"ความรัก" คือคลื่นความถี่ที่จิตวิญญาณในจักรวาลเขาใช้กัน
ขออนุญาตอ้างถึงจากบางส่วนของหนังสือ "อารียา เมตายา" เพราะมันเข้าใจง่ายดี ว่าความมรักแบ่งออกเป็น 4
ระดับระดับที่ 1 เป็นระดับที่ง่ายที่สุด คือความรักที่มอบให้กับคนที่ด้อยกว่า เหมือนกับความสงสาร คืออะไรที่เรารู้สึกว่าสิ่งนั้นต่ำกว่าเรา ลำบากกว่าเรา เรามีเหลือเราก็พร้อมหยืบยื่นให้ได้อย่างง่ายๆ
ระดับที่ 2 ยากขึ้นมาหน่อย แต่อยู่ในระดับคนทั่วไปสามารถทำได้ คือการมอบความรักให้กับคนที่เสมอกับเรา ระดับนี้คือคนที่พบเจอได้ทั่วไป เช่นเพื่อนร่วมงาน ลูกค้า คนข้างบ้าน เป็นต้น ความรักระดับนี้จะมีเรื่องของ "ความยุติธรรม" เข้ามาให้พิจารณา เรื่องของการ "ยอม-ไม่ยอม" เป็นรักระดับที่สามารถทำได้ แต่คนที่ทำได้ก็มีน้อย
ระดับที่ 3 คือความรักที่มอบให้กับคนที่เหนือกว่าเรา ถ้ายังทำระดับ 2 ไม่ได้ ก็จะทำระดับนี้ไม่ได้ ในโลกของเราแบ่งชั้นวรรณะของคนรวยคนจนอย่างชัดเจน คนที่เหนือกว่าก็มักจะมีอะไรมากกว่า ได้รับสิ่งที่ดีกว่า ทำให้ความคิดที่คนระดับต่ำกว่านั้นจะมอบให้กับคนที่เหนือกว่ามันฟังดูผิดตรรกะในทางโลก ตรรกะที่สร้างขึ้นมาเพื่อปิดกันไม่ให้เราสามารถเพิ่มความถี่ของความรักได้นั่นเอง
ระดับที่ 4 เป็นระดับที่ยากที่สุด คือความรักที่มอบให้กับศัตรู ในโลกมิติที่ 3 ที่เราอาศัยอยู่ มันมีทั้งบวกและลบ (ถ้าอ่านเรื่องมิติที่ 5 จะเข้าใจว่าทำไมต้องบวกอย่างเดียว) ทำให้มันมีคนไม่ดี คนทำไม่ดีกับเรา คนที่ทำให้เราเกลียด เราจะสามารถรักคนที่เราเกลียดได้ไหม ก็ได้อยู่ แต่ต้องผ่านกระบวนการการให้อภัยให้ได้ก่อน
ถ้าเราสามารถผ่านข้ามความถี่ของความรักได้ทั้ง 4 ระดับ จึงจะหมายถึง "รักไม่มีประมาณ หรือ unconditional love หรือรักไม่มีเงื่อนไข" ที่หลายๆ คนอินเทรน เอาคำนี้ไปอ้าง เพื่อนจะแบ่งห้องหัวใจว่า ฉันไม่ได้คิดอะไร เพราะฉันรักทุกคน ฉันมีความรักมากมายพร้อมจะแบ่งให้ทุกคน ทั้งที่มันเป็นเรื่องของความรักใคร่ ในศาสนาพุทธจึงเลือกใช้อีกคำนึงคือคำว่า "เมตตา" ที่จะครอบคลุมความรักทั้ง 4 ระดับ ไม่ดูสับสนกับความรักใคร่
ทั้งนี้ความรักใคร่เองมันก็ยังแยกย่อยได้อีกนิด เป็นจากใจหรือจากสัญชาตญาณ
"คุณอาจจะรักผู้หญิงคนหนึ่งเพราะว่าเธอสวยถูกใจ คำว่าเธอสวยถูกใจนั้นคือแรงกระตุ้นที่เกิดจากสัญชาตญาณ ซึ่งมันคล้ายกับเวลาที่คุณกำลังหิวและบังเอิญไปเจอกับอาหารที่น่ากิน ความว่าน่ากินจึงเป็นแค่แรงกระตุ้นที่เกิดจากสัญชาตญาณเท่าั้น แต่คุณไม่ได้มีความรักกับอาหารนั้นสักหน่อย"
ในมิติที่ 5 เราใช้ "ใจ" แทนสมอง และใจสื่อสารผ่าน "คลื่นความถี่แห่งรัก" ระดับขั้นต่างๆ ที่แบ่งให้ดู เป็นเหมือนตัวชี้วัดว่าเรานั้นผ่านเกณฑ์หรือพร้อมจะก้าวข้ามผ่านมิติหรือเปล่า ซึ่ง/ที่ไม่ใช่แค่ความรู้ หรือความเข้าใจ แต่มันต้องทำให้ได้ด้วยครับ
สุขสันต์วันวาเลนไทน์ และขอให้ชาวพุทธ ที่ไปขอพรจากเทพพราหมณ์ ในวันแห่งความรักของชาวคริสต์ สมหวังในความรักใคร่ กันทุกคนนะครับ
#กระบี่สีน้ำเงิน
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
