Abusive Relationship
abuse (v.) แปลว่า ทำร้าย
ส่วน abusive (adj.) เมื่อมาอยู่หน้าคำว่าอะไรก็จะหมายถึงเต็มไปด้วยการทำร้าย และ relationship แปลว่าความสัมพันธ์
Abusive Relationship จึงหมายถึง ความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยการทำร้าย ซึ่งอาจจะเป็นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำร้าย หรือต่างฝ่ายต่างทำร้ายกันและกัน เป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ดีต่อสุขภาวะ (unhealthy relationship)
.
ตัวอย่างของความสัมพันธ์แบบ Abusive Relationship เช่น
- การทำร้ายร่างกายของอีกฝ่าย มีการทำให้เกิดการบาดเจ็บทางร่างกาย ทารุณกรรม จัดเป็นการทำร้ายทางร่างกาย (physical abuse)
- การใช้คำพูดที่ฟังแล้วรู้สึกเจ็บปวดใจ จัดเป็นการทำร้ายด้วยวาจา (verbal abuse) หรือการทำร้ายจิตใจ (psychological abuse)
- การข่มขู่ คุกคาม ปั่นหัว สร้างสถานการณ์ หลอกลวง จงใจที่จะนอกใจครั้งแล้วครั้งเล่า ถือเป็นการทำร้ายทางจิตใจ (psychological abuse)
- การทำร้ายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเพศ เช่น การข่มขืน การทารุณกรรมทางเพศ การทำให้อีกฝ่ายเจ็บปวดขณะมีเพศสัมพันธ์ การถ่ายคลิปเนื้อตัวร่างกายหรือการมีเพศสัมพันธ์ไปประจาน เรียกว่า sexual abuse
.
ลักษณะของ Abusive Relationship จะมีเรื่องของ "อำนาจ" เข้ามาเกี่ยวข้อง และประกอบไปด้วยการข่มขู่คุกคาม การทำร้ายในรูปแบบต่างๆ ซึ่งคนที่เป็นฝ่ายทำร้าย (abuser) มักจะมีชุดความคิดว่าตัวเองเหนือกว่าอีกฝ่าย โดยเป็นไปตามปัจจัยทางวัฒนธรรมของตนเอง เช่น
- ในสังคมที่มีค่านิยมความเชื่อว่า เมื่อผู้หญิงแต่งงานไปแล้วจะถือว่าเป็นสมบัติของสามี ความเชื่อทางสังคมเช่นนี้ก็จะหนุนนำให้เกิดความรุนแรงต่อผู้หญิงได้มาก เพราะสามีจะคิดว่าตนจะทำอะไรกับภรรยาก็ได้ เพราะภรรยาคือสมบัติของเขา โดยไม่ได้มองว่าภรรยาก็เป็นมนุษย์ที่มีสิทธิเสรีภาพไม่ต่างกับสามี
- ในสังคมที่มีการแบ่งชนชั้นวรรณะ ก็อาจจะมีความเชื่อว่าคนรวยจะทำอะไรก็ได้ ดังนั้น หากแฟนมีสถานะทางการเงินด้อยกว่า หรือแฟนเป็นฝ่ายพึ่งพาทางการเงิน ฝ่ายที่มีสถานะทางการเงินที่สูงกว่าก็อาจจะเชื่อว่าตนมีสิทธิที่จะควบคุมบงการ อำนาจในการตัดสินใจเป็นของตนเองเพียงฝ่ายเดียว
- ในสังคมที่มีการแบ่งระดับความอาวุโส ก็อาจจะมีความเชื่อว่าคนอายุมากกว่านั้นถูกเสมอ ยิ่งถ้าอายุอ่อนกว่ามากๆ ก็จะยิ่งต้องฝ่ายเชื่อฟังและถูกคาดหวังให้มีลักษณะว่านอนสอนง่าย หรือในกรณีคู่รัก เมื่ออีกฝ่ายอายุน้อยกว่ามากๆ ก็มีแนวโน้มที่ฝ่ายที่มีอายุมากกว่ามีความคิดหวาดระแวงว่าตนจะถูกนอกใจ ซึ่งหากบุคคลนั้นมีบุคลิกเป็นคนก้าวร้าวก็มีแนวโน้มที่จะใช้ความรุนแรงกับอีกฝ่าย
.
ความน่าเศร้าคือเมื่อใครสักคนอยู่ใน Abusive Relationship สิ่งที่สังคมมักจะทำต่อพวกเขาก็คือการตั้งคำถามที่เป็นไปในเชิงกล่าวโทษผู้ถูกกระทำ เช่น
"แล้วทำไมไม่ศึกษาให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจคบ"
"แล้วทำไมไม่เดินออกมาล่ะ อยู่ต่อทำไม"
.
แต่เบื้องหลังของคนที่ติดอยู่ใน Abusive Relationship นั้นมีความซับซ้อน
แต่ละกรณีก็จะมีที่มาและรายละเอียดแตกต่างกันไป เช่น
- ในช่วงที่ abuser เข้ามาจีบนั้น เขามีท่าทีที่สุภาพมาก มีการเข้าหาผู้ใหญ่ในบ้าน ทำกับข้าวให้กิน ป่วยไข้พาไปหาหมอ ดูแลเทคแคร์ดีมาก ทำให้เชื่ออย่างสนิทใจว่าเขาเป็นคนดี แต่พอคบหากันไปจนลึกซึ้งแล้วเขาถึงจะแสดงตัวตนด้านร้ายออกมา
- abuser มีการขุ่มขู่ ตามราวี แสดงพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง ทำให้เกิดความหวาดกลัวจนไม่กล้าที่จะหนีออกมา
- เกิดจากความซับซ้อนในใจของฝ่ายถูกกระทำที่ทำให้เกิดอาการสองจิตสองใจ ใจนึงก็อยากออกมา แต่อีกใจก็อยากให้โอกาส บางคนก็มีประวัติในวัยเด็กที่เป็นเบื้องหลังของการไม่เดินออกจากความสัมพันธ์ซึ่งจำเป็นจะต้องอาศัยการทำจิตบำบัดเพื่อค้นหาที่มานั้นๆ ให้เจอและหาทางแก้ไขปัญหา
.
ความน่ากลัวของ Abusive Relationship ก็คือ หากมันเกิดขึ้นในครอบครัวก็จะทำให้บรรยากาศของครอบครัวเต็มไปด้วยความรุนแรง เด็กที่เติบโตในครอบครัวที่ใช้ความรุนแรง สมาชิกในครอบครัวทำร้ายกัน ก็มีแนวโน้มที่จะกลายเป็นคนที่ใช้ความรุนแรงเมื่อโตขึ้น (สำเนาถูกต้อง) สมาชิกในครอบครัวแต่ละรุ่นจึงเหมือนอยู่ในวงจรอุบาทว์ที่ส่งต่อความรุนแรงกันรุ่นสู่รุ่น
.
ในโอกาสที่วันนี้เป็นวันแห่งความรัก
ก็อยากจะเชิญชวนให้ทุกคนหันมาตระหนักถึงความสำคัญของการมีความสัมพันธ์ที่ดี เรียนรู้วิธีการมีความสัมพันธ์ที่เหมาะสม ไม่ทำร้ายกัน
และทำความเข้าใจว่าความรักนั้นไม่ได้ทำร้ายใคร แต่สิ่งที่ทำให้เกิดการทำร้ายกันก็คือการมีชุดความคิดที่บิดเบี้ยว ความคาดหวังที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง และการไม่ตระหนักรู้ในตนเองจนเผลอขาดสติไปทำร้ายอีกฝ่าย
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
