จากผลการสำรวจพนักงานเกือบ 12,000 คนทั่วโลก ในปี 2023 ของ Cigna International Health พบว่า 91% ของคนอายุ 18-24 ปี กำลังเผชิญกับความเครียดกันอยู่ ซึ่งงานวิจัยนี้ได้ชี้ว่า Gen Z เป็นกลุ่มวัยที่มีความเครียดมากที่สุดในที่ทำงานและกำลังต่อสู้ดิ้นรนเพื่อรับมือกับภาวะนี้อย่างหนัก แล้วยังชี้อีกว่า ชาว Gen Z จำนวน 98% กำลังเผชิญกับอาการหมดไฟ
ซึ่งจากข้อมูลโดย McKinsey and Company ชี้ว่า ชาว Gen Z นั้นรู้สึกว่าค่าจ้างที่ได้รับไม่ได้ช่วยให้ตัวเองมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในช่วงสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน คนวัยนี้จึงต้องใช้เงินน้อยลง ประหยัดเงินมากขึ้น และต้องพยายามมากกว่าคนรุ่นอื่นถึงจะเดินไปสู่เป้าหมายสำคัญที่ตั้งไว้ได้ เช่น การมีบ้านเป็นของตัวเอง เป็นต้น
#ปัญหานี้ส่งผลอย่างไร?
ในระยะสั้น ความเครียดของคน Gen Z จะทำให้เกิดอาการหมดไฟ จนทำให้เลิกทุ่มเทกับการทำงาน ซึ่งจากข้อมูลของ Gallup ในปี 2022 ก็พบว่า Gen Z เป็นกลุ่มที่ไม่มีส่วนร่วมในที่ทำงานมากที่สุด
ในระยะยาว ความเครียดและอาการหมดไฟจะส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานและการเติบโตในหน้าที่การงานของชาว Gen Z เอง และถ้ามองในฝั่งขององค์กรแล้ว ก็จะเห็นได้ว่า พนักงาน Gen Z นั้นมีแนวโน้มที่จะลาออกจากงานมากขึ้น ซึ่งก็ถือว่าเป็นความท้าทายสำคัญที่ทั้งองค์กรและตัวชาว Gen Z เอง จะต้องหาวิธีรับมือร่วมกันต่อไป และที่สำคัญคือภาครัฐเองก็ควรยื่นมือเข้ามาสนับสนุนคนกลุ่มนี้ด้วย เพื่อช่วยให้ประชาชนได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันน้อยลง
1
อ้างอิง
- Are Gen Z the most stressed generation in the workplace? : Megan Carnegie, BBC - http://bit.ly/3IgryMQ