Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ดูหนังกับแฟน เล่นเกมคนเดียว
•
ติดตาม
12 ก.พ. 2023 เวลา 06:15 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
Midnight Mass (Netflix)
Review Part 2; การชักจูงคนผ่าน Environmental Pressure
.
หลายคนอาจเคยได้ยินเรื่องของ normative social influence จากการทดลองที่คนในลิฟต์จะทำท่าทางตามที่คนอื่นในลิฟต์นั้น (หน้าม้า) ทำก่อนหน้า เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดจากความกดดันในสังคมที่ทำให้คนๆ หนึ่งสร้างกรอบพฤติกรรมขึ้นมาตามความหมายของกาลเทศะในสังคมนั้นๆ
ในช่วงสองตอนสุดท้ายของซีซั่น ความเชื่อสุดโต่งในสภาพแวดล้อมแบบปิด (ตามที่รีวิวในพาร์ทแรก) เป็นการส่งผลให้เกิด environmental pressure ซึ่งเมื่อรวมเข้ากับเรื่องของปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นบนเกาะ ทำให้เกิดการแบ่งแยกฝ่ายผ่านความต้องการเป็นส่วนรวมของสังคม แล้วความรู้สึกที่ไม่อยากโดดเดี่ยว (isolation) ภายในตัวเอง
ส่วนตัวแล้วผู้เขียนชื่นชอบในการที่ตัวซีรี่ย์สามารถเล่าถึง Social influence ได้อย่างแนบเนียน ราวกับรู้ว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของทุกๆคน (ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ) ลองคิดดูแล้ว ศาสนาส่วนใหญ่ถ้าไม่พึ่งพาปาฏิหาริย์ในเรื่องราวที่ถูกบันทึกไว้ ทุกวันนี้จะมีคนนับถือเยอะเหมือนปัจจุบันไหม พวกเราจำเป็นต้องมีที่เปิดในจิตใจเป็นสิ่งที่อยู่เหนือกว่าตัวเราเองอย่างนั้นเหรอ
อยากจะสรุปสั้นๆว่า Midnight Mass เป็นซีรี่ย์ที่ควรค่าแก่การดู เพราะความสัมพันธ์ในแต่ละตัวละครและระหว่างตัวละครด้วยกันทำได้ดีมาก แม้จะเทียบกับมาตรฐานก็ตาม ทุกบทพูดแฝงไปด้วยความหมายระหว่างบรรทัด โดยเฉพาะเรื่องศาสนา เชื้อชาติ ความรักแบบไม่มีเงื่อนไข หรือการจมอยู่กับความเชื่อของตัวเอง
ดูผ่านๆ แล้วอาจจะเป็นซีรี่ย์ที่เน้นเล่าเรื่องเฉพาะในมุมมองทางตะวันตก แต่จริงๆแล้วเนื้อแท้นั้นเป็นมีความเป็นสากลอย่างชัดเจน ความต้องการการไถ่บาปมีอยู่ในตัวทุกคน เพราะทุกคนมีบาปเป็นของตัวเอง การเสียชีวิตของตัวละครหลายตัวในเรื่องส่วนใหญ่ ถ้าสังเกตดีๆ มักจะมาจากการเสียสละเพื่อหลุดพ้นจากบาปของตัวเองที่เคยก่อไว้ ราวกับว่าทำให้จากไปแบบตาหลับ
วิธีการเล่าเรื่องแบบตอนต่อตอนที่มีการสลับเวลาไปมา มีทั้งข้อดีและข้อเสีย บางทีสำหรับคนที่ดูภาพยนตร์มาเยอะ หลายครั้งสามารถเดาได้เลยว่าก่อนหน้านั้นเกิดอะไรขึ้น แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรมันอาจจะตีเป็นข้อเสียไม่ได้ เพราะก็นึกวิธีการตัดต่อที่ต่างจากนี้แต่ทำให้ดีกว่าเดิมไม่ได้เหมือนกัน
อย่างสุดท้าย ถึงแม้ตลอดทั้งตัวซีรี่ย์จะมีการตัดสลับของ phasing ค่อนข้างสูง แต่การนำเสนอในด้านอารมณ์นั้นโดยรวมแล้วถือว่าคงที่มากๆ โดยเป็นการที่สามารถคงไว้ซึ่ง theme หลักได้อย่างน่าประทับใจ
#moviecouple
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย