20 ก.พ. 2023 เวลา 06:08 • การตลาด

ลองวางแผน media ด้วย ChatGPT!

จากกระแส ChatGPT ที่เกิดขึ้นมากมายทั่วโลก หลายคนต่างทึ่งถึงความสามารถของมัน ตั้งแต่เขียนเรียงความ ตอบโจทย์เลข ไปจนถึงเขียน code ดูเหมือนความสามารถของมันหลากหลายและไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ สมกับพลังของ AI
หลายคนเลยลองนำ ChatGPT มาช่วยทำงาน และพบว่า มันสามารถช่วยทำงานได้ดีพอสมควรเลย จากบางงานที่ต้องใช้เวลาหลายวัน เหลือเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น โดยเฉพาะถ้าเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับภาษาต่างๆ
และแน่นอน ในวงการ digital marketing ทั่วโลกเอง ก็มีคนลองเล่นกับ ChatGPT เช่นเดียวกัน
บทความนี้เลยลองตั้งโจทย์ขึ้นมาดูบ้าง เพื่อทดสอบเจ้า ChatGPT กัน
เราสมมุติว่า กำลังจะออกแบรนด์คอนแทคเลนส์ใหม่สู่ตลาดเมืองไทยกัน จึงขอ market research คอนแทคเลนส์ในประเทศไทยกันก่อน
(ซึ่งตอนป้อนคำถาม สะกด contact ผิดเป็น content แต่มันก็ฉลาดพอที่จะแก้ให้เรา ดูจากคำตอบ)
นี่คือสิ่งที่ ChatGPT สรุปเกี่ยวกับประเด็นสำคัญเรื่องตลาดคอนแทคเลนส์ในไทย
1. คนไทยใช้คอนแทคเลนส์เพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มคนอายุ 18-24 ปี
2. คอนแทคเลนส์แบบนิ่มเป็นประเภทคอนแทคเลนส์ที่เป็นที่นิยมสูงสุดเพราะความสะดวกและสบาย
3. คอนแทคเลนส์วันเดียว หรือแบบใช้แล้วทิ้ง ก็เป็นที่นิยมมากขึ้นเช่นเดียวกัน ด้วยเหตุผลด้านความสะอาดและความง่ายในการใช้ที่ไม่ต้องดูแลรักษาอะไรมาก
4. คอนแทคเลนส์สี เป็นสินค้าแฟชั่นที่นิยมมากในหมู่ผู้หญิงวัยรุ่น
5. คนไทยส่วนใหญ่ซื้อคอนแทคเลนส์จากร้านแว่น แต่ก็มีการซื้อผ่านออนไลน์เพิ่มมากขึ้น
6. ความสะดวกและราคาเป็นปัจจัยหลักในการเลือกซื้อคอนแทคเลนส์
7. ผู้บริโภคคนไทย ให้ความใส่ใจเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยสูงที่สุด พวกเขายอมจะจ่ายแพงขึ้นสำหรับแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและน่าเชื่อถือ
8. เรื่องของ eco-friendly และ sustainability ก็เป็นอีกปัจจัยที่จะทำให้พวกเขาเลือกซื้อคอนแทคเลนส์
ข้อต่อไป เราอยากเจาะกลุ่มหลักคือ ผู้บริโภคอายุ 18-34 ปี ที่ใช้ contact lens เป็นประจำ จึงถามถึงพฤติกรรมการใช้งาน media ของคนกลุ่มนี้
ChatGPT ตอบว่า
กลุ่มคนใช้คอนแทคเลนส์เป็นประจำอายุ 18 - 34 ปี เป็นกลุ่มที่ใช้งานสื่อ digital และ social media เป็นหลัก ซึ่งจะอยู่ใน platform อย่าง Facebook, Instagram และ YouTube รวมถึงใช้ messaging app อย่าง Line และ WhatsApp เพื่อติดต่อกับเพื่อนและครอบครัว พวกเขาอาจจะอ่านข่าวและเสพความบันเทิงผ่านสื่อออนไลน์และ video streaming platform ต่างๆ คนกลุ่มนี้คล่องในการใช้เทคโนโลยี่ในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ shopping, การเงิน และกิจกรรมอื่นๆ
ต่อด้วยคำถามว่า แล้วคนกลุ่มนี้ เราควรต้องใช้ช่องทางไหนในการสื่อสารกับพวกเขาเพื่อโปรโมตคอนแทคเลนส์ใหม่ของเรา
ChatGPT สรุปมาให้ว่า เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด ต้องใช้สื่อ digital และ social media ดังนี้
1. Social Media: Facebook และ Instagram โดยใช้โฆษณาแบบเจาะจง (targeted ads) และใช้ influencer marketing เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง
2. ใช้ Google AdWords (search ads) เพื่อจับคนที่กำลังสนใจและ search หา คอนแทคเลนส์
3. E-marketplace อย่าง Lazada และ Shopee
4. Influencer marketing โดยใช้ blogger และ social media influencer ที่มีผู้ติดตามเป็นกลุ่มเป้าหมายของเรา
นอกจากนั้นให้ลองดูสื่อดังเดิมอย่างทีวีและสื่อสิ่งพิมพ์เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น นอกจากนั้นยังแนะนำว่าเราควรวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้สื่อของกลุ่มเป้าหมายอย่างละเอียดและคอยดูผลเพื่อนำไปปรับกลยุทธ์การตลาดเพื่อให้ได้ ROI ที่คุ้มค่าที่สุด
จึงสอบถามต่อว่าให้ช่วยแนะนำ keywords สำหรับการทำ SEM และ SEO ได้ไหม ซึ่งก็ลิส keywords ที่มีประโยชน์นำไปต่อยอดได้ แต่ต้องปรับเป็นภาษาไทยและคำที่คนไทยใช้ search จริง (ต้องใช้ Google Trends และ Keywords Planner ช่วย)
เลยลองให้ ChatGPT ช่วยแปล keywords ที่ลิสเมื่อกี้ เป็นภาษาไทย…
จะเห็นได้ว่า ภาษาไทยของ ChatGPT ยังแย่อยู่มาก แค่แปล “contact lens” เป็น “แว่นตาสัมผัส” ก็ผิดแล้ว (แต่จุดนี้เราสามารถสอนมันต่อได้ โดยระบุไปว่า คนไทยไม่ได้ใช้คำนั้นแต่ใช้คำนี้แทน เป็นต้น)
ข้อต่อไปจึงลองให้ ChatGPT วางแผน media สำหรับโปรโมทคอนแทคเลนส์ใหม่กับคนไทยที่ใช้คอนแทคเลนส์เป็นประจำอายุ 18 - 34 ปีสะเลย
ผลที่ได้คือ
1. โฆษณาบน Social Media เช่น Facebook, Instagram, LINE โดยโฟกัสที่ key message เรื่องความสะดวก ความสบาย และคุณภาพ และใช้ภาพ (visual) ที่น่าสนใจพร้อม CTA ที่เด่นชัดเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายกดเข้าเว็บไซต์หรือเดินเข้าร้าน
2. Influencer Marketing โดยใช้ influencer ที่มีผู้ติดตามเป็นกลุ่มเป้าหมายของเราจำนวนมากๆ และใช้ format แบบ sponsored post, stories รีวิว หรือสาธิตการใช้สินค้า หรือจัดกิจกรรมแจกของ ชิงรางวัล ซึ่งทั้งหมดนี้ ต้องอย่าลืมให้ influencer ใช้ key message เดียวกันกับที่แบรนด์นำเสนอด้วย
3. ใช้ SEM เพื่อให้แบรนด์เราขึ้นอันดับต้นๆ เมื่อมีคน search หาคอนแทคเลนส์
4. Display Ads บนเว็บไซต์ดังๆ หรือผ่าน GDN ใช้ภาพ (engaging visual) ที่น่าสนใจและเน้นเรื่องจุดเด่นของแบรนด์
5. Content Marketing โดยการสร้างเนื้อหาที่มีคุณค่า (valuable content) ที่ให้ข้อมูลที่มีประโยชน์กับกลุ่มเป้าหมาย เช่น ประโยชน์ของการใช้คอนแทคเลนส์ การดูแลดวงตา การใช้คอนแทคเลนส์อย่างปลอดภัย นำเนื้อหาเหล่านี้ขึ้นในเว็บไซต์ของแบรนด์และ social media รวมถึงผ่าน email marketing ด้วย
6. โฆษณาบน E-Marketplace ต่างๆ อย่าง Lazada และ Shopee เพื่อสร้างยอดขายออนไลน์ โดยใช้โปรโมชั่นเป็นตัวดึงดูดให้คนกดสั่งซื้อได้ง่ายขึ้น
โดยรวม สำคัญมากที่ต้องสื่อสาร key message และใช้ tone การนำเสนอแบบเดียวกันบนทุก platform คอย monitor ผลที่ได้อย่างต่อเนื่องและคอยปรับตามความเหมาะสมเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย
ด้วยความอยากรู้เลยถามต่อว่า ถ้าต้องใช้ influencer marketing ช่วยแนะนำ influencer ที่เหมาะสมสำหรับการโปรโมทคอนแทคเลนส์นี้ได้ไหม
ปรากฎว่า ChatGPT แนะนำแต่ดาราเบอร์ใหญ่มา ในความเป็นจริง ถ้าจ้างตามลิสนี้ต้องใช้งบหลายล้านเลยทีเดียว แต่ก็ยังมีแนะนำวิธีการเลือก influencer ที่เหมาะสมมาให้ แต่ก็เป็น best practice ที่ค่อนข้างเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว
เลยบอกให้ ChatGPT เลือก Micro และ Nano มาให้หน่อย แต่ผลที่ได้ไม่ค่อยน่าประทับใจ ถ้าลองไปไล่ตามลิสนี้ดูจะเห็นได้ว่า อาจจะไม่ได้ตรงกับโจทย์ของเราเท่าไหร่ แต่ ChatGPT ก็ปิดท้ายแก้เขินโดยการแนะนำว่า เพื่อการเลือก influencer ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละ campaign แนะนำให้ใช้ digital agency หรือ influencer platform ให้ช่วยหาจะดีที่สุด
สรุป:
โดยสรุปจะเห็นได้ว่า ถ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ market research หรือ stat ต่างๆ อย่างข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานของกลุ่มเป้าหมาย ภาพรวมตลาดคอนแทคเลนส์ในไทย ที่อาจจะมีข้อมูลอยู่บน Internet ทาง ChatGPT สามารถสรุปออกมาได้ดีทีเดียว
รวมถึงการแนะนำ keyword ภาษาอังกฤษสำหรับการทำ SEM SEO ก็สามารถเอามาเป็นไอเดียตั้งต้นทำต่อไปได้เช่นกัน
แต่เมื่อต้องลงรายละเอียดการวางแผน media ตัว ChatGPT ยังแนะนำได้แค่เรื่องพืนฐานเท่านั้น แล้วยิ่งต้องเป็นแผนที่เจาะจงลงไปอีกอย่างการเลือก influencer ให้เหมาะสม ก็ยังทำได้ไม่ดีมากเท่าไหร่
ดังนั้นหากจะลองนำChatGPT ไปใช้ เราสามารถใช้สำหรับการหาไอเดียตั้งต้นและ best practice ต่างๆ เพื่อนำไปทำงานต่อได้ แต่ถ้าให้ลงรายละเอียดอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว เชื่อว่าการใช้ผู้เชี่ยวชาญหรือคนที่เข้าใจด้านนั้นๆ มีประสบการณ์มากพอ ยังคงมีความจำเป็นอยู่มากในการวางแผน digital media ในตอนนี้
***อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลของผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้ AI ก็ระบุว่า หากเราให้ข้อมูลมันเพิ่มเติมละเอียดมากพอและป้อนคำสั่งที่มีประโยชน์ เจ้า ChatGPT ก็อาจจะวางแผน media ได้เก่งขึ้นกว่าตัวอย่างนี้แน่ๆ***
==============================
หากใครอยากรู้ว่าสิ่งที่ ChatGPT แนะนำในการทำ digital marketing นั้น ดีพอไหม มั่วหรือไม่ มาลงเรียนคลาสนี้ของ Digital Marketing Academy
เพราะยังมีรายละเอียดอีกมากมายสำหรับการวางแผน digital media ให้แม่นยำและมีประสิทธิภาพ มากกว่าพึ่งพา ChatGPT
มาเรียนกันว่า agency และแบรนด์ใหญ่ๆ เขาทำ digital media planning กันอย่างไร
The Power of Planning: Digital Media Planning for Success
วางแผนมีเดีย (media planning) อย่างมืออาชีพ ตั้งแต่ต้นจนจบ แบบที่ agency และแบรนด์ใหญ่ทำ
เข้าใจภาพรวมและประโยชน์ของการใช้ digital media ให้ประสบความสำเร็จ
เรียนรู้ขั้นตอนตั้งแต่
> ทำความรู้จักและการเลือกมีเดียที่เหมาะสม
> การขัดเกลากลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน
> การตั้งเป้าหมายและเลือกการวัดผลที่ถูกต้อง
> การจัดสรรงบประมาณ (budget allocation) ที่มีประสิทธิภาพ
> วางแผนช่วงเวลาการขึ้นและระยะเวลาอย่างเป็นระบบ
คลาสนี้เหมาะกับใคร
> นักการตลาดที่ดูแลแบรนด์ ที่มีประสบการณ์ execute media มาบ้างแล้ว (ยิงแอด)
> เจ้าของกิจการ ผู้บริหาร ที่คุมการตลาดเอง เพื่อนำความรู้ไปวางแผนกับทีมงาน
เรียน on-site เต็มวัน 9.00 - 16.00 (มีพักทานอาหารกลางวัน และ coffee break)
เสาร์ที่ 11 มีนาคม
ณ Skyview Hotel
Inbox หรือติดต่อ Line: maemepp
โฆษณา