16 ก.พ. 2023 เวลา 02:22 • ความคิดเห็น

#CLOSE #รักแรกวันนั้น

หนังหน่วงมาก จุก และเศร้าหมอง 10/10
1) เมื่อวานไปดูหนังรอบสื่อเรื่องนี้ แล้วก็ไม่สงสัยเลยว่าทำไมเข้าชิงออสการ์ สาขาหนังต่างประเทศยอดเยี่ยม ด้วยการแสดงอันเป็นธรรมชาติ ฉาก บรรยากาศในโรงเรียน และทุกการเล่าเรื่อง ดูจริงไปหมด เหมือนไม่มีกล้องอยู่ตรงหน้า ทำให้เราไหลไปกับตัวละคร กำลังอยู่ในเหตุการณ์จริง มีส่วนร่วมในชีวิตพวกเขา จนดำดิ่ง และจุกมากๆ หนังทำเราหน่วงไปหมด กับความจริงที่เกิดขึ้นตรงหน้า และมันเคยเกิดขึ้นกับตัวเราเองเช่นกัน
2) หนังเล่าเรื่องที่แสนจะปกติธรรมดาในโรงเรียนของเด็กผู้ชายคู่หนึ่ง ที่สุดท้ายเกิดโศกนาฏกรรม เพียงเพราะโดนเพื่อนล้อแกล้งในโรงเรียน กลับกลายเป็นหายนะของชีวิตเด็กคู่นี้ เมื่อไม่มีทางเลือกที่จะทำให้เพื่อนหยุดล้อ แซว และรู้สึกอึกอัดใจในโรงเรียน ทางออกคือ พยายามทิ้งเพื่อน หรือผลักไสไล่เพื่อนไปจากชีวิต
3) หนังได้ขุดความทรงจำวัยเด็กของเรากลับมาหมดเลย เวลาถูกเพื่อนแซว มันทำให้ชีวิตในโรงเรียนไม่มีความสุขเลย พยายามฝืนยิ้ม ขำขัน ทำเป็นหัวเราะที่โดนแกล้ง โดนแซว ล้อเลียน หรือเป็นตัวตลกของเพื่อนๆ มันรู้สึกแย่มาก แต่สำหรับการเล่าของหนังไม่ได้พยายามขยี้ในเชิงสั่งสอนใครเลย แค่ฉายภาพให้เราเห็นปมปัญหา ที่นำไปสู่ความทุกข์ของเด็กคนหนึ่ง หนังพยายามทำให้คนดูคิดเองว่า อะไรคือเหตุผลที่เด็กผู้ชาย 2 คนต้องมีปัญหากัน
1
4) ส่วนตัวเราเอง เราไม่เคยรู้สึกด้อยค่า หรือดูถูกความเป็น LGBTQ+ ในตัวเราเลย เราเป็นเมล็ดพันธุ์ที่งดงามเสมอ ในความคิดเราไม่มีวันไหนที่เกลียดตัวเอง แต่คนรอบข้างที่มักจะพยายามยัดเยียดความแปลกแยก (Alienation) ให้เราเป็นตัวประหลาด ทำให้หลายครั้งเกิดการตั้งคำถาม "การเกิดมาเป็นฉัน มันผิดตรงไหน?" "ฉันทำอะไรผิด?" ทั้งๆที่ไม่ได้รังแกใคร แล้วทำไมคนอื่นต้องรังแกเรา
5) ความหดหู่ของหนังเดินทางมา ตั้งแต่ช่วงกลางเรื่อง จนกระทั่งจบ เหตุเกิดจากต้นตอเล็กๆ แค่การบูลลี่ในโรงเรียนมันผลิดอกออกผล ทุกคนเศร้าไปกับมัน แต่ไม่มีใครเลยที่เรียนรู้จริงๆ แม้กระทั่งครูหรือพ่อแม่ในเรื่องก็ไม่ได้ทราบปมปัญหา หนังสอนเราให้เห็นปัญหาแต่ตัวละครไม่ได้แก้ปัญหา แต่คนดูได้คำตอบเองทั้งหมด "Bully" คือยาพิษ ที่หยิบยื่นความทุกข์ และทำลายความรัก ความสุข และความเป็นไปของชีวิตเด็กคู่หนึ่งจนแหลกเหลวไม่มีชิ้นดี
6) หลายคนจะมองแบบสบายๆ ขำๆว่า "ก็แค่เด็กล้อกัน แกล้งกันเล่นๆเท่านั้นเอง" แต่จริงๆ ไม่ควรมีใครโดนแกล้ง โดนล้อ หรือถูกเหยียดทั้งนั้น ทุกคนเกิดมาเพื่อเป็นมนุษย์ที่ควรจะมีความสุขกับชีวิต ในสิ่งที่ตัวเองเป็นได้อย่างเป็นธรรมชาติ การเป็นตัวเอง เพศ รูปร่าง สีผิว หรืออะไรที่เขาเป็น ไม่ใช่เหตุผลให้ใครมาทำร้ายคนอื่นได้
7) ความน่าสงสารของเด็ก LGBTQ+ คือการที่พยายามจะทำตัวเข้มแข็ง และฝืนทำกิจกรรมที่ตัวเองไม่ชอบ เพื่อให้ตนดูปกติในสายตาเพื่อน จริงๆคนเราไม่ควรต้องฝืนชีวิตขนาดนั้น ไม่จำเป็นต้องไปสร้างเกราะหุ้มให้ตัวเอง แต่หนังเรื่องนี้ก็บอกกับเราเป็นนัยๆว่า "จงเป็นตัวเองเถอะ อย่าฝืนเป็นคนอื่น ที่เธอไม่ได้เป็นเลย" มันพังไปหมด
ฉายจริงวันแรก 16 กุมภาพันธ์ ไปดูกันนะ
IG : Tootsyreview
TW : ThinkTalkLoud
#ตุ๊ดส์review
#ThinkTalkLoud
โฆษณา