16 ก.พ. 2023 เวลา 02:47 • ความคิดเห็น
การที่มีกาย มีวิญญาณทั้ง ที่เราใช้กายเคลื่อนที่ไปตามอารมณ์ เดินไปเดินมาในโลก มันก็เกิดการสัมผัส ..อยู่ในคำว่ากามาวจร มีสัมผัส ..อารมณ์ของคนนั้นคนนี้ สัมผัสเรื่องราวต่างๆ ไปเก็บเรื่องราวคนนั่นคนนี้ เอายึดถือ คนนั่นชอบเรา คนนี้ไม่ชอบเรา คนนั่นไม่ดี คนนี้ ดีเราก็เก็บสะสมเข้า นั่งทำงานนานๆทั้งวัน .อารมณ์เค้าก็กดจิต ตรึงจิตเราให้ใช้กายทำงานไปนานๆ พอลุก..ขยับเขยื้อนกาย เลือดลมมันก็ไม่ปกติ ปวดเมื่อย ตอนเป็นหนุ่มสาวก็ไม่ค่อยรู้สึก ..แต่พออายุมากขึ้น ความปวดเมื่อยก็เข้ามา
อารมณ์ที่เรานำกายไปสัมผัส..สิ่งต่างๆ มันก็สะสมเข้าเรื่อย กายมันก็หนัก เลือดลมก็เดินไม่สะดวก เส้นสายเส้นเลือดมันรัดรึงทั่วสรรพางค์กาย ..เลือดไหลเวียนไม่สะดวก ..การทำงานของกายก็ไม่ปกติ อารมณ์ก็ไม่ปกติ
..เพราะมีการสะสมมามาก .(ที่จริงมันก็คือกรรม สะสมกรรมมามาก โดยไม่รู้ตัว ในสิ่งที่เราใช้กายกายวาจาใจไปตามอารมณ์) ความเครียดมันก็เกิดขึ้น ยิ่งคิดก็ยิ่งมีว้าวุ่น เรื่องราวต่างๆ ส่วมมากจะเป็นตัวร้าย จะปรากฏขึ้นในความคิด ยิ่งคิดก็ยิ่งอึดอัด ทุรนทุราย ว้าวาย ผิดปกตินิสัย ยิ่งคิดยิ่งอึก วิปริตผิดปกตินิสัยของตนเอง .. อาจจะทำให้เกิดเรื่องของกายป่วยจิตป่วย
เรื่องราวของอารมณ์ หาดเราเกิดความหงุดหงิด โมโหโกรธ แล้วเราเผลอสติใช้คำพูด หรือมีกิริยาไปตามอารมณ์โมโหโกรธ..เมื่อใช้ไปแล้ว..เราก็ลองสังเกตตัวเองว่า มีมีอาการปวดเมื่อย คั่นเนื้อคั่นตัวเหมือนจะเป็นไข้ ..ไม่สบายเนื้อสบายตัว ..สมองไม่ปลอดโปร่ง ..นั่นแหละ ก็เกิดจากการที่เราเผลอสติ ยับยั้งอารมณ์ไม่ทัน กรรมมันก็เกิดขึ้น กายเราก็ไม่ปกติ ด้วยพิษของอารมณ์ที่เราใช้ไป..เลือดก็เป็นสีดำ ..หน้าตาหมองคล้ำ..ไม่สดใส
โฆษณา