20 ก.พ. 2023 เวลา 05:07 • ปรัชญา

ทุกความความยิ่งใหญ่เริ่มที่จุดเล็กๆ

เราจะไปถึงเป้าหมายได้ ก็ต้องเริ่มจากก้าวแรกเสมอ
อยากจะเมตตา อยากจะรักอย่างเหลือคณา ต้องรักตัวเองให้เป็นก่อน
ความเห็นแก่ตัวเป็นเส้นบางๆ กับเรื่องการรักตัวเอง
พระพุทธเจ้าทิ้งลูกเมีย ครอบครัว เพื่อไปค้นหา และบรรลุธรรม เพื่อกลับมาช่วยเหลือไม่เพียงแค่คนที่ท่านรัก แต่ช่วยคนทั้งโลก ท่านเห็นแก่ตัวรึเปล่า
หากเครื่องบินมีปัญหา แอร์โฮสเตสจะบอกว่า ใส่ออกซิเจนให้ตัวเองก่อนแล้วจึงค่อยใส่ให้กับผู้ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แอร์โฮสเตสแนะนำการเห็นตัวให้เราเสมอใช่ไหม
การเรียนรู้ที่จะรักตัวเอง มันคือการเรียนรู้ที่จะรักคนอื่น
ท่อนหนึ่งของเพลง "ไม่รักตัวเอง" ของ ทา ยา ยัง?
"เมื่อเธอไม่รักตัวเอง ไม่เคยดูแลแม้ตัวเอง
แล้วเธอจะรักฉันยังไง เมื่อเธอไม่รักตัวเอง
ทำตัวไม่มีคุณค่าใด ก็แล้วใครจะรักเธอ"
เรื่องของความรัก ยังเกี่ยวข้องกับการให้ และความขาดแคลน
เราจะให้คนอื่นเราต้องมีเพียงพอก่อน
(ให้คือให้ในสิ่งที่เรามี ยังจำเป็นต้องใช้ แต่ให้กับคนที่จำเป็นกว่า ส่วนทานคือของเหลือที่เราไม่ใช้แล้ว)
ถ้าเรายังขาด เราก็ต้องการ เราจะอยากได้อยากมี อาจจะต้องแย่งชิงเพื่อให้ได้มา
แต่เพราะยิ่งให้ยิ่งได้ อยากได้ความรัก ก็ต้องให้ความรักก่อน และจะให้ได้ เราต้องมีเพียงพอก่อน
แปลกดีที่วิทยาศาสตร์ให้ค่าเฉพาะกับสิ่งที่นับค่าได้ วัดตวงได้ แต่ทำไมคนเราถึงโหยหาความรัก ความรักคือสิ่งจับต้องไม่ได้ ความรักคือความงมงายเรื่องหนึ่ง (ถ้าคิดตามหลักวิทยาศาสตร์ที่คนส่วนใหญ่เชื่อถือ) ความรักมันมีค่าตรงไหน ทำไมคนเราถึงให้ค่าของความรักมากจนบางครั้ง เราสามารถแลกชีวิตของเราได้เลยทีเดียว
ความรักเหมือนภาษากลางของจักรวาล
ความรักมีตัวชี้วัดคือ "ใจ" ที่ไม่ใช่อวัยวะ แต่วัดได้ด้วยความรู้สึก
ใจมันคือจุดเชื่อมโยงระหว่างเรากับจักรวาล ผ่านตัวกลางที่เรียกว่าความรัก
เมื่อความรักสำคัญ ใจจึงสำคัญด้วย
อีกเช่นกัน "ความรู้สึก" ถูกสอนกันตั้งแต่เด็กว่า เชื่อถือไม่ได้ โดยการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ (อีกแล้วครับท่าน) ที่ผู้ครองโลกกำหนดไว้ (อีกแล้วครับท่า) เพราะว่าเขาไม่ต้องการให้เราเชื่อมต่อกับจักรวาล (เข้าใจกันรึยังครับท่านว่าทำไม่เราจะตื่นได้ เราต้องเข้าใจโลกที่มีคนครองก่อน)
เราจะเห็นได้ว่า "ความรัก" คำสั้นๆ แต่ไปผูกพันกับ "ใจ" และ "การให้" ความเมตตา และอีกหลายสรรพสิ่ง ความรักนั้นสำคัญและยิ่งใหญ่ ที่จะได้รับต้องเริ่มจากหน่วยเล็กๆ คือตัวเราก่อน
เราจะรักตัวเองได้ ต้องเข้าใจตัวเองก่อน เรียนรู้ตัวเองก่อน ฟังเสียงร่างกายก่อน การทำอะไรก่อนนี่แหละคือเส้นบางๆ ที่เหมือนเห็นแก่ตัว
การนั่งสมาธิ การอยู่กับตัวเอง คือการฝึกเข้าใจตัวเอง
การรู้จักสังเกต ธรรมชาติของร่างกาย ก็คือการรักตัวเอง เพราะถ้าเราแยกกายแยกจิต ธรรมชาติของร่างกายเรานั้นก็จะพยายามสื่อสารกับเราตลอด
หิวก็ส่งเสียงท้องมาร้อง หนาวก็สั่งตัวสั่นมาฟ้อง สิ่งพวกนี้มันออโต้ ไม่ได้เกิดจากที่สมองไปสั่ง เหตุเกิดก่อนไปบอกให้สมองส่งให้มีปฎิกิริยาให้สังเกต ร่างกายสื่อสารกับเราตลอดเวลา เรียกร้องให้เราเห็นอยู่ทุกเมื่อเชื่อเมื่อวัน
และเช่นกัน ถ้าเรายังไม่เห็น ไม่ใส่ใจตัวเอง เราจะไปใส่ใจใครได้นะ แต่ถ้าเราใส่ใจ เรียนรู้จากร่างกายเรา เราก็จะเข้าใจว่าเวลาหิวแล้วคนอื่นจะรู้สึกยังไง เจ็บปวดเจ็บป่วยจะมีอาการเป็นอย่างไร
ถ้าเรารักตัวเอง เราจะภูมิใจในตัวเอง มีความมั่นใจในตัวเอง ยอมรับข้อดีข้อเสีย และสิ่งที่ตัวเองเป็น และเป็นตัวของตัวเอง อีกแล้ว สิ่งนี้โลกไม่ชอบ เพราะมองว่าไม่ทำตามกฎ ดื้อ หัวแข็ง นั่นปะไร
การจะรักตัวเองมันก็ต้องมีอุปสรรคมาทดสอบเราบ้าง เพราะถ้าเรารักตัวเองได้แล้ว เราจะใช้ใจเป็น และเราจะสามารถเชื่อมต่อกับจักรวาล เพื่อได้รับสิ่งอื่นๆ เกินกว่าจะจินนาการได้ บอกกันไม่ได้ ต้องทำด้วยตัวเองเท่านั้น
อยากได้รับความรัก ต้องรู้จักให้ก่อน
อยากให้ความรัก เราต้องมีมากพอก่อน
ว่าแต่ว่า...วันนี้เรารู้จักความรักดีแล้วหรือยัง
รักตัวเองให้เป็นก่อน ถึงค่อยกล้าไปรักคนอื่นครับ
#กระบี่สีน้ำเงิน
โฆษณา