20 ก.พ. 2023 เวลา 11:00 • การตลาด

แผ่นดินไหวที่ตุรเกียและซีเรียอาจเกิดจากเทคโนโลยี HAARP ไม่ใช่ภัยธรรมชาติ

การเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในตุรเกียและซีเรียในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2023 ที่ผ่านมาได้สร้างความเสียหายอย่างหนักหนาสาหัสกับทั้ง 2 ประเทศ คาดว่าจะมีผู้เสียชีวิตไม่น้อยกว่า 50,000 คน มีผู้ไร้ที่อยู่อาศัยนับแสนคน เฉพาะในซีเรียผู้คนจำนวนกว่า 4.1 ล้านคนต้องพึ่งพาความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก
ผลกระทบจากแผ่นดินไหวยังทำให้เขื่อนทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรียเสียหาย ส่งผลกระทบให้เกิดภาวะน้ำท่วมซ้ำเติม ทั้งยังเกิด After Shock ตามมามากกว่า 1,000 ครั้งในทั้ง 2 ประเทศด้วย
Credit: CNBC
คำถามที่เกิดขึ้นกับแผ่นดินไหวในครั้งนี้ก็คือ เป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติหรือเกิดจากเทคโนโลยีอาวุธอวกาศ เพราะว่าระดับของแผ่นดินไหวยู่ที่ระดับ 7.5 และ 7.8 ริกเตอร์ติดต่อกัน ซึ่งการเกิดขึ้นแบบนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติได้
อย่างไรก็ดีก่อนหน้านั้นประธานาธิบดีฮูเกอร์ ชาเวส แห่งเวนซุลเอลล่าได้ออกมาแสดงความเห็นว่า การเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในเฮติในปี 2010 เกิดมาจากการใช้อาวุธอวกาศที่ชื่อว่า The High-frequency Active Auroral Research Program หรือ HAARP รวมทั้ง Mahmoud Ahmadinejad ประธานาธิบดีอิหร่านในขณะนั้นบอกกับ UN ว่าเขาเชื่อว่าน้ำท่วมในปากีสถานก็เกิดจากเทคโนโลยีนี้เช่นกัน
Credit: Project HOPE
โครงการวิจัยออโรราลที่ใช้งานความถี่สูง (HAARP) ในอลาสกา ถือกำเนิดขึ้นเมื่อ 30 ปีที่แล้ว เป็นโครงการที่สำรวจชั้นบรรยากาศไอโอโนสเฟียร์ ซึ่งเป็นรอยต่อระหว่างชั้นบรรยากาศของโลกกับสุญญากาศในอวกาศ นักทฤษฎีสมคบคิดเชื่อว่าโครงการวิจัยสามารถทำให้เกิดแผ่นดินไหวและเหตุการณ์สภาพอากาศรุนแรงได้
HAARP มีหลายประเทศที่ได้ครอบครองเทคโนโลยีนี้ ทั้งยังได้ใช้โจมตีฝ่ายตรงกันข้ามเป็นระยะๆ แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในตุรเกียและซีเรีย ก็มีโอกาสเกิดจากการใช้เทคโนโลยีอวกาศ HAARPในการโจมตี ด้วยเหตุผลดังนี้
1. ตุรเกียปฏิเสธที่จะให้ฟินแลนด์และสวีเดน เข้าไปเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (North Atlantic Treaty Organization - NATO) โดยทางประธานาธิบดีตุรเกียอ้างว่าทั้ง 2 ประเทศให้ที่พักพิงกับผู้ก่อการร้ายที่ทำลายความมั่นคงของตุรเกีย
1
2. ตุรเกียมีความใกล้ชิดกับรัสเซีย ซีเรียและอิหร่านมากขึ้น ทำให้สหรัฐอเมริกาเกิดความไม่พอใจเป็นอย่างมาก
Credit: SBS
3. ซีเรีย ถูกโจมตีจากกลุ่มประเทศ NATO ที่มีการก่อตั้งกลุ่มก่อการร้าย ISIS เพื่อล้มการปกครองของประธานาธิบดีซีเรีย นายบาชาร์ อัล-อัสซาด ซึ่งรัสเซียได้ส่งกองกำลังมาช่วยรบทำให้ไม่สามารถล้มการปกครองของซีเรียได้
4. ตุรเกีย มีความร่วมมือย่างใกล้ชิดในการดำเนินการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน
5. ตุรเกีย ขอเป็นตัวแทนดูแลการส่งออกธัญพืชจากยูเครน ทั้งยังเป็นประเทศที่ได้ผลประโยชน์อย่างมากในสงครามรัสเซีย-ยูเครน ตุรเกียรับสินค้าโดยเฉพาะพลังงานจากรัสเซียมาขายต่อให้ยุโรป ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นเป็นอันมาก สร้างความไม่พอใจต่อหลายๆประเทศในยุโรป
6. ตุรเกีย ดำเนินนโนบายที่ทำให้ NATO และสหรัฐอเมริกาไม่พอใขเป็นอย่างมาก เพราะทำการสร้างสร้างท่อส่งก๊าซ ส่งตรงมาจากรัสเซียแล้วขายต่อให้ยุโรปแทนที่เยอรมัน สร้างรายได้ให้ตุรเกียอย่างเป็นกอบเป็นกำ
Credit: Geopolitical Futures
7. ตุรเกียได้ทำการซื้ออาวุธจากรัสเซีย โดยเฉพาะอาวุธที่ป้องกันภัยทางอากาศ S100 ที่เป็นเทคโนโลยีชั้นสูง ทั้งๆที่สหรัฐอเมริกาก็ได้ส่งสัญญาณเตือนว่าไม่ซื้ออาวุธจากรัสเซียหลายครั้งแล้ว แต่ตุรเกียก็มิได้นำพา
8. ตุรเกียมีการดำเนินนโนบายในรูปแบบสงครามเย็นกับประเทศกรีซ ที่เป็นหนึ่งในสมาชิก NATO เพราะกรีซเป็นตัวแทนของสหรัฐอเมริกาอย่างออกหน้าออกตา
9. ตุรเกียทำการโจมตีชาวเคิร์ด ที่เป็นพันธมิตรกับสหรัฐอเมริกา ในการโจมตีซีเรีย
10. ตุรเกียแสดงความไม่พอใจต่อการดำเนินการของสมาชิกชาติยุโรปและสหรัฐอเมริกา ที่ออกมาระบุว่าจะเกิดก่อการร้ายในเมืองอีสตัสบูล ด้วยการปิดสถานกงสุล ทำให้ธุรกิจการท่องเที่ยวของตุรเกียเสียหายเป็นอันมาก
Credit: HamSCI
เรื่องนี้พิสูจน์ได้ไม่ยากว่าเกิดจากการใช้ HAARP หรือไม่ โดยดูได้จากทรัพย์สินและผู้คนของเหล่าประเทศที่ครอบครองเทคโนโลยีนี้ ที่อยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุได้อพยพกะทันหันหรือไม่
ถ้าเป็นจริงสงครามโลกคงเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ เพราะไม่มีประเทศไหนยอมเสียหายฝ่ายเดียวแน่ๆ แต่ที่แน่ๆก็คือสำนักข่าวของตะวันตกต้องออกมาแก้ข่าวหรือทำให้ข่าวนี้ลดความเชื่อถือลงแน่นอน
1
โฆษณา