Blockdit Logo (Mobile)
Supawan’s Colorful World
•
12 ก.พ. 2023 เวลา 12:58 • ท่องเที่ยว

ทมิฬนาดู (14) … Shore Temple เทวาลัยชายหาด

เทวาลัยชายหาด แห่งมามัลละปุรัม (Shore Temple of Mamallapuram ) .. หรือ ตามชื่อในศิลาจารึกว่า "ราชสิงห์เหศวร" เป็นเทวาลัยที่สร้างติดชายทะเล บนชายหาดฝั่งโคโรแมนเดล อ่าวเบงกอล .. ตั้งโดดเด่น สง่างามจากการที่มีทิวทัศน์ของทะเลที่ไร้ขอบเขตเป็นฉากล้อมรอบด้านหนึ่ง
หากย้อนไปในศตวรรษที่ 7 .. เทวาลัยแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นเทวาลัยที่เก่าแก่ที่สุด เป็นเป็นตัวแทนของงานออกแบบเทวาลัยโบราณที่สวยงาม ในแง่ของศิลปะการตัดแต่งสลักหิน และงานสถาปัตยกรรม เมืองนี้ได้ชื่อมาจากกษัตริย์ Narasimha Varma I ซึ่งงพระองค์ได้ชื่อว่า Mammalla หรือนักมวยปล้ำ ดังนั้นจึงเป็นที่มาของชื่อเมือง Mamallapuram
การก่อสร้างเทวาลัยมีขึ้นในรัชสมัยของ กษัตริย์ Rajasimha/Narasimhavarman II, แห่งราชวงศ์ปาลลวะ เพื่อเป็นแลนด์มาร์กที่สำคัญของเมือง ในสมัยโบราณที่มีการค้าขายทางเรือ และนับว่าเป็นเทวาลัยเก่าแก่ที่มีความสำคัญในเขตอินเดียใต้
เนื่องจากเทวาลัยตั้งอยู่ติดกับชายฝั่ง .. ในสมัยโบราณคนที่เดินเรือเมื่อมองเข้ามา จะเห็นเทวาลัยเป็นเหมือนเจดีย์ และเป็นหมุดหมายที่สำคัญที่ช่วยในการบอกทิศทางในการเดินเรือ
เชื่อกันว่า .. เทวาลัยที่เราเห็นในวันนี้ เป็นเพียงส่วนเล็กๆส่วนหนึ่งขอบหมู่เทวาลัยที่เคยมีเมื่อครั้งแรกสร้าง มีเทวาลัยส่วนหนึ่งที่สูญหายไปตามแนวชายฝั่งที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาของอินเดียใต้
ในเดือนธันวาคม 2004 เกิดเหตุการณ์สึนามิถล่มชายฝั่งของโคโรเมลเดล ทำให้เทวาลัยพังพาบลงมาแม้จะสร้างด้วยหินแกรนิต .. มีการคาดเดาว่า มหามัลลิปุรัม เป็นส่วนหนึ่งของเจดีย์ 7 องค์ที่มีการกล่าวถึงในสมุดบันทึกของชาวยุโรป
เชื่อกันว่า .. 6 ใน 7 เจดีย์นั้นถล่มลง และฝังร่างอยู่ใต้ทะเล .. เหตุการณ์สึนามิยังทำให้รูปประติมากรรมช้าง สิงโต และนกยูง ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของกำแพงที่สวยงามในสมัยปัลลวะจมอยู่ในทะเลด้วย
สถาปัตยกรรมของเทวาลัยชายหาด แห่งมามัลละปุรัม
เทวาลัยแห่งนี้นับเป็นเทวาลัยแรกที่สร้างขึ้นในอินเดียใต้ ที่ใช้หินในการก่อสร้างในสมัยปัลลวะ .. มีการตัดหินเป็นก้อนๆมาสร้างเป็นเทวาลัย 5 ชั้น สูง 60 ฟุต ฐานยาว 50 ฟุต ซึ่งต่างจากเทวาลัยรุ่นก่อนๆ
การออกแบบเทวาลัย ได้กำหนดให้สามารถรับแสงแรกของพระอาทิตย์ และส่งแสงสุดท้ายลงสู่สายน้ำ
เทวาลัยเก่าแก่แห่งนี้ยืนยงอย่างแข็งแกร่งมาได้นานกว่าพันปี .. เพราะเป็นเทวาลัยที่มีฐานรากที่ตัดแต่งจากโขดหินธรรมชาติ ที่ไม่ผุกร่อนลงมากเมื่อเวลาผ่านไป ส่วนตัวเทวาลัยก่อด้วยหินที่สกัดเป็นก้อน เรียงซ้อนกันขึ้นไป แม้จะไม่สูงมาก แต่ก็ดูสง่างาม
.. สันนิษฐานว่า .. เทวาลัยดั้งเดิม น่าจะเป็นเทวาลัยของพระนารายณ์ ปางบรรทมสินธุ์ แต่ต่อมาได้มีการสร้างเทวาลัยพระศิวะเสริมเข้ามา จึงทำให้เทวาลัยชายหาดมีสองยอดลดหลั่นกัน .. อันหนึ่งอุทิศให้กับพระศิวะ ส่วนอีกแห่งหนึ่งอุทิศให้กับพระวิษณุ
อาณาเขตของเทวาลัยทั้งหมดมีกำแพงชั้นใน ก่อโดยรอบ โดยมีประติมากรรมรูปวัวนั่งหมอบมากมายอยู่บนสันกำแพง .. โค สื่อถึงการสร้างสรรค์ เช่นเดียวกับความหมายของศิวลึงค์
.. ถัดออกมาจากชั้นนี้ จะมีกำแพงหินอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งกล่าวว่าเป็นการสร้างเพิ่มเติมเข้ามาทีหลังเมื่อไม่นานมานี้ เพื่อป้องกันการสึกกร่อน .. ระหว่างกำแพงจะทำเป็นทางเดิน เหมือนเราเดินอยู่ในป้อมค่าย เชิงเทิน โดยที่ผนังบางส่วนของกำแพงจะมีภาพสลักหิน แสดงเรื่องราวในปกรณัมอินเดียต่างๆ
เราเดินมาที่ด้านหน้าของเทวาลัย .. ในปี 1990 มีการขุดพบบ่อน้ำผังกลม ด้านทิศเหนือข้างเทวาลัย
ตรงกลางมีเทวาลัยหลังเล็กๆ
ประดิษฐานรูปพระนารายณ์และพระลักษมี
.. มีรูปสลักหมูก้มหน้ายืนอยู่ด้านหนึ่ง ถัดจากเทวาลัยไปทางเทวาลัยประธาน .. ภาพสลักรูปหมูนี้ หมายถึง "วราหาวตาร" หรือพระนารายณ์ปางอวตารเป็นหมูป่า
ตามปกรณัมโบราณ กล่าวว่า .. พระนารายณ์ได้อวตารเป็นหมูป่า เพื่อขุดดุนแผ่นดินโลกขึ้นจากที่อสูรนำไปซ่อนไว้ใต้บาดาล
.. เชื่อกันว่าบ่อน้ำนี้ ในอดีตมีน้ำทะเลไหลเข้ามาตามเวลาน้ำขึ้นน้ำลง .. ดังนั้น รูปสลักวราหาวตารก็จะกลับ "มีชีวิต" กอบกู้แผ่นดินขึ้นจากมหาสมุทรอยู่เช่นนั้นทุกวัน เป็นการสร้างความหมายทางสัญลักษณ์ที่สมบูรณ์ให้แก่เทพปกรณัมและงานศิลปะที่น่าทึ่งมาก
การเดินชมเป็นวิ่งที่น่าทึ่งตลอดเวลา เหมือนเรากำลังค้นพบก้องแห่งความลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในทุกก้าวที่เดินไปในรายทาง
เราเดินเวียนซ้าย .. เจอรูป วัวหินสลักในริมทางเดิน
เทวาลัยชายหาด แห่งมามัลละปุรัม .. มีรูปแบบสถาปัตยกรรมบางส่วนคล้ายกับเทวาลัยไกลาสนาถ แห่งกญจีปุรัม (ในความเห็นของฉัน)
ด้วยลักษณะที่มี วยาล ยืนสองขาตังตั้งตรงอยู่ตามมุมของอาคาร
บนผนังแบ่งเป็นช่องๆ ซึ่งเดิมน่าจะมีรูปสลักของเทพเจ้า
นักวิชาการเชื่อกันว่า รูปแบบเทวาลัยอินเดียใต้ยุคพันกว่าปีก่อนเช่นที่มามัลละปุรัมนี้ ได้กลายมาเป็นต้นแบบของศาสนสถานยุคแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เทวาลัยที่มีศิวะลึงค์อยู่ด้านใน ..
ลวดลายบนผนังของเทวาลัย .. ลวดลายหินสลักเลือนรางไปบ้างจากอิทธิพลของน้ำ ลม และฝุ่นทราย แต่ยังคงความงาม และให้ความรูฌสึกว่าเป็นสถานที่ศักด์สิทธิ์
ประติมากรรมเกือบลอยตัว เล่าเรื่อง “มหิงษาอสูร – มรรทินี” (Mahishasura Mardini)
… ภาพสลักขนาดเล็กมากด้านในห้องเล็กๆเหมือนห้องจิ๋ว ตรงช่วงท้องของสิงห์โต ไม่ได้ดูว่าเป็นรูปอะไร
เราเดินมาด้านข้างของเทวาลัยประธาน .. ส่วนนี้ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าไป เนื่องจากสภาพของเทวาลัยที่โฮกาสที่จะก่อให้เกิดอันตรายขึ้นได้
.. เชื่อว่า ประติมากรรมพระวิษณุปางบรรทมศิลป์ ประดิษฐานอยู่ด้านในห้องครรภ์คฤหัสถ์ .. มองเข้าไปยังคงเห็นมุมของเทวาลัยมีรูป วยาล และผนังมีรูปสลักของเทพเจ้า
ถัดมาเป็นมณฑปที่มีภาพสลักของพระศิวะ พระนางแาราวตี อละพระโอรส อยู่ด้านใน
ภาพสลักขอบองค์เทพ และพระเทวี
เราเดินผ่านซอกกำแพงลงมาชั้นล่าง .. ผ่านภาพสลักบนกำแพง
เราเดินผ่านทวารบาลออกมา .. มีสิ่งนี้ในลาน ไม่รู้ความสำคัญและความเกี่ยวข้องกับเทวาลัย
ก่อนออกมา ฉันหันกลับไปมองทวาลบาลทั้ง 2 อีกครั้ง .. เทวาลัยที่มีเทวาลัยประธาน เป็นพระนารายณ์บรรทมสินธุ์ .. แล้วพระพรหม และพระวิษณุ ทำไมมาอยู่ในตำแหน่งนี้??
โฆษณา