป็นดีลใหญ่สะเทือนวงการ K-pop
เมื่อ HYBE บริษัทต้นสังกัดศิลปินชื่อดัง อย่าง BTS
ได้เข้าซื้อหุ้นบริษัทคู่แข่งอย่าง SM Entertainment ต้นสังกัดของศิลปิน EXO, NCT และ Aespa
จาก คุณอี ซู-มัน ผู้ก่อต่อบริษัท SM Entertainment ในสัดส่วน 14.8% ของหุ้นทั้งหมด
ซึ่งดีลนี้คิดเป็นมูลค่าถึง 11,200 ล้านบาท
และยังส่งผลให้ HYBE กลายเป็น “ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด” ของ SM Entertainment แทนที่คุณอี ซู-มัน ซึ่งเขาจะเหลือหุ้น SM Entertainment อยู่ในมือเพียง 3.7%
โดย HYBE ได้ระบุเหตุผลของการเข้าซื้อหุ้น ในเอกสารที่ยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์ว่า การตกลงซื้อขายในครั้งนี้ เป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับโลก ให้กับอุตสาหกรรม K-pop
นอกจากนี้ HYBE ยังมีแผนที่จะเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้น SM Entertainment โดยซื้อหุ้นเพิ่มจากผู้ถือหุ้นรายย่อยในอนาคต
ทีนี้เราลองมาดู ผลประกอบการในกลุ่ม BIG 4 ของธุรกิจค่ายเพลงเกาหลีใต้ กันสักเล็กน้อย
ผลการดำเนินงานปี 2021
HYBE Corporation รายได้ 33,803 ล้านบาท กำไร 3,791 ล้านบาท
SM Entertainment รายได้ 18,883 ล้านบาท กำไร 3,586 ล้านบาท
YG Entertainment รายได้ 9,572 ล้านบาท กำไร 658 ล้านบาท
JYP Entertainment รายได้ 5,219 ล้านบาท กำไร 1,817 ล้านบาท
จากตัวเลขด้านบนนี้ เราจะเห็นได้ว่า
1
SM Entertainment มีรายได้เป็นรองแค่ HYBE เพียงบริษัทเดียวเท่านั้น
และแม้ว่า ตัวเลขรายได้จะน้อยกว่า HYBE เป็นเท่าตัว
แต่กลับมี “อัตรากำไร” ที่ค่อนข้างสูง จนกำไรตามหลัง HYBE เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น
ซึ่งถ้าหากดีลนี้สำเร็จ ก็น่าจะสร้างการสั่นสะเทือนในวงการนี้ไม่น้อย
อย่างไรก็ตาม ดีลนี้กลับมีเบื้องหลังที่มากกว่านั้น
1
เนื่องจากความขัดแย้งของกลุ่มผู้บริหารภายใน SM Entertainment
โดยก่อนหน้านี้ คุณอี ซู-มัน เคยคัดค้าน บอร์ดบริหาร เรื่องการขายกิจการให้กับ Kakao บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของเกาหลีใต้ ซึ่งตอนนี้เจ้าของ Kakao เป็น “คนรวยสุด” ในเกาหลีใต้
ซึ่งนอกจาก Kakao จะครองวงการเทคโนโลยีแล้ว
Kakao ก็ยังเป็นอาณาจักรความบันเทิงขนาดใหญ่ ที่ดูแลค่ายเพลง EDAM ต้นสังกัดของศิลปิน IU และ Management SOOP ต้นสังกัดของพระเอกกงยู, ซูจี และนัมจูฮยอก
แต่ความขัดแย้งของเรื่องนี้ มันเริ่มเกิดขึ้นในวันอังคารที่ผ่านมา
เมื่อ Kakao ได้ประกาศว่าจะซื้อหุ้น SM Entertainment ในสัดส่วน 9.05% และถ้าหากดีลนี้สำเร็จ Kakao จะกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 รองจาก คุณอี ซู-มัน
แต่ประเด็นสำคัญ คือ การขายหุ้นในครั้งนี้ ไม่เคยมีการแจ้งให้คุณอี ซู-มัน ทราบมาก่อน
รวมถึง การขายหุ้นดังกล่าว ยังเป็นการเสนอออกหุ้นใหม่
พร้อมออก Convertible Bonds หรือก็คือ หุ้นกู้ที่สามารถแปลงสภาพเป็นหุ้นในอนาคตได้ ให้กับ Kakao
ซึ่งการทำแบบนี้ จะส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นของคุณอี ซู-มัน ลดลงมาเหลือ 16.8% จากที่เดิมทีเขาถืออยู่ 18.5%
โดยล่าสุด คุณอี ซู-มันได้เตรียมการฟ้องร้องผู้บริหารของ SM Entertainment ที่ทำข้อตกลงนี้กับ Kakao
รวมถึง การที่คุณคุณอี ซู-มัน ดึง HYBE เข้ามาใน SM Entertainment ก็เพื่อที่จะกันอิทธิพลของ Kakao ออกไป
ซึ่งข้อตกลงระหว่าง HYBE กับ SM Entertainment จะได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 6 มีนาคมนี้ ส่วนคุณอี ซู-มัน ก็ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อยู่ในตอนนี้
สุดท้ายนี้ ต้องบอกว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ HYBE พยายามจะขยายอาณาจักรของตัวเองให้กว้างใหญ่ขึ้น
ด้วยการเข้าซื้อกิจการค่ายเพลงอื่น ๆ
เช่น ในปี 2020 เข้าซื้อค่ายเพลงเกาหลี Pledis Entertainment ต้นสังกัดศิลปินอย่าง NU'EST และ Seventeen รวมถึง KOZ Entertainment ที่ก่อตั้งโดย ศิลปินหนุ่ม Zico
ในปี 2021 เข้าซื้อ Ithaca Holdings บริษัทที่เป็นผู้จัดการศิลปินระดับโลกอย่าง Justin Bieber และ Ariana Grande ด้วยมูลค่ากว่า 33,000 ล้านบาท
1
โฆษณา