#ประวัติก๋วยเตี๋ยว
ชามบะหมี่อายุ 4,000 ปีที่ขุดพบในประเทศจีน เป็นตัวอย่างแรกสุดที่เคยพบในอาหารยอดนิยมชนิดหนึ่งของโลก นักวิทยาศาสตร์นำแหล่งที่มาของอาหารหลักในเอเชีย ไม่ใช่อิตาลี
มาศึกษาบะหมี่สีเหลืองเส้นยาวที่เก็บรักษาไว้อย่างสวยงามที่พบ พบในชามปิดผนึกที่วางคว่ำไว้ในแหล่งโบราณคดี Lajia ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ชามถูกฝังอยู่ใต้ตะกอนสิบฟุต (สามเมตร)
“นี่เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ของบะหมี่ที่พบได้เร็วที่สุดเท่าที่เคยพบมา” Houyuan Lu จากสถาบันธรณีวิทยาและธรณีฟิสิกส์แห่งChinese Academy of Sciences ในกรุงปักกิ่ง กล่าวในการสัมภาษณ์ทางอีเมล
เมล
บะหมี่จีนมีต้นกำเนิดในราชวงศ์ฮั่น ในเวลานั้นบะหมี่เรียกรวมกันว่าเค้ก (饼) เมื่อนำบะหมี่ไปปรุงในน้ำซุป จึงเรียกว่าซุปเค้ก (汤饼) มีรูปทรงต่าง ๆ ของเส้นก๋วยเตี๋ยว เช่น แผ่นและแถบ บะหมี่เป็นแผ่นปรุงโดยการดึงแป้งเป็นแผ่นแล้วต้มในหม้อด้วยน้ำเดือด ในสมัยราชวงศ์เว่ย (魏) ราชวงศ์จิน (晋) และราชวงศ์เหนือและใต้ (南北朝) รูปร่างของบะหมี่ก็ค่อย ๆ ใหญ่ขึ้น
บะหมี่พิเศษสองชนิดที่เรียกว่า shui yin (水引) และ bo tuo (馎饦) ถูกรวมอยู่ในหนังสือ Qi Min Yao Shu (齐民要术) ในยุคกลางโบราณด้วย
สุ่ยหยินปรุงโดยดึงแป้งเป็นเส้นหนาเท่าตะเกียบ ตัดเป็นท่อน ๆ ยาว 30 ซม. แช่ในจานน้ำ แล้วกดเป็นเส้นแบน ๆ คล้ายใบกุยช่าย ปรุงในหม้อที่มีน้ำเดือด Bo tuo นั้นจึงเนียนและอร่อยเป็นพิเศษ ในสมัยราชวงศ์สุย ราชวงศ์ถัง และราชวงศ์ที่ 5 บะหมี่มีความหลากหลายประเภทมากขึ้น ด้วยการเพิ่มขึ้นของประเภทเส้นก๋วยเตี๋ยว
เส้นที่หากหลาย
หลังจากนั้นวิธีการและเทคนิคในการปรุงก็ได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง รวมถึงบะหมี่เย็นชนิดหนึ่งที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์เรียกว่า เล้งเต้า(冷淘) ซึ่งได้รับการชื่นชมจากกวีผู้ยิ่งใหญ่ Du Fu (杜甫) โดยเขาบรรยายไว้ว่า "เย็นราวกับหิมะเมื่อร่อนผ่านฟัน (经齿冷于雪)" มีบะหมี่อีกชนิดหนึ่งที่มีความเหนียวแน่นที่เรียกว่า "หนึ่งในเจ็ดอาหารเพื่อสุขภาพที่ยอดเยี่ยม"
ซึ่งมีคำกล่าวว่า "บะหมี่เปียกใช้ผูกรองเท้าได้" ในสมัยราชวงศ์ซ่ง (宋) และหยวน (元) บะหมี่แห้งอย่างดี (挂面) เช่นบะหมี่ดิบหมู แกะ (猪羊庵生面) และบะหมี่ดิบผัก (素面) ขายในเมือง Linan (临安) สมัยซ่งใต้ (南宋) จนถึงราชวงศ์หมิง (明) และชิง (清) จากนั้นบะหมี่ก็มีหลากหลายมากขึ้น ในสมัยราชวงศ์ชิงบะหมี่รสเผ็ด
อย่าง (五香面) และบะหมี่ 8 สมบัติ อย่าง(八珍面) รวมอยู่ใน Xian Qing Ou Ji (闲情偶寄) โดยนักเขียนบทละคร Li Yu (李渔) ซึ่งบะหมี่ทั้งสองชนิดนี้ทำจากเนื้อสัตว์และพืช 5 - 8 ชนิดตามลำดับและผสมเป็นแป้งซึ่งถือเป็นบะหมี่ชั้นยอดลงไป จนได้บะหมี่แสนอร่อยสืบทอดกันมา
“เมื่อเริ่มแล้วย่อมต้องเจออุปสรรคก่อนจะพบเป้าหมายเสมอ”
ติดตามเรื่องเล่าจากดาวนี้เพิ่มเติมได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/fromthisstar
Blockdit : https://www.blockdit.com/fromthisstar
Instagram : https://www.instagram.com/fromthisstar/
TikTok: https://vt.tiktok.com/ZSJSpnyCT/
หากชื่นชอบก็อย่าลืมกด Like กด Share เพื่อเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ สามารถแชร์แนวคิด มุมมองดีๆได้ใน Comments นี้เลย
#เรื่องเล่าจากดาวนี้
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
