11 ก.พ. 2023 เวลา 12:13 • ความคิดเห็น

อำนาจของ HIPPO คือเหตุผลที่ใหญ่ที่สุด

(อ่านบทความ “ ความรู้สึกคือเหตุผลที่ดีที่สุด” ก่อนจะได้อารมณ์มากเลยครับ)
ในวัยย่างสามสิบของผม เป็นช่วงเวลาที่ดีแทคกำลังตกต่ำอย่างหนัก ในตอนนั้นดีแทคถึงกับต้องเปลี่ยนซีอีโอใหม่เป็นซีอีโอคู่คือคุณซิกเว่ เบรกเก้ กับคุณวิชัย เบญจรงคกุล ผมถูกมอบหมายให้ดูหน่วยงานที่ทำโทรศัพท์แบบเติมเงินในแบรนด์ dprompt ที่กำลังพ่ายแพ้อย่างหนักร่วมกับทีมงานเล็กๆไม่กี่คน
ในตอนนั้นผมกับทีมก็อยู่ในวัยกำลังห้าว พยายามคิดไอเดียอะไรที่บ้าๆบอๆด้วยความคิดที่อยากจะเอาชนะและเอาตัวรอดได้ในตลาดที่แข่งอย่างดุเดือดในสมัยนั้น
ไอเดียที่ว่าคือการเปลี่ยนทั้งแบรนด์ เปลี่ยนสีที่ไม่เข้ากับสีบริษัท เปลี่ยนโปรโมชั่น เปลี่ยนมันทุกอย่างเท่าที่จะเปลี่ยนได้ ไม่ได้มีพื้นฐานหรือทฤษฏีอะไรเลย ด้วยความมุทะลุและคิดว่าลูกค้าน่าจะชอบ
ในตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าซีอีโอทั้งสองจะยอมให้ทำหรือไม่เพราะมันเสี่ยงมากและต้องใช้งบประมาณที่บริษัทก็ไม่ค่อยจะมีในตอนนั้นเปลี่ยนทุกอย่างใหม่หมด เราถึงขนาดทำห้องจำลองแบรนด์ใหม่ที่ชื่อแฮปปี้สีแดงสดใสกับโปสเตอร์จำลองโปรโมชั่น แต่ตู้โชว์ให้เห็นภาพเลยว่าหน้าตาใหม่จะเป็นยังไง
ตอนที่สองซีอีโอเดินเข้ามาดูนั้น ผมรู้เลยว่าทั้งสองตกใจ คิ้วขมวด ไม่คิดว่าทีมจะเสนอให้เปลี่ยนอะไรขนาดนั้น จำได้ว่าคนหนึ่งถามว่าเอาแบบนี้เลยเหรอ เราก็พยายามพูดจาโน้มน้าวแบบหัวชนฝา อยากจะทำมันให้ได้ ดื้อๆเถียงๆอยู่พักใหญ่ ซีอีโอทั้งสองถามอย่างใจเย็น พยายามทำความเข้าใจความคิดของพวกเรา
และขอเวลาไปปรึกษากัน พร้อมกลับมาบอกว่าให้เดินหน้าต่อได้ ทั้งสองยอมเสี่ยงกับมือใหม่หลังจากรับฟังเหตุผลต่างๆอย่างครบถ้วน มองข้ามความห้าวเป้งและดื้อดึงของพวกเราไป
1
หลังจากนั้นก็คือประวัติศาสตร์ของแบรนด์ที่ชื่อแฮปปี้และเป็นจุดเริ่มต้นของความก้าวหน้าในอาชีพการงานของผมเป็นต้นมา…
เมื่อวานผมได้ฟังน้องเฟิร์น เจ้าของบริษัทโฆษณาที่เก่งมากๆ มีลูกค้าใหญ่ๆมากมาย รวมถีงช่วยลูกค้าไทยไปทำตลาดเมืองจีนอยู่เยอะมาก ผมชอบแนะนำคนที่รู้จักให้ใช้บริการเฟิร์นเพราะเป็นคนที่เก่งและคิดนอกกรอบ สร้างความแตกต่างได้อย่างโดดเด่น
แต่ที่น่าสนใจกว่านั้นคือต้นเหตุที่ทำให้เฟิร์นต้องออกมาเปิดบริษัทเองจนได้ดิบได้ดีนั้น จุดเริ่มแทบไม่ต่างจากผมในตอนนั้น แต่ผลลัพธ์ต่างออกไปมาก
เฟิร์นเริ่มงานที่ธนาคารแห่งหนึ่งในแผนกบัตรเครดิต ในตอนนั้นธนาคารกำลังจะออกบัตรเดบิตเจาะกลุ่มวัยรุ่นที่ไม่สามารถทำบัตรเครดิตได้ เฟิร์นก็คงคล้ายๆผมที่เหมือนลูกวัวไม่กลัวเสือ ไม่รู้ว่าขนบธรรมเนียมวัตรปฏิบัติคืออะไร
คิดแต่ว่าอยากทำให้วัยรุ่นชอบบัตร เฟิร์นได้มีโอกาสไปนำเสนองานกับเจ้านายใหญ่ซึ่งน่าจะเป็นผู้บริหารระดับสูงในตอนนั้น เจ้านายนั่งอยู่หัวแถว เฟิร์นก็เอาบัตรลายการ์ตูนเคโระไปให้ดูพร้อมของแจกน่ารักคิขุและมั่นใจมากว่าจะโดนใจวัยรุ่นแน่นอน
เจ้านายใหญ่ผู้ซึ่งไม่ได้รู้จักอะไรเฟิร์น พอได้เห็นรูปกบเคโระยังไม่ทันฟังอะไรก็พิโรธ ตะคอกใส่ว่ารู้มั้ยว่าธนาคารนี้ตั้งมากี่ปีแล้ว จะเอาการ์ตูนของเล่นอะไรแบบนี้มาทำตลาดได้อย่างไร เสียชื่อธนาคารหมด
เฟิร์นผู้เป็นผู้น้อย ตำแหน่งเล็กๆก็ไม่ยอมแพ้ทั้งเถียง ทั้งยกเหตุผลในมุมลูกค้ามาสู้อย่างหัวชนฝา ทั้งห้องหน้าเหวอเพราะรู้ถึงความโหดของผู้ใหญ่หัวโต๊ะ
แต่เฟิร์นเด็กใหม่ไม่รู้ก็เถียงกันไปมาจนในที่สุดก็ไม่ได้ถูกอนุมัติ และที่หนักกว่านั้นก็คือพอกลับมาที่โต๊ะในตอนค่ำ เฟิร์นก็เจอซองขาววางอยู่บนโต๊ะ ก่อนจะช็อคหนักเพราะเป็นซองขาวที่ให้เฟิร์นออกจากงาน
ซึ่งก็คาดเดาไม่ยากว่าเพราะอะไร เฟิร์นเล่าทีหลังด้วยว่า อีกไม่นานทุกธนาคารก็ออกบัตรลายการ์ตูนกันหมดรวมถึงธนาคารของเฟิร์นนั้นด้วย และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของการเปิดบริษัทส่วนตัวของเฟิร์นจนกลายเป็นเอเจนซี่ชื่อดังในปัจจุบัน
น้องๆรุ่นใหม่มักจะเรียกผู้ใหญ่ที่นั่งหัวโต๊ะว่า HIPPO ที่ย่อมาจาก Highest Paid Person Opinion เป็นแนวประชดขำๆว่าคนหัวโต๊ะนั้นไม่ต้องสนหน้าอินทร์หน้าพรหมแต่มีอิทธิฤทธิ์จะชี้เป็นหรือชี้ตายก็ได้โดยไม่ต้องมีเหตุผลมากนักด้วยอำนาจที่มาจากตำแหน่ง
การชี้เป็นหรือชี้ตายของ HIPPO นั้นอาจจะตัดสินชะตาชีวิตของเด็กบางคน หรือความรุ่งเรืองหรือตกต่ำของบริษัทได้ด้วยฤทธิ์ที่ตัวเองมี ก่อนที่จะชี้เป็นหรือชี้ตายนั้นสิ่งที่ HIPPO ที่ดีพีงมีต่อน้องๆรุ่นใหม่คือความเมตตา การมองข้ามเรื่องที่เป็นกระพี้เช่นวิธีการพูดหรือความห้าวของเด็กๆไปบ้าง มีอุเบกขาคือความเป็นกลาง และใช้อำนาจนั้นด้วยความระมัดระวังและอยู่บนเหตุผลเป็นที่ตั้ง ซึ่งก็ไม่ง่ายนักสำหรับคนที่มีอำนาจล้นมือแบบนั้น
สำหรับผมแล้วก็ได้แต่คิดถึงความโชคดีของตัวเองที่ได้เจอ Great Hippo สองท่านนั้นที่มีเมตตาและให้โอกาส ต่อให้ในวันนั้นทั้งสองจะไม่อนุมัติไอเดียผมแต่ผมก็รู้ว่าทั้งคู่ก็จะชอบใจกับความกล้าที่จะแตกต่างและคงให้โอกาสในครั้งต่อไปอีก
ส่วนน้องเฟิร์นก็อาจจะขอบคุณ Bad Hippo เช่นกันที่โหดร้ายถึงขนาดไม่ชอบไอเดียแล้วยังให้ออกในฐานะเถียงเจ้านายอีก ทำให้เป็นแรงผลักของเฟิร์นเพื่อพิสูจน์ตัวเองจนเติบใหญ่ในวันนี้ เสียดายก็แต่องค์กรที่ควรจะได้ฟูมฟัก ให้โอกาส
สั่งสอนคนเก่งให้เติบโตขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญที่ต้องเสียบุคลากรแบบที่ไม่ควรจะเสียเพราะ Bad Hippo มานักต่อนักเช่นกัน
เวลาเราเป็นลูกน้องเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาแล้วเจอ Hippo ที่แย่ๆก็ขอให้จำไว้ว่าเมื่อใดที่เราโตไปเป็น Hippo บ้าง ก็ขอให้เป็น Hippo ที่มีเมตตา ให้โอกาสผู้น้อยที่คิดไม่เหมือนเราบ้างนะครับ…
อ่านบทความ “ ความรู้สึกคือเหตุผลที่ดีที่สุด” ได้ที่ :
โฆษณา