22 ก.พ. 2023 เวลา 11:41 • ความคิดเห็น

เด็กคนหนึ่งเดินเข้ามาหาผม

รอยยิ้มของเขาค่อย ๆ ขับน้ำตาออกมาอาบสองแก้ม
ผมเห็นเป็นตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น
จึงเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
“อยากคุยกับครูใช่ไหม”
เขาเช็ดน้ำตา
“พ่อกับแม่ของหนูแยกทางกัน”
ผมยืนนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งหลังจากได้ยินประโยคดังกล่าว
ใจของผมก็พลอยเจ็บปวดขึ้นมา
เขาค่อย ๆ เล่าเรื่องราวโดยไม่รอว่าผมจะพูดอะไรรึเปล่า
ผมทำได้เพียงสบตาและฟังเรื่องราวของเขา
ครูไม่มีคำปลอบโยนใดใด
หลังจากนั้นผมจึงเอ่ยคำพูดออกไปเมื่อเขาหยุดเล่าเรื่องราวของเขา
...
ไม่มีใครเข้าใจหรอกว่าเรารู้สึกอย่างไร
ตราบใดที่เขาไม่ได้เจอแบบที่เราเจอ
แต่สิ่งที่เราทำได้ตอนนี้
แยกก่อนนะว่า พ่อแม่แยกทางกัน นั่นคือปัญหาของพ่อแม่ เราไม่สามารถแก้ไขอะไรได้
แต่ผลที่มากระทบนั่นคือปัญหาของเรา
...
ตอนนี้เราอยู่กับใคร
เราอาจไม่สามารถเข้มแข็งได้ในตอนนี้
แต่เราต้องดูแลตัวเองเพื่อเป็นกำลังใจให้คนที่เราอยู่ด้วย
ไม่มีใครตอบได้ว่าเราจะผ่านปัญหานี้ไปได้อย่างไร
แต่ใจเราเท่านั้นที่จะเข้มแข็งและก้าวผ่านมันไปได้
...
ก่อนจบการสนทนา
...
ครูยังอยู่ตรงนี้นะ อาจจะไม่ได้ช่วยให้ปัญหาคลี่คลาย
แต่ให้รู้ว่าครูเป็นอีกกำลังใจให้ผ่านปัญหาไปได้
ปัญหาไหนแก้ได้ก็แก้ แก้ไม่ได้ก็ปล่อย...ช่างมัน...บ้าง
...
น้ำตาของเขาถูกเช็ดหมดไปจากสองตา
แต่ดวงตายังแดงทิ้งร่องรอยว่าเคยร้องไห้
ไม่มีใครสัมผัสความเจ็บปวดนั้นได้ลึกซึ้งเท่าตัวของเขาเอง
บางครั้งเราอาจลืมไปว่าการกระทำของเรามีผลกระทบต่อคนที่อยู่แวดล้อม
พ่อแม่คือคนสำคัญของลูก
พ่อแยกทางกับแม่
แต่พ่อแม่ไม่ควรแยกทางจากลูก
...อย่าปล่อยให้ใครต้องร้องไห้เพียงลำพัง
ณ. หนม
#กากพร้าว
โฆษณา