ประสบการณ์ช่างภาพติดตามคณะทางการเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบีย ตอนที่ ๑
ในตอนที่แล้ว ผมพาทุกท่านออกเดินทางติดตามรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไปเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอลสำหรับความร่วมมือหลากหลายสาขา ทางวิชาการและเศรษฐกิจ (BIMSTEC) ครั้งที่ ๑๘ ณ ประเทศศรีลังกา วันนี้ ผมจะพาทุกท่านออกเดินทางสู่ภูมิภาคตะวันออกกลางไปยังประเทศซาอุดีอาระเบีย การเดินทางครั้งนี้จะสนุกและน่าประทับใจแค่ไหน เชิญทุกท่านติดตามไปพร้อมกันครับ
ครั้งนี้ผมได้รับมอบหมายให้ติดตามรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในการเดินทางพาคณะผู้แทนภาครัฐและภาคเอกชนเยือนราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ระหว่างวันที่ ๑๕ – ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๖๕ เพื่อบันทึกภาพกิจกรรมต่าง ๆ ในห้วงการเยือน โดยทริปนี้มีผู้ร่วมเดินทางกว่า ๖๐ ท่าน จากทั้งภาครัฐและภาคเอกชน คณะได้ออกเดินทางด้วยเที่ยวบินพิเศษจากท่านอากาศยานดอนเมืองในเช้า วันอาทิตย์ที่ ๑๕ พฤษภาคม เวลา ๖ นาฬิกา ๓๐ นาที บินตรงสู่กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบียครับ
บรรยากาศคณะเดินทางออกจากประเทศไทย (ที่มา:ผู้เขียน)
อุปทูตซาอุดีอาระเบียประจำประเทศไทยเดินทางมาส่งคณะที่ท่าอากาศยานดอนเมือง (ที่มา: Matichon online)
คณะเดินทางถึงท่าอาศยานกรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย (ที่มา:ผู้เขียน)
คณะใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ ราว ๗ ชั่วโมงก็็ถึงกรุงริยาด เวลาประมาณ ๑๐.๐๐ น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย ๔ ชั่วโมง คณะทยอยลงจากเครื่องบินและพักรับรองก่อนจะขึ้นรถที่ทางซาอุดีอาระเบียจัดไว้ให้เพื่อไปยังโรงแรมที่พักและรับประทานอาหารกลางวัน
ภารกิจแรกของผมคือการไปรับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศที่สนามบิน เนื่องจากท่่านเพิ่งเสร็จจากการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐ สมัยพิเศษ ณ กรุงวอชิงตัน จึงเดินทางมาถึงหลังคณะจากประเทศไทย โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการลงทุนซาอุดีอาระเบีย และอุปทูตไทยประจำราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียรอต้อนรับอยู่ที่สนามบิน เมื่อท่านเดินทางมาถึง ผมและทีมช่างภาพทางการของซาอุดีอาระเบียก็ได้บันทึกภาพ ก่อนทุกท่านออกเดินทางไปยังโรงแรมที่พัก
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเดินทางถึงท่าอากาศยานกรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย (ที่มา:ผู้เขียน)
ในช่วงบ่ายวันนี้มี ๒ กำหนดการที่จะเกิดขึ้นพร้อมกันคือ การหารือทวิภาคีระหว่างรองนายกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการลงทุน ณ กระทรวงการลงทุนซาอุดีอาระเบีย และการศึกษาดูงานเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมซาอุดีอาระเบียของคณะภาครัฐ ณ Kingdom Centre Tower โดยผมได้เดินทางไปกับคณะภาครัฐ และพี่นักการทูตที่เดินทางไปด้วยกันได้แยกไปช่วยบันทึกภาพที่กระทรวงการลงทุนซาอุดีอาระเบีย
ภาครัฐและภาคเอกชนดูงาน ณ Kingdom Tower (ที่มา: ผู้เขียน)
ทัศนียภาพมุมสูงกรุงริยาดจากชั้น ๔๑ (ที่มา: ผู้เขียน)
Kingdom Centre Tower เป็นอาคารสูงที่สุดในกรุงริยาด เมื่อมองลงมาจะเห็นทัศนียภาพของเมือง ๓๖๐ องศา หลายๆ สมาชิกในคณะหลายท่านตื่นเต้นกับทัศนียภาพมุมสูงเป็นอย่างมาก ซึ่งผมก็ได้ช่วยบันทึกภาพแห่งความประทับใจเหล่านี้ให้เป็นที่ระลึกแก่ผู้มาศึกษาดูงานหลายท่านด้วย
หลังจากเสร็จภารกิจที่ Kingdom Centre Tower แล้ว ผมและคณะภาครัฐเดินทางต่อไปยังพระราชวังมุร็อบบา เพื่อรอรับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศที่มีกำหนดการร่วมงานเลี้ยงรับรองอาหารค่ำที่พระราชวังแห่งนี้
ทันทีที่เดินทางมาถึง ผมก็พบกับความตื่นตาตื่นใจอย่างยิ่งจากต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ของฝ่ายซาอุดีอาระเบีย ซึ่งจัดการแสดงท้องถิ่นต่าง ๆ ที่ทั้งดูแปลกตาและน่าสนใจไว้ให้เราชม เช่น การแสดงโชว์เหยี่ยว และการแสดงดนตรีท้องถิ่น ระหว่างรอรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเดินทางมาถึง ผมก็ใช้เวลาส่วนนี้เดินถ่ายภาพคณะภาครัฐและภาคเอกชนไทยที่กำลังสนุกสนานกับกิจกรรมที่ทางฝ่ายซาอุดีอาระเบียจัดขึ้นไปพลาง ๆ
คณะภาครัฐและภาคเอกชนชมกิจกรรมต่างๆ ณ พระราชวังมุร็อบบา (ที่มา:ผู้เขียน)
เวลาประมาณ ๑๙.๐๐ น. รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเดินทางมาถึง ผมได้เก็บภาพบรรยากาศระหว่างที่ฝ่ายซาอุดีอาระเบียนำคณะเยี่ยมชมส่วนต่าง ๆ ของพระราชวังฯ ภาพที่ผมประทับใจอย่างมาก คือ ภาพที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศให้เหยี่ยวเกาะที่แขน ท่านมองและยิ้มแย้มอย่างมีความสุข ผมถ่ายภาพท่านได้ ๓-๔ ภาพแล้วหยุดรอ ทันใดนั้น
ท่านก็พูดขึ้นมาเบาๆว่า “ถ่ายอีก ถ่ายอีก” ผมยิ้มและหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายภาพต่อทันที ก่อนงานเลี้ยงอาหารค่ำจะเริ่มฝ่ายซาอุดีอาระเบียได้มอบป้ายชื่อภาษาอาหรับซึ่งเขียนด้วยลายมือแด่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นที่ระลึกด้วย
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเยี่ยมชมพระราชวังมุร็อบบา (ที่มา:ผู้เขียน)
ในส่วนของอาหารค่ำในคืนนั้น เป็นอาหารพื้นเมืองเพื่อให้ฝ่ายไทยได้สัมผัสรสชาติอาหารท้องถิ่น และ สิ่งที่น่าสนใจคือ ป้ายเมนูที่วางประจำที่นั่งได้ออกแบบมาเป็นกรอบรูปเพื่อให้นำกลับไปเป็นที่ระลึกได้อีกด้วย
งานเลี้ยงรับรองโดยฝ่ายซาอุดีอาระเบีย ณ พระราชวังมุร็อบบา (ที่มา: ผู้เขียน)
ก่อนงานเลี้ยงรับรองจะสิ้นสุด ฝ่ายซาอุดีอาระเบียยังได้จัดการแสดงท้องถิ่นที่สร้างความตื่นเต้นให้ฝ่ายไทยเป็นอย่างมาก จนหลาย ๆ ท่านต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาบันทึกภาพเก็บไว้ นั่นคือการแสดง Saudi War Dance ซึ่งเป็นการร้องเพลงและเต้นรำประกอบการถือดาบฉลองชัยเสมือนนักรบโบราณ มีดนตรีที่มีท่วงทำนองคึกคัก
ฝ่ายซาอุดีอาระเบียได้เชิญท่านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศให้ร่วมถือดาบร้องเพลงด้วย ซึ่งท่านก็เข้าร่วมด้วยอย่างสนุกสนานยิ้มแย้ม จากนั้น คณะก็ได้เดินทางกลับโรงแรมที่พักเป็นอันจบภารกิจในวันแรก
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศร่วมการแสดง Saudi war dance (ที่มา:ผู้เขียน)
ในวันที่ ๒ ของการเดินทาง มีงานสำคัญที่จะเกิดขึ้นในเวลาประมาณ ๑๐.๐๐ น. คือ งาน Saudi-Thai Investment Forum ณ โรงแรมที่พัก โดยงานนี้จะมีผู้เข้าร่วมงานกว่า ๓๐๐ คน หลังจากรับประทานอาหารเช้า ผมได้เริ่มถ่ายภาพของนักธุรกิจ และผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ของทั้งฝ่ายไทยและซาอุดีอาระเบียพูดคุยกันอย่างสนุกสนานที่ชั้น ๑ ของโรมแรม ซึ่งเป็นที่จัดงาน และถือโอกาสเดินสำรวจพื้นที่ด้วย
ฝ่ายซาอุดีอาระเบียเนรมิตห้องประชุมธรรมดาให้เป็นพื้นที่สร้างกระชับความสัมพันธ์ระหว่างนักธุรกิจ ๒ ประเทศได้อย่างน่าประทับใจด้วยการจัดแสงสีเสียงอย่างอลังการ ขณะเดียวกันนั้น ก็มีสื่อของฝ่ายซาอุดีอาระเบียหลายสำนักมารอทำข่าวอยู่แล้ว ผมเริ่มรู้สึกถึงความท้าทายในการแย่งถ่ายภาพที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่มีปัญหา เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่เราสามารถเดินถ่ายภาพได้ ยกเว้นการเดินผ่านหน้าเวทีเท่านั้น
บรรยากาศก่อนเริ่มงาน Saudi-Thai Investment Forum (ที่มา:ผู้เขียน)
เวลา ๑๐.๐๐ น. รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้มาถึงห้องประชุมที่จัดงาน โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการลงทุนซาอุดีอาระเบีย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศซาอุดีอาระเบียรอต้อนรับ ผมได้ถ่ายภาพเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น
ตั้งแต่การกล่าวเปิดงานโดยผู้แทนระดับสูง ทั้งสองฝ่าย การกล่าวถ้อยแถลงโดยสภาหอการค้าซาอุดีอาระเบียและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และการแลกเปลี่ยนบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างสภาหอการค้าของทั้งสองฝ่าย ก่อนผู้แทนจากภาคธุรกิจของซาอุดีอาระเบียจะผลัดเปลี่ยนกันขึ้นเวทีแลกเปลี่ยนมุมมองทางธุรกิจ
บรรยากาศภายในงาน Saudi-Thai Investment Forum (ที่มา: ผู้เขียน)
หลังจากถ่ายภาพกิจกรรมที่สำคัญที่เกิดขึ้นในงานแล้ว ผมก็เตรียมตัวออกเดินทางไปพร้อมกับคณะล่วงหน้า มุ่งสู่กระทรวงการท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบีย เพื่อรอถ่ายภาพการหารือทวิภาคีระหว่างรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบีย ระหว่างนั่งรถ ผมได้เห็นบรรยากาศและสภาพแวดล้อมของกรุงริยาดมากขึ้น สีของอาคารต่าง ๆ ส่วนมากเป็นสีเหมือนทะเลทรายเหมือนกันหมด และสิ่งสำคัญที่ผมสังเกตเห็นคือคนที่นี่ไม่ขี่มอเตอร์ไซค์เลย
เมื่อถึงกระทรวงการท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบียแล้ว ฝ่ายซาอุดีอาระเบียได้นัดแนะเรื่องการถ่ายภาพ ผมกับพี่นักการทูตได้ขอดูห้องหารือ เพื่อดูจุดถ่ายภาพและวัดแสงเพื่อให้ได้ภาพที่สวยงาม หลังจากนั้นไม่นาน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศก็เดินทางมาถึง ผมได้เริ่มบันทึกภาพการพบกันของทั้ง ๒ ฝ่าย
เมื่อการหารือเริ่มขึ้น ผมและคณะที่ติดตามมาบางส่วนรออยู่บริเวณหน้าห้อง ซึ่งฝ่ายซาอุดีอาระเบียได้จัดเตรียมขนมและน้ำไว้ต้อนรับอย่างดี เมื่อการหารือเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ฝ่ายซาอุดีอาระเบียได้ออกมาแจ้งให้ผมเข้าไปในห้องเพื่อบันทึกภาพการมอบของที่ระลึก เป็นอันเสร็จสิ้นภารกิจ
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบีย (ที่มา: ผู้เขียน)
จากนั้น ผมได้เดินทางต่อไปยังกระทรวงการต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย ผมรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็นการประดับธงชาติไทยคู่กับธงชาติซาอุดีอาระเบียตลอดแนวพื้นที่กระทรวงฯ และรูปแบบของอาคารก็ยังแลดูแปลกตาอีกด้วย ภายในอาคารมีความหรูหราอลังการ มีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวดไม่ต่างจากพระราชวัง
แต่น่าเสียดายที่เจ้าหน้าไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ ผมทำได้เพียงแต่มองดูทุกสิ่งทุกอย่างและเก็บไว้เป็นเป็นภาพความทรงจำเท่านั้น และแน่นอนว่า ด้วยการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดนี้ ผมไม่สามารถเข้าไปสำรวจสถานที่และห้องหารือก่อนเวลาจริง เป็นอีกหนึ่งครั้งที่ผมต้องไปลุ้นที่หน้างาน
กระทรวงการต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย (ที่มา:ผู้เขียน)
เมื่อคณะรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเดินทางมาถึง ฝ่ายซาอุดีอาระเบียได้รอต้อนรับหน้าอาคารและพาท่านขึ้นลิฟต์ไปยังอีกชั้น ส่วนผมถูกพาเดินแยกไปอีกทาง ซึ่งผมแอบลุ้นอยู่ว่าจะถ่ายรูปได้ทันหรือไม่ แต่ฝ่ายซาอุดีอาระเบียก็ทำให้ผมสบายใจขึ้นเมื่อขึ้นมาถึงห้องหารือ เพราะเป็นจังหวะเดียวกันกับที่คณะของฝ่ายไทยและฝ่ายซาอุดีอาระเบียก็เดินมาพบกันพอดี ทำให้ผมบันทึกภาพในจังหวะที่รัฐมนตรีทั้ง ๒ ฝ่ายพบกันได้ทัน
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย (ที่มา: ผู้เขียน)
หลังจากเสร็จภารกิจที่กระทรวงการต่างประเทศซาอุดีอาระเบียแล้ว คณะได้เดินทางกลับมายังโรงแรมที่พัก ซึ่งในเวลานั้นยังมีกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ (business matching) ของภาคเอกชนอยู่ ผมจึงได้เก็บภาพบรรยากาศเล็กน้อย ก่อนไปรับประทานอาหารกลางวันที่ห้องอาหารของโรงแรม
กิจกรรมจับคู่ธุรกิจ ณ โรงแรมที่พัก (ที่มา:ผู้เขียน)
ช่วงเย็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมีกำหนดไปเปิดงานส่งเสริมสินค้าและผลิตภัณฑ์ฮาลาลของไทยที่ห้าง Lulu Hypermarket แต่เหตุไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อขบวนรถของผมตามคณะของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไม่ทันเนื่องจากรถหลงทางเล็กน้อย ทำให้ทุกคนรู้สึกกังวล เมื่อรถถึงห้างผมรีบลงจากรถและวิ่งเข้าไปในห้างทันที จึงได้ทราบว่ารองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเดินทางถึงงานสักพักแล้ว และกำลังเดินชมงานอยู่
ภายในงานมีนักข่าวและคณะผู้ติดตามรุมล้อมเต็มไปหมดจนผมไม่สามารถเข้าถึงได้ ต้องอาศัยจังหวะไปรอด้านในบริเวณพิธีเปิดงาน มีผู้เข้าร่วมงานที่นั่งรออยู่เป็นจำนวนมากแล้วทั้งฝ่ายไทยและซาอุดีอาระเบีย เมื่อรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวเปิด ผมได้บันทึกภาพช่วงที่นั้น และบรรยากาศรวมๆ ของผู้มาร่วมงาน งานนี้มีสื่อท้องถิ่นของซาอุดีอาระเบียมาร่วมทำข่าวด้วยจึงต้องแย่งชิงจุดถ่ายภาพกันเล็กน้อยเพื่อให้ได้มุมที่ดีที่สุด
บรรยากาศงานส่งเสริมสินค้าและผลิตภัณฑ์ฮาลาลของไทยที่ห้าง Lulu hypermarket (ที่มา: ผู้เขียน)
เวลาประมาณหนึ่งทุ่มเศษคณะได้ออกเดินทางจากห้างสรรพสินค้าไปยังสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงริยาด เพื่อรับประทานอาหารค่ำ คณะทั้งหมดทยอยเดินทางถึงสถานเอกอัครราชทูตฯ ผมและคณะผู้ติดตามนั่งพักอยู่ภายในอาคาร และมีโอกาสผลัดกันถ่ายภาพคู่กับท่านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ผมเองก็ได้ถ่ายภาพคู่กับท่่าน ซึ่งเป็นภาพที่ผมประทับใจมาก ระหว่างการรับประทานอาหารค่ำ
ผมเก็บภาพบรรยากาศเล็กน้อยๆ ซึ่งฝ่ายไทยและซาอุดีอาระเบียพูดคุยกันด้วยความสนุกสนาน หลังรับประทานอาหารค่ำเสร็จ คณะทั้งหมดก็ถ่ายภาพหมู่เป็นที่ระลึก นับว่าเป็นการถ่ายรูปหมู่ครั้งแรกของคณะที่เดินทางครั้งนี้ ด้วยจำนวนคนที่มากก็เกิดความยากลำบากเล็กน้อยในการจัดคนให้ยืนอย่างสวยงาม แต่ฝ่ายซาอุดีอาระเบียได้ช่วยจัดการให้ทุกคนได้อยู่ในภาพร่วมกันอย่างเป็นระเบียบ เหมาะสม และสวยงาม
บรรยากาศการรับประทานอาหารค่ำ ณ สถานเอกอัครทูตไทย กรุงริยาด (ที่มา:ผู้เขียน)
ภารกิจในวันที่ ๒ สิ้นสุดลงด้วยความสนุกสนานและเหนื่อยล้า แต่ยังเหลือภารกิจนี้ยังเหลือ ๒ วัน โดยในวันถัดไป คณะของเราจะออกเดินทางไปสู่อีก ๒ เมือง จะสนุก ตื่นเต้น น่าประทับใจแค่ไหนติดตามกันต่อในบทความหน้านะครับ
ผู้เขียนขณะปฏิบัติงาน ณ กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย
นายณัฐวิชญ์ วงศ์โกสิตกุล
เจ้าหน้าที่จัดทำภาพและสื่อประชาสัมพันธ์
กรมสารนิเทศ
- 8
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
