Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Happily.ai
•
ติดตาม
10 ก.พ. 2023 เวลา 10:35 • ธุรกิจ
กำจัดพฤติกรรม Toxic ด้วยพลังของ Soft Skill
งานศึกษาของ MIT Sloan พบว่า วัฒนธรรมอัน Toxic คือสาเหตุที่ทำให้คนลาออกจากงานมากที่สุด และมากกว่าเงินเดือนและ Work-life-balance ถึง 10 เท่า
พนักงานไม่ได้ลาออกเพราะต้องการเพิ่มเงินเดือน แต่เพราะพวกเขารู้สึกไร้คุณค่า โดนกีดกัน เอารัดเอาเปรียบ หรือโดนเหยีดหยามต่างหาก ซึ่งสร้างความเครียดแก่พวกเขาอย่างมากและ Burnout ในที่สุด และส่งผลให้ Well-being ในที่ทำงานถดถอยลงไปด้วย
พฤติกรรม Toxic สร้างความขัดแย้งและทำให้ Well-being ของพนักงานในที่ทำงานต่ำ ขณะที่ Human (Soft) Skill ให้ผลตรงกันข้าม ทักษะทางอารมณ์และสังคมเหล่านี้ทำให้การทำงานร่วมกันราบรื่น และช่วยสร้างสิ่งแวดล้อมการทำงานที่ดี
เราจึงศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรม Toxic และ Soft Skill เพื่อทำความเข้าใจชนวนที่ก่อให้เกิดวัฒนธรรม Toxic และวิธีป้องกันที่ทำงานของคุณจากสิ่งไม่พึงประสงค์เช่นนี้
ความสัมพันธ์ระหว่างความตระหนักรู้ต่อพฤติกรรม Toxic และ Soft Skill
กลุ่มตัวอย่างของเราประกอบด้วย พนักงานจำนวน 759 คน จาก 28 บริษัท เราประเมินความถี่และความพยายามในการฝึกฝน Soft Skill ทั้งหมด 6 ทักษะ (Empathy, Leadership, Self-awareness, Optimism, Initiative-making, and Critical Thinking) ผ่านการตอบคำถามหรือการให้ Feedback ในแต่ละวัน นั่นคือ ยิ่งฝึกฝนทักษะด้านใด ทักษะด้านนั้นก็ยิ่งพัฒนา
เรายังศึกษาความตระหนักรู้ต่อพฤติกรรม Toxic ในที่ทำงานของพนักงาน ผ่านคำถาม “คุณเจอพฤติกรรมที่เป็นพิษในที่ทำงานบ่อยแค่ไหน (เช่น หักหน้าคนอื่น แย่งเครดิตงาน บูลลี่ ชอบควบคุมบงการ เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง ลำเอียง เป็นต้น)”
หลังจากแบ่งพนักงานออกเป็น 4 กลุ่มเท่ากัน โดยเรียงความถี่ในการฝึกฝน Soft Skill จากน้อยไปหามาก เมื่อเปรียบเทียบพนักงานกลุ่มที่ไม่เคยฝึกฝน Soft Skill (ควอร์ไทล์ล่าง) กับกลุ่มที่ฝึกฝนและพัฒนาเป็นประจำ (ควอร์ไทล์บน)
เราพบว่า จากทั้งหมด 6 ทักษะ Leadership ส่งผลต่อความตระหนักรู้ของพนักงานที่มีต่อพฤติกรรม Toxic ในที่ทำงานมากที่สุด สัดส่วนของพนักงานที่ไม่เคยหรือแทบจะไม่เคยพบเจอพฤติกรรม Toxic ลดลงถึง 28% หลังจากพวกเขาพัฒนา Leadership ของตนเอง เนื่องจาก Leadership คือทักษะที่ส่งเสริมให้พนักงานกล้าเผชิญหน้าและท้าทายสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน พวกเขาจึงมีแนวโน้มที่จะสังเกตเห็นและไม่เพิกเฉยต่อพฤติกรรมที่ยอมรับไม่ได้เหล่านี้
นอกจากนี้ เรายังศึกษาว่า ความปลอดภัยทางใจ (Psychological Safety) มีผลอย่างไรต่อความเต็มใจที่จะรายงานพฤติกรรม Toxic ผ่านคำถาม "อะไรคือพฤติกรรมที่สร้างความรู้สึกแย่ ๆ ให้กับคนอื่นที่คุณเผชิญอยู่ในขณะนี้?"
พนักงานที่ฝึกฝนและพัฒนา Leadership เป็นประจำมีแนวโน้มที่จะพูดถึงและให้รายละเอียดกับพฤติกรรมที่พบเจอมากกว่าถึง 10 เท่า Psychological Safety จึงสำคัญ เมื่อสภาพแวดล้อมการทำงานให้อำนาจในการตัดสินใจแก่พนักงาน
การพูดและแสดงความเห็นอย่างตรงไปตรงมาก็กลายเป็นเรื่องปกติ ส่งผลให้พนักงานกล้าที่จะขัดขวางและรายงานพฤติกรรม Toxic โดยไม่กลัวว่าจะมีผลกระทบใด ๆ ตามมา
เมื่อพนักงานที่มี Leadership ทำงานในสภาพแวดล้อมที่ดี พวกเขาจะไม่จำยอมและไม่ลังเลที่จะต่อต้านและคัดค้านพฤติกรรมอัน Toxic ดังนั้นการพัฒนา Leadership และการส่งเสริม Psychological Safety ช่วยป้องกันไม่ให้ความ Toxic แพร่กระจายและเติบโตในองค์กรได้
เมื่อพนักงานที่มี Leadership สูงทำงานในที่ที่มีความปลอดภัยทางใจ (Psychological Safety) การขัดขวางและรายงานพฤติกรรม Toxic จะเพิ่มขึ้นถึง 10 เท่า เพราะพวกเขาไม่รู้สึกหวาดกลัวและกังวลว่าจะมีผลกระทบใด ๆ ตามมา
กำจัดพฤติกรรม Toxic เพื่อรักษาพนักงานไว้ในองค์กร
Soft Skill โดยเฉพาะ Leadership จำเป็นต่อการส่งเสริมให้พนักงานกล้ายืนหยัดและรายงานพฤติกรรม Toxic ในที่ทำงาน เมื่อประกอบกับความปลอดภัยทางใจ (Psychological Safety) ด้วยแล้ว พฤติกรรม Toxic เหล่านี้ก็จะถูกกำจัดออกไปในที่สุด ดังนั้น องค์กรจะสามารถลดอัตราการลาออกและรักษาพนักงานที่มีคุณค่าไว้ได้ เราจึงอยากเห็นผู้นำและหัวหน้างานตั้งเป้าหมายดังต่อไปนี้
1. พัฒนา Soft Skill ของทุกคนในองค์กร
การสำรวจและค้นหา Soft Skill ที่ยังขาดหายและการให้โอกาสพนักงานได้ฝึกฝนและลองใช้ทักษะเหล่านี้ในสถานการณ์จริงเป็นเรื่องสำคัญต่อการพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ ศึกษา 5 ขั้นตอนเพื่อพัฒนา Soft Skill ได้ที่นี่
2. เสริมสร้างความปลอดภัยทางใจ (Psychological Safety)
ความ Toxic ส่งต่อกันได้ ฉะนั้นจึงมีโอกาสสูงมากที่พฤติกรรม Toxic จะแพร่กระจายจนพบเห็นได้ทั่วไปในองค์กร หากที่ทำงานไม่ใช่ที่ปลอดภัยทางใจของคนในองค์กรแล้ว พฤติกรรมอันไม่พึงประสงค์เหล่านี้จะแข็งแกร่งขึ้น และผู้นำก็ยังมองไม่เห็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นเช่นเดิม
ถึงแม้บรรทัดฐานทางสังคมจะไม่ส่งเสริมให้คนกล้าจะทำอะไรบางอย่างที่อาจเสี่ยงเกิดการกระทบกระทั่งกับผู้อื่นได้ แต่ผู้นำสามารถสร้างและพัฒนาความปลอดภัยทางใจให้เกิดขึ้นในองค์กรของคุณได้จาก 5 ขั้นตอนที่เราเคยแนะนำไว้
3. สร้างความแข็งแกร่งให้วัฒนธรรมองค์กร โดยปฏิบัติตามค่านิยมองค์กร (Core Values)
วัฒนธรรมและค่านิยมองค์กรคือเครื่องมือสำคัญที่สร้างความมั่นใจให้ผู้นำได้ว่า พนักงานของพวกเขาได้รับการปฏิบัติอย่างเคารพและให้เกียรติ ผู้นำต้องใส่ใจในการออกแบบวัฒนธรรมองค์กรของคุณ และคิดไว้เสมอว่าอะไรจะช่วยสร้างทีมที่ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
การเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์กรเป็นเรื่องท้าทายอย่างยิ่ง ซึ่งเราเข้าใจดีและเป็นเหตุผลให้เราสร้างแหล่งรวบรวมเครื่องมือสำหรับสร้างและพัฒนาวัฒนธรรมองค์กร หากสนใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จาก Happily Culture Toolkit
อ่านเพิ่มเติม
blog.happily.ai
Culture Toolkit
A collection of tools for leaders and those interested in organizational culture, including strategies for supporting and changing company culture
องค์กรสามารถเพิ่มความพึงพอใจของพนักงาน เพิ่ม Productivity และรักษาพนักงานดาวเด่นไว้ได้ ด้วยการกำจัดหรือบรรเทาพฤติกรรม Toxic ในองค์กร (ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของปรากฎการณ์ลาออกครั้งใหญ่ หรือ The Great Resignation อีกด้วย)
ผู้นำควรตั้งเป้าหมายพัฒนา Soft Skill และเสริมสร้างความปลอดภัยทางใจในที่ทำงานของคุณ เพราะ Soft Skill ที่อยู่บนความปลอดภัยทางใจจะมอบอำนาจในการตัดสินใจแก่พนักงาน เมื่อพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่สามารถยอมรับได้เกิดขึ้น พวกเขาจะกล้ายืนหยัดและแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา
ไม่เช่นนั้นแล้ว คุณก็จะเผชิญความเสี่ยงที่พฤติกรรม Toxic จะถูกหล่อเลี้ยงให้แข็งแกร่งและแผ่ขยายกลายเป็นวัฒนธรรมองค์กร บีบให้พนักงานของคุณไม่รู้สึกผูกพันกับงานและองค์กร และลาออกไปในที่สุด
missiontothemoon
พัฒนาตัวเอง
ธุรกิจ
บันทึก
4
1
4
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย