20 ก.พ. 2023 เวลา 03:30 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

Ant-Man and the Wasp: Quantumania (2023) – ผจญภัยในมิติควอนตัม

หลังผ่านพ้นมหาสงครามเผด็จศึก ที่โลกได้เป็นสมรภูมิสำคัญและได้เห็นความพ่ายแพ้ ก่อนพลิกกลับมาชนะ ขณะที่เส้นทางเฟสใหม่ กำลังเดินหน้าไปสู่มหาสงครามครั้งใหม่ ผ่านการแนะนำตัวละครใหม่ ๆ ฮีโร่รุ่นเยาว์มากมาย แต่ก็ยังไม่เห็นซึ่งภยันตรายหลักที่จะกลายมหาวายร้ายหลักประจำมหากาพย์ใหม่ จนกระทั่งมาถึงหนังที่ทำหน้าที่เปิดเฟส 5 อย่างเป็นทางการอย่าง Ant-man and the Wasp: Quantumania
Ant-Man and the Wasp: Quantumania เล่าเรื่องของ สก็อตต์ แลง หลังสงครามเผด็จศึก ทำให้เขากลายเป็นฮีโร่ที่มีชื่อเสียง ขณะที่ทุกอย่างดูปกติ แคสซี่ ที่เติบโตมาด้วยทัศนคติที่อยากจะช่วยเหลือสังคม และเธอได้สร้างเครื่องที่สามารถส่งสัญญาณกลับไปในมิติควอนตัม จนกระทั่งเครื่องส่งสัญญาณดูดทั้ง สก็อตต์, โฮป, แฮงค์, เจเน็ต และ แคสซี่ เข้าไปในมิติควอนตัม ทั้งห้าจึงพยายามหาทางกลับไปยังมิติปกติ โดยที่หารู้ไม่ว่า ในมิติควอนตัมนั้น มี “ผู้พิชิต” ที่หมายตาจะครอบครองโลกในทุกเส้นเวลาอยู่
ขณะที่เฟส 4 คือการถอยหลัง-เดินหน้า-ปูพื้น-สานต่อ โดยที่เหล่าซูเปอร์ฮีโร่เหล่านั้น ยังไม่มีเป้าหมายร่วม การเดินหน้าเข้าสู่เฟส 5 จึงเป็นเสมือนการปูพื้นให้พวกเขาและคนดูอย่างพวกเรา ได้รู้จัก “แคง” ซึ่งจะกลายมาเป็นมหาวายร้ายประจำมหากาพย์ใหม่นี้ หนังใช้เซ็ตติ้งที่ค่อนข้างเร็ว พูดถึงโลกหลังภาวะ The Blip และสถานะของครอบครัวแลงและพิมที่เกี่ยวดองกันอย่างเลี่ยงไม่ได้ ก่อนที่สถานการณ์จะจับพลัดจับพลูพวกเขา ให้โดดเข้าไปผจญภัยมิติควอนตัมที่แสนจะพิสดาร
หนังใช้องก์แรก ในการเปิดหูเปิดตาตัวละครในมิติควอนตัมที่พิศวง โดยจัดวางกลุ่มตัวละครแยกกัน เพื่อให้ได้เห็นแง่มุมของมิติควอนตัมที่ต่างกัน โดยให้ด้านนึง ได้เห็นภูมิหลังที่มีร่วมกันระหว่างตัวละครและมิติควอนตัมนี้ กับอีกด้านที่ได้สำรวจความพิสดารและแง่มุมทางการเมืองภายในมิตินั้น ซึ่งก็เป็นผลมาจากการมีอยู่ของแคง ที่เรืองอำนาจและมากด้วยวิทยาการล้ำสมัย พลางคั่นด้วยการปล่อยมุกที่เรียกเสียงหัวเราะได้ชะงัดนัก
ไม่ปฏิเสธว่าหนังมาร์เวล ยังคงเป็นลูกสูตรที่ถูกปากถูกคอ ถึงแม้จะคาดเดาได้ เปรียบดั่งการทำส้มตำ และคุณคาดหวังว่ามันจะต้องเปรี้ยวและเผ็ด ไม่ใช่ เค็มและขม เพราะหากเมื่อมันยังใช้วัตถุดิบเดิม ๆ แต่ปรุงรสออกมาอย่างดี จัดวางองค์ประกอบได้สวยงาม จนนำไปสู่ผลสรุปที่น่าพึงพอใจ ผลลัพธ์ ก็จะเป็นความบันเทิงแบบที่เราคาดหวังว่าจะได้รับมันอย่างเต็มเปี่ยม
แต่สำหรับ Ant-Man and the Wasp: Quantumania คือความพยายามของหนังที่พยายามจะทำหลายเป้าหมาย แต่ไม่สามารถยิงได้เข้าเป้าเลยสักอย่าง ทั้งความพยายามในการปูให้แคงเป็นตัวร้ายที่เราควรจะต้องสะพรึงกลัว แต่บทกลับมอบมิติที่แบนราบ จนทำให้เราไม่อาจจะเห็นซึ่งเสน่ห์หรือออร่าของวายร้ายรายนี้ (ซึ่งยังดีที่ได้การแสดงของโจนาธาน เมเจอร์ส มาช่วยอุ้มชู)
นอกเหนือจากนี้ แง่มุมการเมืองมิติควอนตัมก็ดูตื้นเขิน เกินกว่าที่จะให้เราเข้าไปมีอารมณ์ร่วมได้ ด้วยความที่หนังมีเวลาอันจำกัด แต่ประวัติศาสตร์ของมิติควอนตัมที่เราเห็นในหนัง น่าจะยาวนานกว่านั้น และหนังไม่อาจปูพื้นฐานเรื่องราวให้เรารู้สึกถึง “น้ำหนัก” จากภาวะกดทับทางการเมืองได้เลยแม้แต่น้อย
ยิ่งเมื่อหนังทำให้เราเห็นวิธีการแก้ไขหรือทางออกของปมปัญหาในหนัง ที่ทำให้เรื่องราวไปสู่ฉากสู้ใหญ่ของเรื่อง มันกลับมาพร้อมความฉาบฉวยแสนง่ายดาย ก็ยิ่งทำให้หนังแห้งแล้งทางอารมณ์ยิ่งขึ้นไปอีก
แถมด้วยการจัดวางตัวละครในหนัง ก็ดูไม่มีพัฒนาการที่น่าพึงพอใจ ตัวละครแทบทั้งหมดดูไม่มีมิติตัวละครที่เพิ่มเติมหรือแตกต่าง ทั้งจากตอนก่อนและหลังเข้ามิติควอนตัมเลยเสียด้วยซ้ำ แถมการจัดวางทัศนคติบางอย่าง ก็ถูกทำสร้างมาเพื่อเอื้อไปสู่บทสรุปของเรื่องราว ที่ลงท้ายก็ง่ายดายเสียเหลือเกิน
อีกทั้งความเป็นมิติควอนตัมที่น่าตื่นตา แต่มันกลับดูไม่มีชีวิตชีวาเลยแม้แต่น้อย ทั้งการสร้างพื้นหลังฉูดฉาด เต็มไปด้วยสัตว์ประหลาดสุดพิศวง หรือแม้กระทั่งตึกรามบ้านช่อง และเหล่าผู้คนที่ล้วนมีความหลังกับแคง มันดันไม่มีชีวิตชีวาหรือความสลักสำคัญต่อความรู้สึกคนดูเลยด้วยซ้ำ ราวกับว่า มิติควอนตัมถูกสร้างสรรค์ มาเพื่อใช้เป็น “พื้นหลัง” ให้กับตัวละครเท่านั้น
ข้อดีที่ยังมองเห็น คือการที่หนังยังคงรักษากิมมิคการฉกฉวยไว้เล็ก ๆ กับจังหวะการยิงมุกที่เข้าเป้าอยู่ตลอด หลายมุกที่สร้างสรรค์มา ถูกรังสรรค์และขีดเขียนได้ถูกจังหวะ กระนั้นเอง มันเป็นดาบสองคมอยู่ไม่น้อย เพราะหนังไม่เพียงแต่ขาดน้ำหนักทางอารมณ์ ของเรื่องราวการผจญภัยฝ่ามิติควอนตัม และการสร้างสมดุลทางอำนาจที่ถูกปล้นไปภายในมิติเหล่านั้น
แต่มันดันถูกคั่นจังหวะด้วยเสียงหัวเราะ ที่เป็นเป้าประสงค์จากบท ที่ขีดเขียนมาเพื่อผ่อนคลายสถานการณ์.. แม้หนังจะไม่ได้ทำคนดูรู้สึกถึง “ภัยคุกคาม” เลยแม้แต่น้อยก็ตาม
สรุปแล้ว Ant-Man and the Wasp: Quantumania กลายเป็นตัวเปิดเฟส 5 ที่น่าผิดหวัง มาพร้อมความพยายามทั้งหลายแหล่ของหนัง แต่กลับทำไม่ถึงเป้าสักอย่าง ด้วยบทที่มีพื้นฐาน แต่ไม่อาจบรรลุผล ทั้งความพยายามในการสร้างโลกมิติควอนตัมให้น่าตื่นตา แง่มุมการเมืองการปลดแอก และการออกแบบตัวละครแคงให้เป็นวายร้ายที่น่าสะพรึงกลัว แต่กลับตื้นเขินและแบนราบ
แม้ยังดีที่ได้การแสดงของโจนาธาน เมเจอร์ส มาอุ้มชูความน่าสะพรึงกลัวเอาไว้ กับจังหวะการจัดวางมุกที่สร้างเสียงหัวเราะได้อยู่เนือง กระนั้นเอง มันก็เป็นดาบสองคมที่ทำลายตัวหนังเองเช่นกัน รวมถึงทางออกที่แสนฉาบฉวย ก็ยิ่งทำร้ายให้หนังออกมาแห้งแล้ง และน่าจะถูกลืมได้โดยง่าย
3 / 5
Ant-Man and the Wasp: Quantumania (2023)
Directed by Peyton Reed
Written by Jeff Loveness
Based on Marvel Comics

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา