13 ก.พ. 2023 เวลา 12:00 • หนังสือ

วิทยาศาสตร์ของ “รักแรกพบ”

‌(วิทยาศาสตร์ของการตกหลุมรัก ตอนที่ 1)
อยู่ในเดือนแห่งความรัก เลยขอนำเสนอ เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับความรักกันต่อนะครับ
(หมายเหตุ : เนื้อหาย่อและเรียบเรียงมาจากบางส่วนของบทที่ 15 หนังสือ “500 ล้านปีของความรักเล่ม1” และหนังสือ “เรื่องเล่าจากร่างกาย” แต่ย่อแล้วก็ยังยาวหน่อยนะครับ )
เคยสงสัยไหมครับ ทำไมถึงเป็นเขา? ทำไมถึงเป็นฉัน ?
1
อะไรดลใจให้คนแปลกหน้าสองคนมารักกัน ไว้ใจกัน ทั้งๆ ที่รู้จักกันได้ไม่นาน ?
1
‌14 กุมภาพันธ์ กรุงเทพฯ
‌ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออก ก้อยก็รีบก้าวเท้าเข้าไปอย่างรวดเร็ว วันนี้เป็นวันเริ่มงานวันแรกของเธอ ก้อยไม่อยากได้ชื่อว่ามาสายตั้งแต่วันแรก ภายในลิฟต์มีชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ก่อนหน้า ก้อยรู้สึกได้ว่าชายคนนั้นแอบมองเธอตลอดเวลาที่ลิฟต์กำลังเคลื่อนตัว
‌แต่ความกังวลว่าจะไปสายทำให้เธอไม่มีอารมณ์ไปสนใจเขามากนัก
‌22 กุมภาพันธ์
“ฉันว่าพี่ทศเขาต้องชอบเธออยู่แน่ๆ เลย”
‌ก้อยไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เพื่อนๆ พูดจะเป็นความจริงหรือไม่ แต่เธอก็สังเกตอยู่เหมือนกันว่าพี่ทศแอบมองมาที่เธอบ่อยครั้ง บางคราวเมื่อสบตากันพอดีพี่เขาก็คอยส่งยิ้มให้
‌เธอมารู้ภายหลังว่าชายหนุ่มที่เธอขึ้นลิฟต์มาด้วยในวันแรกที่เริ่มงานชื่อ ทศ หนุ่มโสดหน้าตาดี วัย 30 ต้นๆ สุภาพ หน้าตาสะอาดสะอ้าน ออกตี๋หน่อยๆ หน้าที่การงานดี พี่ทศจึงเป็นหนุ่มในฝันของสาวๆ หลายคนในบริษัท
‌ก้อยเองก็เป็นปลื้มพี่เขาอยู่เงียบๆ เช่นกัน
‌2 มีนาคม
“งานยังไม่เสร็จหรือครับ มีอะไรให้ผมช่วยไหม ?” คือครั้งแรกที่เขาพูดคุยกับก้อยอย่างจริงจังหลังจากแอบส่งยิ้มมาระยะหนึ่ง
1
‌ด้วยบทสนทนาสั้นๆ นี้เองความรู้สึกบางอย่างก็ก่อตัวขึ้นเงียบๆ ทั้งคู่สบตา และส่งยิ้มให้กันบ่อยครั้งขึ้น และทุกครั้งน้องก้อยจะสังเกตว่ารอยยิ้มของพี่ทศสามารถทำให้รู้สึกอบอุ่นภายในอก หรือหวิวๆ ในท้องได้อย่างน่าประหลาด
2
แม้ว่าทั้งคู่จะไม่ได้คุยกันบ่อยนัก แต่ความรู้สึกบางอย่างที่มีต่อกันก็ก่อตัวขึ้นช้าๆ
‌สิ่งนี้จะใช่ความรักหรือเปล่านะ?
‌6 มีนาคม
“น้องก้อยครับ...ข้างๆ บริษัทมีร้านอาหารเปิดใหม่ เย็นนี้เลิกงานแล้วทานข้าวกับผมได้ไหมครับ ?” คือครั้งแรกที่เขาชวนเธอไปทานอาหารด้วยกันสองต่อสอง แม้ว่าอาหารค่ำวันนั้นไม่อร่อยเอาเสียเลย แต่สำหรับทั้งคู่แล้ว มื้อค่ำวันนั้นเป็นมื้ออาหารที่น่าจดจำ เป็นค่ำคืนแห่งความสุข
1
‌แต่ทั้งทศและก้อย ไม่รู้เลยว่าเบื้องหล้งของความสุขของพวกเขานั้น มีกลไกดึกดำบรรพ์บางอย่างทำงานเงียบๆ อยู่เบื้องหลัง .....
4
ในธรรมชาติ สิ่งมีชีวิตที่สืบพันธุ์ด้วยการใช้เพศทั้งหลาย จะมีการเลือกคู่ที่จะผสมพันธุ์ด้วย
2
แม้แต่สิ่งมีชีวิตที่เรียบง่ายสุด ก็ยังช่างเลือก ไม่ใช่ว่าใครจะผสมพันธุ์กับใครก็ได้
‌โดยเฉพาะในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์เลื้อยคลาน สัตว์ตระกูลนกทั้งหลาย จะมีการเลือกคู่ผสมพันธุ์ที่ซับซ้อน ที่เรียกว่าการจีบ (หรือ courtship ในสัตว์อื่นๆ) ซึ่งส่วนใหญ่ตัวผู้จะเป็นฝ่ายจีบ (ถ้าสนใจอยากรู้ว่าทำไมตัวผู้มักต้องเป็นฝ่ายจีบ คอมเมนต์บอกไว้ได้นะครับ จะได้เล่าให้ฟังในโอกาสหน้า)
2
‌พฤติกรรมในการเลือกคู่ หรือการจีบที่วิวัฒนาการมาในสัตว์ จะเป็นเหมือนเครื่องมือให้ตัวเมียได้ตรวจสอบก่อนว่า ตัวผู้เป็นคู่ผสมพันธุ์ที่เหมาะสมหรือไม่ ถ้าเหมาะสม ตัวเมียจึงจะยินยอมให้ผสมพันธุ์ด้วยอย่างเต็มใจ
4
‌ด้วยเหตุผลนี้ การจีบสำหรับตัวผู้จึงเหมือนเป็นการโชว์ โอ้อวด เพื่อให้ตัวเมียเห็นว่ามีดีจริงๆ หรือไม่ ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว การโอ้อวดของฝ่ายตัวผู้จะเน้นการอวด 2 สิ่งด้วยกันคือ
‌หนึ่ง อวดสุขภาพ และ
สอง อวดสมบัติ หรือทรัพยากรที่มี
‌วิธีการที่ตัวผู้จะแสดงให้เห็นว่าสุขภาพหรือพันธุกรรมของตัวเองแข็งแรงแค่ไหน มีด้วยกันหลายวิธีแตกต่างกันไปในแต่ละสปีชีส์
‌เกิดเป็นอึ่งอ่างตัวผู้ ก็ต้องโชว์ความแข็งแรงด้วยการแข่งกันร้อง “อึ่ง อ่าง” ให้ได้นานที่สุด ใครกล้ามเนื้อแข็งแรง ร้องได้อึดทนนาน ตัวเมียจะชอบ
4
‌เกิดเป็นนกตัวผู้ ถ้าไม่ร้องเพลงเพราะก็ต้องเต้นเก่ง ใครเสียงหวานกว่า ลีลาเต้นพลิ้วไหวกว่า (ร่างกายแข็งแรง) โอกาสผสมพันธุ์กับตัวเมียก็สูง
2
‌กระต่ายป่าตัวเมียจะวิ่งไล่ตัวผู้เพื่อเป็นการเลือกคู่ ตัวผู้ที่หนีได้เร็ว (ร่างกายแข็งแรง) ตัวเมียจะชอบ
3
‌แมลงวันตัวเมียจะหันหัวชนกับหัวตัวผู้และขยับไปมาซ้ายขวาอย่างรวดเร็ว ตัวผู้จะต้องขยับตาม ตัวผู้ที่ตามจังหวะของตัวเมียได้รวดเร็ว (ปฎิกริยาโต้ตอบไว ร่างกายดี) ตัวเมียจะชอบ
6
‌การจีบในมนุษย์ แม้ว่าจะมีความซับซ้อนกว่าสัตว์อื่น แต่เราก็พอจะเห็นรากของการจีบในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่นๆ ได้ เช่น เมื่อมนุษย์ผู้ชายอยู่ต่อหน้าผู้หญิงที่ตัวเองชอบ ก็อยากจะโชว์ให้เห็นถึงสุขภาพที่ดี ไม่ว่าจะเป็นการทำร่างกายให้ดูแข็งแรง อกผายไหล่ผึ่ง ดูมีพลัง
7
‌การเต้นรำก็เป็นหนึ่งในเลือกคู่ของหลายๆ วัฒนธรรมทั่วโลก โดยท่าเต้นของผู้ชายส่วนใหญ่จะเน้นให้เห็นถึงความแข็งแรง กระชับกระเชง ว่องไว ดูมีพลัง ท่าเต้นของผู้หญิงมีแนวโน้มจะโชว์ให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้ง (ส่ายเอว ส่ายสะโพก) เห็นความอ่อนช้อยของร่างกาย (บ่งว่าอยู่ในวัยสาว หรือวัยเจริญพันธุ์)
1
แต่สุขภาพที่แข็งแรงหรือพันธุกรรมที่ดี เป็นแค่ปัจจัยหนึ่งเท่านั้น ส่วนรายละเอียดจะเป็นยังไงเราไปคุยกันต่อในตอนหน้าครับ
1
🧠 อยากเข้าใจวิทยาศาสตร์ของความรัก แนะนำอ่านหนังสือ Bestseller “500 ล้านปีของความรัก เล่ม 1-2” และ “เรื่องเล่าจากร่างกาย”
1
💝 โปรโมชันเดือนแห่งความรัก หนังสือ “500 ล้านปีของความรัก” ลด 10%
500 ล้านปีฯ เล่ม 1 : https://bit.ly/3HkIvVF
500 ล้านปีฯ เล่ม 2 : https://bit.ly/3jbnvsK
Boxset รวมเล่ม 1-2 : https://bit.ly/3DMKQIn
3
หรือกดสั่งซื้อได้เลยทั้ง 3 ช่องทาง
💚 Line My Shop : https://bit.ly/3FBx0bx
โฆษณา