[สรุปสั้น] Trend EV หุ้นกลุ่มไหนได้รับประโยชน์?
ปฎิเสธไม่ได้ว่าประเทศไทยเริ่มเข้าสู่ยุคเปลี่ยนผ่านจากรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์สันดาปหรือ ICE เข้าสู่ยุคของรถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV กันแล้ว สังเกตได้จากค่ายรถยนต์ต่างๆ เริ่มเกมรุกออกรุ่นใหม่ที่เป็นรถ EV หรือ PHEV กันมากขึ้น วันนี้ DW24 จะพามาส่องหุ้นได้ที่รับประโยชน์จาก Theme EV กัน
📌หุ้นรับประโยชน์จาก EV
หลายคนอาจจะเห็นข่าวกันมาแล้วตั้งแต่ BYD มีแผนมาตั้งฐานการผลิตในประเทศไทย รวมถึงล่าสุด Tesla ได้มีกำหนดการเปิดตัวรถยนต์ในประเทศไทยในวันที่ 7 ธันวาคมนี้ ส่งผลให้รถยนต์ EV ในบ้านเรากลับมาคึกคักอีกครั้ง หากเราไปเจาะลึกในโครงสร้างรถ EV แต่ละส่วนพบว่าความจำเป็นหลักๆ ในรถยนต์ EV 1 คันจะมีหุ้นที่ได้รับประโยชน์ดังนี้
1. กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้ในรถ EV เลยก็คือชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ทั้งที่เป็นส่วนควบคุมและอุปกรณ์ความปลอดภัยต่างๆ ดังนั้นกลุ่มที่จะได้รับประโยชน์โดยตรงคือ
KCE, HANA, DELTA หุ้นทั้ง 3 ตัวนี้มีโรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ทั้งในและต่างประเทศ ดังนั้นจะได้รับประโยชน์ไม่เพียงแต่ในประเทศเท่านั้น พร้อมกับสินค้าที่ผลิตนั้นมีทั้งกลางน้ำและปลายน้ำ ยิ่งช่วยเสริมแรงในการเติบโตมากขึ้น
2. กลุ่มผู้ผลิตแบตเตอรี่ ต้องอย่าลืมว่าอีกหนึ่งอย่างที่จำเป็นต่อการขับเคลื่อนรถยนต์ไฟฟ้าที่ขาดไม่ได้เลยคือแบตเตอรี่ ปัจจุบันโรงงานแบตเตอรี่มีผู้เล่นน้อยรายในประเทศไทย ได้แก่
EA ที่ตั้งงบการลงทุนหลายหมื่นล้านใน Theme EV และไม่จำกัดแค่รถยนต์นั่ง EV เท่านั้น ยังมีการพัฒนาไปยังขนส่งสาธารณะที่ใช้พลังงานไฟฟ้า เช่น รถเมล์ไฟฟ้า เรือไฟฟ้า เป็นต้นดังนั้นผู้เล่นเด่นในฝั่งของแบตเตอรี่ยังคงเป็น EA
3. กลุ่มพลังงาน เมื่อมีชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และแบตเตอรี่แล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดให้รถ EV วิ่งได้คือพลังงานไฟฟ้า สามารถแบ่งออกเป็น 2 ส่วนย่อยคือ สถานีอัดประจุ และ พลังงานไฟฟ้า
สถานีอัดประจุไฟฟ้า หรือ EV Charger หุ้นที่ได้รับประโยชน์คงจะหนีไม่พ้นสถานีบริการน้ำมันเดิมที่มีการปรับพื้นที่ให้มีสถานีชาร์จรถไฟฟ้าในพื้นที่ด้วย ได้แก่ OR, PTG, BCP เป็นต้น
4. กลุ่มคลังสินค้าและพัฒนานิคม ปัจจุบันค่ายรถยนต์หลายค่ายเริ่มเข้ามาสร้างฐานการผลิตรถ EV เพื่อจำหน่ายในไทยและส่งออกไปยังต่างประเทศ ดังนั้นการลงทุนนี้จะต้องมีการซื้อที่ดินสร้างโรงงานและต้องมีคลังสินค้า หุ้นที่ได้รับประโยชน์โดยตรงจึงเป็น WHA, AMATA
WHA จากข่าวก่อนหน้าได้มีการเซ็นสัญญาซื้อขายที่ดิน 600 ไร่ ให้ BYD ตั้งโรงงานผลิตรถ EV โดยเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ในกลุ่มอาเซียนและยุโรป
📌เก็งกำไรตัวไหนดีกว่ากัน?
ก่อนอื่นเรามาดูกันก่อนว่าเทรนด์รถ EV ของประเทศไทยในปัจจุบันกำลังอยู่ในขั้นตอนไหน เมื่อส่องเข้าไปลึกๆ จะพบว่าความพร้อมต่อเรื่องรถยนต์ EV ของบ้านเรานั้นค่อนข้างน้อย เช่น สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าก็ยังไม่ครอบคลุมทุกภูมิภาค เมื่อไปไหนก็จำเป็นต้องวางแผนเพื่อหาทางสำรองเมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด
รวมถึงระยะเวลาในการชาร์จก็ค่อนข้างนานเมื่อเทียบกับต่างประเทศจากการที่ประเทศไทยยังมีเพียงที่ชาร์จ DC ที่กำลังเฉลี่ยน้อยกว่า 100 KW ทำให้ผู้ใช้ต้องเจอเหตุการณ์ที่พอถึงสถานีชาร์จก็ต้องเสียเวลาต่อคิวรถคันอื่นที่กำลังชาร์จและพอถึงคิวชาร์จก็ต้องรอนานมากกว่า 30 นาทีต่อการชาร์จ 1 ครั้ง หากมองถึงการเติบโตของรถ EV ในอนาคตที่จะถึงนี้
🎯การเก็งกำไรระยะยาว ยังให้น้ำหนักในกลุ่มของพลังงานหรือหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากการที่ขยายสถานีชาร์จเพื่อรองรับการใช้งานรถ EV ที่มากขึ้น
🎯การเก็งกำไรระยะกลาง น้ำหนักได้เทไปในกลุ่มของอิเล็กทรอนิกส์และแบตเตอรี่เนื่องจากเมื่อค่ายรถหลายๆ ค่ายเริ่มมีการมาตั้งฐานการผลิตในประเทศไทยก็จะต้องมีการสั่งแผงวงจรต่างๆ ที่จำเป็นภายในประเทศเช่นกันรวมถึงแบตเตอรี่ก็ใช้ส่วนที่มีการผลิตในประเทศเป็นหลักเพื่อลดต้นทุนค่าขนส่ง
🎯การเก็งกำไรระยะสั้น กลุ่มของคลังสินค้าและพัฒนานิคม จะได้เปรียบจากการที่บริษัทรถยนต์ต่างๆ เข้ามาใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตและส่งออก และเมื่อมีข่าวราคาหุ้นมักจะปรับตัวขึ้นร้อนแรงในเวลาอันสั้นจึงให้น้ำหนักกลุ่มนี้เป็นการเทรดเก็งกำไรจากดีลที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ดังนั้นเราจะเห็นว่าเทรนด์รถยนต์ EV มีหุ้นหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรมได้รับประโยชน์โดยตรงและทางอ้อม นักลงทุนก็จำเป็นต้องวางแผนเพื่อเกาะกระแสเก็งกำไรทั้งระยะสั้นไปจนถึงระยะยาว และใครอยากจะเก็งกำไรระยะสั้น DW24 แนะนำเก็งกำไรผ่านผลิตภัณฑ์ DW ที่มีอัตราทดช่วยสร้างผลตอบแทนที่มากกว่าเดิม ที่ขาดไม่ได้ระหว่างการเทรดคือเว็บไซต์ของ DW24 ที่สามารถเปรียบเทียบสเปค DW ได้ทุกกลุ่มอุตสาหกรรมเพื่อไม่ให้นักลงทุนพลาดในการลงทุน
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
