19 ก.พ. 2023 เวลา 11:06 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

รักหนูมั้ย (2020) - ผิดไหมที่เราจะช่วยกันเป็นพ่อให้กับเด็กในท้อง ?

หนังคอมเมดี้เล็ก ๆ ที่สะท้อนปัญหาใหญ่ในสังคมไทย พร้อมกับตั้งคำถามท้าทายศีลธรรมให้กับผู้ชม
สวัสดีครับทุกท่าน ! หลังจากที่ผมเคยรีวิวเรื่อง "หน่าฮ่าน" หนังอีสานน้ำดีในปี 2019 ล่าสุดผมมีโอกาสได้ชมเรื่อง "รักหนูมั้ย (2020)" ภาพยนตร์ (นอก) ตระกูลไทบ้านเดอะซีรีส์บน Netflix
หลังจากดูจบ รู้สึกว่าเป็นหนังไทยที่มีคุณภาพ ตั้งคำถามกับสังคมได้ดี เลยอยากจะเขียนรีวิวถึงเรื่องนี้ เผื่อท่านใดสนใจนะครับ
[ เรื่องย่อ ]
รักหนูมั้ย (2020) กำกับโดย คุณโน่ ภูวเนตร สีชมภู
เนื้อเรื่องเล่าถึงเรื่องวุ่น ๆ ของวัยรุ่น 3 คน ได้แก่ "ออฟ (ด้งเด้ง - ณัฐวุฒิ แสนยะบุตร), จอห์น (ต้องเต - ธิติ ศรีนวล), กิว (ตาต้า - ชาติชาย ชินศรี)" ทั้งสามได้พลาดพลั้งทำให้ "พลอย (ยีนส์ - ภัทร์ธีราภรณ์ สุโพธิ์)" สาวไซด์ไลน์ขายบริการท้อง ขณะเดียวกันก็ไม่รู้ว่า ใครเป็นพ่อที่แท้จริงของเด็กคนนี้ ทำให้ทั้งสามต้องช่วยกันดูแลพลอย จนกว่าจะรู้ผลดีเอ็นเอว่าใครคือพ่อที่แท้จริง
[ ความรู้สึกหลังชม ]
- จุดแรกที่ขอชื่นชม คือ "การเป็นหนังฟอร์มเล็กที่มีใจใหญ่"
แม้ว่าพล็อตเรื่องสไตล์นี้จะปรากฏในภาพยนตร์ต่างประเทศหลายเรื่องแล้ว แต่การนำพล็อตนี้มาเล่าในรูปแบบหนังไทย ต้องยอมรับว่า ไม่ได้เห็นกันบ่อย ๆ แถมยังเป็นประเด็นที่ท้าทายผู้ชม โดยการตั้งคำถามถึงปัญหาที่แก้ไม่ตกในสังคมไทย
- ประเด็นหลักในเรื่องเกี่ยวข้องกับการตั้งคำถามว่า "เป็นไปได้ไหมที่เราจะมีพ่อหลายคนพร้อมกันในยุคที่ค่านิยมสังคมควรมีผัวเดียวเมียเดียว"
คำถามในเรื่องค่อนข้างน่าสนใจ เมื่อออฟ กิว และจอห์น ร่วมกันดูแลพลอยจนเกิดเป็นความผูกพันที่แน่นแฟ้น ใครสมควรเป็นพ่อของลูกและสามีที่แท้จริงของพลอย เราจะรักใครสักคนพร้อมกันได้ไหม หรือมีพ่อหลายคนพร้อมกันได้ไหม แล้วสังคมจะมองเราอย่างไร...
นี่เป็นคำถามจุก ๆ ที่หนังโยนให้กับผู้ชม ทำให้ผู้ชมต้องหนักใจกับความกระอักกระอ่วนในเรื่อง
แถมความบังเอิญที่บีบให้ทุกคนต้องมาช่วยกันดูแลพลอยยังเป็นความตลกร้ายจากปัญหาปากท้อง จนทุกคนต้องจับมือกัน เพื่อเอาตัวรอดจากวิกฤติครั้งนี้ไปให้ได้
- นอกจากคำถามด้านบน ยังมีปัญหาอื่น ๆ ที่สะท้อนผ่านหนัง ไม่ว่าจะการท้องของคุณแม่วัยใส การปัดความรับผิดชอบของพ่อที่ยังไม่พร้อม ปัญหาความยากจนที่ทำให้ต้องมาขายบริการ ปัญหาต่าง ๆ นับว่าดาร์กทีเดียว แล้วก็สอดคล้องกับคำพูดที่ตัวละครหนึ่งพูดในหนังว่า "ความจริงก็โหดร้ายอย่างนี้แหละ"
- ในแง่บทภาพยนตร์ โดยรวมทำออกมาใช้ได้ หนังมีแก่นที่ชัดเจน ไม่เล่นใหญ่ แต่ดำเนินเรื่องไปตามต้นทุนของแต่ละตัวละคร หนังมีการพัฒนาคาแรคเตอร์ของตัวละครในแต่ละช่วงเวลา พร้อมกับสำรวจทุกแง่มุม แบ่งพื้นที่ให้แต่ละคนพอดิบพอดี ทั้งยังผสมความคอมเมดี้ตลกร้ายที่แอบขมขื่นและโหดกับจิตใจได้ลงตัว
ส่วนการดำเนินเรื่อง หนังทำได้สนุก ไม่น่าเบื่อ อาจจะมีติดขัดบ้างภาษาหนังฟอร์มเล็ก แต่ถือว่าไม่ขี้เหร่ เผลอ ๆ ยังดูดีกว่าหนังไทยหลาย ๆ เรื่อง
- สำหรับบทสรุปของหนัง ผมค่อนข้างชอบบทสรุปของเรื่องดีนะ (แต่ไม่รู้ทุกคนจะชอบแบบนี้หรือเปล่า)
" สุดท้ายแล้วสังคมรอบข้างเป็นเพียงผู้ชมที่มองเข้ามา แต่ปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้นคือ สิ่งที่เราต้องแบกรับไว้เอง
ดังนั้นตราบใดที่การแสดงความรับผิดชอบของเราไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่น สะดวกใจทางไหน ก็ทำไปเถอะ...
หลายครั้ง ๆ การตัดสินใจที่เราเลือกไปก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว "
- ชอบอีกอย่าง คือ การดำเนินเรื่องส่วนใหญ่อยู่ในบ้าน (จอห์น) เพียงที่เดียว โดยมีพื้นที่หลักเป็นห้องนอนกลางของบ้าน... ถือว่าไม่ใช่งานง่ายที่ใช้สถานที่เพียงไม่กี่ที่ แต่ถ่ายทอดเรื่องราวได้ไหลลื่นแบบนี้
- พาร์ทนักแสดง ส่วนใหญ่แสดงเป็นธรรมชาติสไตล์ไทบ้าน แต่ละคนเคมีเข้ากัน ซึ่งสอดรับกับบริบทหนัง ถ้าเรื่องมิติทางการแสดง รู้สึกประทับใจในพาร์ทของ "จอห์น (ต้องเต - ธิติ ศรีนวล)" มากที่สุด
ส่วนความน่ารักขอยกให้ น้องกุ๊งกิ๊ง ปฏิมา ฉ่ำฟ้า ในบท "พลอย" แสดงได้น่ารักทั้งในพาร์ทปกติและพาร์ทดราม่า
- พาร์ทดนตรีประกอบ ส่วนใหญ่เป็นดนตรีง่าย ๆ ที่เข้ากับเรื่อง รู้สึกชอบซีนดราม่าหลายฉากที่ใช้แค่เปียโนบรรเลงคลอไปนิ่ง ๆ ช่วยให้หนังดิ่งดีมาก (นึกถึงหนังดราม่านอกกระแสญี่ปุ่น)
- ในหนังไม่มีฉาก 18+ แต่มีมุกทะลึ่งตึงตังสไตล์อีสานไทบ้าน
[ สรุป ]
ขอยกให้เป็นหนังไทยฟอร์มเล็กที่มีพลังยิ่งใหญ่ รู้สึกชื่นชมในความกล้าที่นำเสนอประเด็นที่น่าสนใจในสังคม นับว่าหนังกระโดดออกจาก Comfort zone หนังไทยไปไกลพอสมควร ขณะเดียวกันตัวหนังสามารถเล่าเรื่องราวความรัก ความดราม่า และมิตรภาพระหว่างเพื่อนได้สนุกสไตล์หนังคอมเมดี้ตลกร้ายกลิ่นอายอีสาน
ว่าไปแล้ว ถ้าขยับโปรดักชั่นขึ้นอีกนิด ปรับบทให้ประณีต น่าจะส่งแข่งเทศกาลหนังได้สบาย... ใครสนใจรับชมได้ผ่าน Netflix !
ป.ล. อีกหนึ่งช่องทางการติดต่อทาง Facebook เผื่อสนใจอยากพูดคุยติดต่อนะครับ
IG: benjireview

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา