23 ก.พ. 2023 เวลา 08:17 • ไลฟ์สไตล์

สำเร็จแบบสบาย ไม่ได้หมายความว่าไม่ลงมือทำ!

“ออกมาไลฟ์สดให้ความรู้ บอกว่ามาแบ่งปัน แต่สุดท้ายก็ขายของ”
ในยุคโลกอินเตอร์เน็ตอย่างทุกวันนี้...นี่อาจจะเป็นความคิดที่ตรงใจใครหลายคน
แต่ลองคิดดูดี ๆ ว่าทุกอย่างมันมีราคา
เราเองร่ำเรียนกันมาก็เพื่อมาทำงานหาเงินไม่ใช่หรือ?
แม้เงินจะไม่สามารถซื้อได้ทุกอย่าง
แต่ก็ต้องยอมรับว่า ‘เกือบ’ ทุกอย่างต้องใช้เงินซื้อ
ไม่เว้นแม้แต่ปัจจัยสี่
ดังนั้นการทำงานเพื่อเงินจึงถือเป็นเรื่องปกติ
เพราะหากมีเงินพอกินพอใช้ก็ไม่ต้องเบียดเบียนใคร ไม่เป็นภาระสังคม
นี่คือสิ่งแรกที่เราสามารถช่วยสังคมได้
และแน่นอนว่า...ต้องอยู่บนพื้นฐานของความสุจริตด้วย ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นภาระใหญ่หลวงที่สังคมต้องแบกรับ
อย่างไรก็ตามเคยสงสัยกันไหมว่า ในเมื่อเราทุกคนต่างก็ทำเพื่อเงิน อีกทั้งยังขยันขันแข็ง แต่ในงานอย่างเดียวกัน ทำไมกลับมีความเหน็ดเหนื่อยไม่เท่ากัน
นายเอ...ทำงานเป็นพนักงานขายรถในบริษัทแห่งหนึ่ง
ยืนเฝ้าโชว์รูมทุกวัน ออกงานจัดแสดง ได้รับค่าตอบแทนเป็นแสน
ดีใจตอนได้เงิน แต่ห่อเหี่ยวอีกครั้งเมื่อต้องกลับไปทำงาน
นายบี...เป็นพนักงานขายรถยนต์บริษัทเดียวกับนายเอ
ยืนเฝ้าโชว์รูมทุกวัน ออกงานจัดแสดง ได้รับค่าตอบแทนเป็นแสนเท่ากับนายเอ
ดีใจตอนได้เงิน สนุกเมื่อได้ทำงาน
คงจะเห็นแล้วว่ากุญแจสำคัญอยู่ที่ประโยคสุดท้าย
นายเอ...ห่อเหี่ยวเมื่อต้องไปทำงาน
นายบี...สนุกเมื่อได้ทำงาน
สองคนขยันเหมือนกัน ได้เงินเยอะเท่ากัน
ทั้งสองคนล้วนแต่ทำเพื่อเงิน
เชื่อแน่ว่าถ้าให้ทำฟรี ๆ ต่อให้สนุกแค่ไหนนายบีก็คงไม่ทำเหมือนกัน
เพราะ ‘ทำงาน’ ก็เพื่อหาเงิน
แต่ถ้าทำไปไม่ใช่เพื่อเงินนั่นเรียก ‘ทำกิจกรรม’ หรือ ‘ทำการกุศล’
ซึ่งเป็นเรื่องของคนที่มีเงินมากพอจนไม่เดือดร้อน และสามารถหาอะไรทำสนุก ๆ ได้ตามใจ โดยไม่ต้องคิดถึงเรื่องเงิน (ทุกคนอยากเป็นอย่างนั้นใช่ไหมล่ะ)
.
.
วกกลับมาที่การ ‘ทำงานหาเงิน’ กันต่อ
ถ้าจุดประสงค์ของการทำงานของคุณนั้นพุ่งเป้าไปที่เงินอย่างเดียว ก็มีงานหลายอย่างให้เลือก
แต่สังเกตไหมว่า ไม่ใช่ทุกคนจะเลือกทำงานที่ได้เงินเยอะไปเสียทั้งหมด
จะมีคนที่เลือกงานที่ชอบ ซึ่งอาจจะไม่ได้เงินมาก ถ้าพอกินพอใช้ก็แล้วไป
อย่างไรก็ตามถ้าเลือกได้ทุกคนก็ต้องอยากได้งานที่ชอบและเงินเยอะ แต่ก็ใช่ว่าจะบรรลุความปรารถนานี้ไปเสียทุกคน
คนส่วนมากมักอยู่ในภาวะ...
ทำงานที่พอทำได้ และมีเงินพอใช้ไม่ขัดสน
นั่นหมายความว่าพวกเขาเหล่านี้ไม่ได้รักงานเท่าไหร่ แต่รักเงินมากกว่า จึงเป็นเหตุให้ทำงานเพื่อเฝ้ารอแต่วันเงินเดือนออก
พอเห็นเงินแล้วก็หายเหนื่อยอยู่แค่ไม่กี่วันเท่านั้น
การทำงานที่มี ‘ความโลภ’ เป็นไส้ใน
กับการทำงานที่มี ‘ความรัก’ เป็นไส้ใน ความสบายจึงต่างกัน
ถ้าวันนี้ยังไม่มีที่ไป ถึงยังไงก็ต้องอยู่กับเจ้านายสุดที่รักคนนี้ต่อ ก็ขอให้มองว่าการทำงานทุกวันนี้ก็เพื่อพัฒนาตัวเราเองให้ก้าวไปสู่จุดที่ดีกว่า
โฟกัสที่งาน ไม่ใช่โฟกัสที่เงิน เพราะถึงยังไงสิ้นเดือนก็ได้เงินอยู่ดี
หรือหากคุณทำมาค้าขาย แล้วจ้องแต่จะเอาเงินจากลูกค้า คุณจะเผลอแสดงพฤติกรรมที่ทำให้ลูกค้าขยาดโดยไม่รู้ตัว
เอาเถอะ! ไหน ๆ ก็ต้องทำงานเพื่อเงินอยู่แล้ว ก็อย่าซ้ำเติมตัวเองด้วยความเบื่อหน่ายเลย
มองหาข้อดีของงานที่ทำ
ขอบคุณสิ่งรอบตัวในที่ทำงาน แอร์ฟรี กาแฟฟรี หรืออะไรที่พอจะหาได้
ตักตวงทักษะเอาไว้เยอะ ๆ เพื่อวันหน้าจะได้ยกระดับตัวเอง
บางทีคุณอาจจะเจ๋งกว่าเจ้านายก็ได้นะ
ติดตามเนื้อหาดี ๆ ในรูปแบบคลิปวิดีโอได้ทางเฟซบุ๊กค่ะ
โฆษณา