14 ก.พ. 2023 เวลา 15:20 • ข่าวรอบโลก

“นิกกี เฮลีย์” นักการทูตคู่บารมี ทรัมป์ ประกาศท้าชิงตำแหน่ง ปธน. ในปี 2024

ในนามพรรครีพลับลิกัน ชนกับ “ทรัมป์” ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้
14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566: Nikki Haley “นิกกี เฮลีย์” อดีตผู้ว่าการรัฐเซาท์แคโรไลนาของพรรครีพลับลิกัน และ อดีตทูตสหรัฐฯประจำ UN ประกาศลงท้าชิงเลือกตั้งตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในนามพรรครีพลับลิกัน ปี 2024
โดยเธอเป็นสมาชิกพรรครีพลับลิกันโปรไฟล์ดีคนแรกที่ประกาศลงท้าชิงกับ “โดนัลด์ ทรัมป์” ที่ประกาศเปิดตัวไปแล้วเมื่อพฤศจิกายนปีก่อน
คาดการณ์อีกว่า “ทรัมป์” จะต้องเจอกับผู้ท้าชิงตำแหน่งตัวแทนพรรครีพับลิกันที่แข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอีก รวมถึง “รอน เดอซานติส” ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา ที่ชนะเลือกตั้งกลางเทอมอย่างถล่มทลาย และ “ไมก์ เพนซ์” อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ
“เฮลีย์” ได้ประกาศเปิดตัวชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในนามพรรครีพลับลิกันสมัย 2024 วันนี้ ที่เมืองชาร์ลสตัน รัฐเซาท์แคโรไลนา และโพสท์วิดีโอเปิดตัวของเธอบนโลกออนไลน์ โดยเธอกล่าวนำว่า “I’m Nikki Haley, and I’m running for president,"
1
เธอได้ระบุในวิดีโอแคมเปญเปิดตัว แย้งว่าถึงเวลาแล้วที่ “ผู้นำรุ่นใหม่” ต้องเข้ามาช่วยขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า
สามารถชมวิดีโอเปิดตัวของเธอได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้ครับ
  • ประวัติเกี่ยวกับเธอ
  • “นิกกี เฮลีย์” หรือชื่อเดิม Nimrata Nikki Randhawa ปัจจุบันอายุ 51 ปี เธอเป็นลูกสาวของผู้ลี้ภัยชาวอินเดียเชื้อสายซิกข์ เกิดที่ Bamberg รัฐเซาท์แคโรไลนา
  • เธอยังถือเป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้รับเลือกให้เป็นผู้ว่าการรัฐเซาท์แคโรไลนา (2011-2017)
  • “ทรัมป์” เลือกเธอมาดำรงตำแหน่งทูตสหรัฐฯ ประจำองค์การสหประชาชาติ (UN) คนที่ 29 (2017-2018) โดยยกย่องว่าเธอเป็นนักทำข้อตกลงผู้พิสูจน์ตัวเองแล้ว จริงแล้วก่อนหน้านี้เธอเป็นผู้วิพากษ์วิจารณ์ทรัมป์มาก่อนด้วย โดยเฉพาะนโยบายห้ามผู้อพยพมุสลิมเข้าประเทศ
  • เธอยังเป็นผู้หญิงที่ไม่ใช้คนขาวคนแรกที่ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ระดับคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลสมัยทรัมป์
สื่อ The Hindu ของอินเดีย ระบุว่า แม้จะเพิ่งรับหน้าที่ทูตสหรัฐฯ ประจำยูเอ็นได้เพียง 1 ปี แต่นางเฮลีย์ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดของ ปธน. ทรัมป์ ก็มีบทบาทโดดเด่นมากในยุคของรัฐบาลของเขา ซึ่งชูนโยบาย “อเมริกามาก่อน”
บรรดานักการทูตต่างมองว่าเธอกำลังใช้บทบาทนี้เป็นการปูทางไปสู่การบทบาททางการเมืองที่ใหญ่ขึ้น นั่นคือการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนต่อไป
เครดิตภาพ: AFP
การคาดการณ์เรื่องลงสมัครชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีของนางเฮลีย์ เกิดขึ้นนับแต่ที่เธอออกมาปกป้องการตัดสินใจของประธานาธิบดีทรัมป์ในการที่สหรัฐฯ ให้การรับรองนครเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงอิสราเอล
โดยเธอเลือกที่จะใช้สิทธิยับยั้ง หรือวีโต้ ในการออกเสียงพิจารณาร่างมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ระบุให้การรับรองนครเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงอิสราเอลถือเป็นโมฆะ ส่งผลให้คณะมนตรีความมั่นคงฯ ไม่สามารถออกข้อมติดังกล่าวได้ แม้ชาติสมาชิกที่เหลืออีก 14 ประเทศ ต่างออกเสียงสนับสนุนทั้งหมดก็ตาม
เครดิตภาพ: Olivier Douliery/AFP/Getty Images
เธอผงาดขึ้นจากผู้ว่าการรัฐสังกัดพรรครีพับลิกันที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก มาเป็นนักการทูตผู้ทรงอิทธิพลในเวทีการเมืองโลกภายในเวลาอันรวดเร็ว ในแวดวงการเมืองต่างมองว่าเธออาจเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนต่อไปในการเลือกตั้งสมัยหน้า (ซึ่งก็เกิดขึ้นแล้วจริงๆ วันนี้ที่ประกาศเปิดตัว)
หรือว่า “คนเชื้อสายอินเดีย” จะผงาดขึ้นเป็นผู้นำประเทศอื่นอีกครั้ง เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นที่อังกฤษเมื่อปลายปีที่ผ่านมา
เรียบเรียงโดย Right SaRa
14th Feb 2023
  • แหล่งข่าวอ้างอิง:
<ภาพปก: นิกกี เฮลีย์ สมัยดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำสหประชาชาติคนที่ 29 เครดิตภาพ: Winnie Au / Glamour>
โฆษณา