14 ก.พ. 2023 เวลา 06:03 • ความคิดเห็น
เจ้านาย ความหมายและความสำคัญของคำว่า" เจ้านาย" ของคำถามคืออย่างไรครับ?
ประธานบริษัท ประธานขององค์กร มีอำนาจเต็ม "ปากกา เขาคืออนุมติเป็นตาย
รุ่งร่วง? อันนี้คิดดีๆครับ อยู่แบบไหน รับมือแบบไหนให้เขาไม่รักก็ไม่เกลียดจะดีที่สุด ถ้าเราภูมิใจกับงาน อาชีพที่เราขายความสามารถอยู่ องค์กรไม่มีชีวิตมั่นคง
เราใฝ่ฝันจะมาอยู่ อย่างดีก็ 4 ปี work Permit expiredก็กลับลุ้นประธานPresidentใหม่...รับมือแบบต้องอยู่ให้ได้ต้องไม่ตายต้องยืนหยัดอยู่รอด
อ่านหนังสือ How to Manage Boss 100 เล่ม ,Harvard อีก 100 เล่ม พอ.
หรือ เจ้านาย MD Managing Director เป็นผู้มีอำนาจที่มีประธานมอบหมายอันนี้ก็แรงระดับ 2 ที่ต้องจัดการBoss ให้อยูให้ได้ แสดงความสามรถตามที่เขาอยากให้ทำให้บรรลุเป้าหมาย พิสูจน์ด้วยฝีมือ เป็นรูปธรรม มีตัวชี้วัดกราฟรายงาน Report
มีHorenso ตลอดผลงาน ความคืบหน้า เน้นว่าต้องรู้ว่านายคนนี้ ชอบไม่ชอบอะไร
สไตล์การทำงานเป็นแบบไหน
ถ้าแบบเจ้าอยากกินข้าว หิวข้าวเสริฟ ก๋วยเตี๋ยว ,
อยากกินSteak เสริฟ ส้มตำ, ไม่ชอบทุเรียน หิ้วทุเรียนสุกกรุ่นมาฝาก วางบนโต๊ะเสียด้วย ,,,,,อันนี้พิจารณาตัวเลยว่าได้แต้ม ได้รัก หรือได้เกลียด...ถึงชังเลย
รู้เขารู้เรารบชนะ พันหนเลยเอ้า!
ไม่เครียดครับ เราก็จะหนึ่งในตองอู ไม่รู้ก็ศึกษาไม่เป็นก็ซุ้มเรียนลักจำทำตามแบให้ชำนาญ พี่น้องเพื่อนร่วมงาน พันธมิตร สร้างคู่ขนาน ไม่ใช่นั่งเป็นหุ่นมัวๆเบลอๆ
ไม่มีเอกลักษณ์จับตาจับใจชัดเจน อันนี้ก็อันตราย อาจไปก่อนจัดการเจ้านาย
ฝีมือควมยอมรับในพันธมิตรงานฝ่ายต่างๆจะเป็นเกาะกำบังเป็นพลังค้ำจุนส่งเสริม
ไม่ใช่วันๆไม่เคยคุยกับใครไม่สร้างมิตรไม่พูดไม่จาหน้าตาคล้ำเครียด อันนี้ก็อาจจะโดนพันธศัตรูเสียบกับเจ้านายตายคาองค์กร
ไม่มีเป้าหมาย สร้างเป้าหมายสร้างStandardize of my workขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นว่าเรานวตกรรมจากไม่มีก็มีมีประสิทธิภาพ ...เอาชนะสายตาเจ้านายให้มองเห็นงานเราตลอดเวลาในทางProgressiveเสมอ
****นายแบบนี้มีนายเบื้องบน เวลาจะตัดสินใจต้องรายงานนายใหญ๋
จึงต้องเอาผลงานค้ำจุนตัวเราให้เข้มแข็ง****
เอ้า! ถ้าที่กล่าวมาไม่ใช่ เจ้านายแบบมีระบบมาตรฐาน เป็นเจ้านายเถ้าแก่เจ้าของบริษัทฯ เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง "ตู"ใหญ่ที่สุดเล็กกว่าอาซ้อใหญ่นิดเดียว อย่างนี้ ก็ปลายปากก็มีผลแล้ว ไม่ต้องปลายปากกา ทันที ให้ออก ไล่ออก กดดันแบบไร้ซึ่งเหตุผลได้ทุกรูปแบบก็จะเอาอย่างนี้อ่ะ
อันนี้ก็อัตรายมากอีกแบบหนึ่ง เราจะมีเจ้านายมากมายพร้อมกันไม่รู้ใครต่อใครใหญ่กันหมด อาม่า อาเฮีย อาซ้อเล็ก ใหญ่กลางจิ๋ว อากง โอย..ระบบ Famaily
บริหารอย่างระบบครอบครัว เราต้องเป็นคนที่มีมนุษยสัมพันธ์พริ้วไหว แก้ปัญหาเฉพาะหน้า อดทนอดกลั้นมากมาย แต่ถ้าปะเป็นคนทำงานที่ได้เครดิตจากเจ้าของ
เบื้องบนก็เสมือนมีเจ้านายคุ้มตัว อย่าเล่นการเมืองเลยเหนื่อย อยู่แบบให้เขารักทุกคนสบายเจยเลย
ยังไงก็ต้องเป็นคนแบ[SuperManทำงานได้ทุกอย่างทั้งองค์กรรู้หมดก็อยู่ง่ายโตไว เลือเอานะครับกับบรรยากาศของเจ้านายแต่ละแบบ
การที่จะรับมือกับเจ้านายแบบต่างๆ สาระสำคัญหลัก ต้องรับคมความรู้ ความสามารถความชำนาญของเราให้มั่นคงก่อนรับงานรับมอบหมายงาน ก่อนเลือกเข้าไปในองค์กรห้างร้านนั้นๆ เราก็จะไม่ งง มึน เครียด สมองแตกไปเสียกับมากมายหลายสไตล์
และในสุดท้ายถ้าเป็นปัญหาที่เขา ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรม นิสัย จริยธรรมการบริหารงานที่เกินกว่ามนุษย์บริหารเขาทำกัน แบบลบๆ แบบทำให้เราอึดอัดไม่สมารถรับได้ก็ไม่ต้องเสียเวลาไปเล่ขายความรู้ความสามารถเราหรอกครับ
ในทำนองเดียวกันองค์กรที่เราว่ามั่นคงในฝันในจินตนาการแล้วแต่ไม่เห็นคุณค่าของเราทั้งๆที่เราทุ่มเทแรงกายแรงใจความสามารถอย่างเต็มที่แล้วก็ไม่ต้องทนเช่นกันครับ ถ้าเรามั่นใจว่าเราคือ Talent Man Talent Woman มีองค์กรที่เขาชื่นชมคนเก่ง
ให้เราเดินตาม CareerPath อย่างชัดเจน อย่างก้าวหน้า
ให้เราอย่างมีความสุข ชีวิตก็จะสนุกกับการทำงานดีกว่าที่ผ่านมาครับ
ถามตัวเองก่อนลุยก่อนตัดสินใจ " เรามีดีอะไร เราเก่งชำนาญอะไร แล้วเราจะมอบความสามารถที่ดีที่สุดของเราให้องค์ให้บรรลุเป้าหมายอย่างไร และเรามีทัศนคติต่องานต่อคนต่อเป้าหมายของงานอย่างไร? ถ้าตอบนายใหม่ เจ้านายใหม่
 
ทุกองค์กรได้เป็นรูปธรรม เงินเดือน ค่างาน ผลประโยชน์ ตำแหน่งงาน
อนาคตก็อยู่ที่นั่นแหละครับ ใครจะโง่ไม่รับคนอย่างคุณ"
คิดใหม่ ไม่รับมือ พร้อมรับมือ ด้วยฝีมือ ไม่จัดการนาย บริหารเจ้านายผู้มีอำนาจให้คุณให้โทษ จัดการตัวเอง ปรับตัวเอง พัฒนาตัวเองให้อยู่กับบริบทขององค์กรในฝันของคุณให้ได้ คุณก็จะชนะอย่างมั่นคง
ยาวไปหน่อยขอโทษนะครับ ตรงคำถามไม๊เนี่ย
โฆษณา