What Happened to You? แค่เข้าใจก็ไม่เจ็บแล้ว
ดูเหมือนว่าสังคมสมัยนี้จะให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตกันมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องบาดแผลทางใจ (truama) แต่ว่ากันตามจริง เราเข้าใจเรื่องนี้แค่ไหน หนังสือเล่มนี้ชี้ให้เราเห็นว่า ไม่ใช่แค่ปัจเจกบุคคลอย่างเรา ๆ ที่ไม่เข้าใจเรื่องบาดแผลทางใจ แต่แม้กระทั่งระบบบริการสุขภาพจิตเองก็อาจยังไม่เข้าใจเรื่องนี้อย่างถ่องแท้ด้วยซ้ำ
ก่อนอื่นเลยเมื่อพูดถึงบาดแผลทางใจ คนมักคิดว่ามันจะเกิดขึ้นเฉพาะกับคนที่เจอเหตุการณ์ร้ายแรงสุดขีด แต่จริง ๆ แล้วมันสามารถเกิดขึ้นได้จากเหตุการณ์ที่เราไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่ามันทำร้ายเราอยู่ เคยไหมที่สงสัยว่าทำไมตัวเองเป็นคนขี้ระแวง เป็นคนที่ชอบเอาใจผู้อื่นจนตัวเองลำบาก กลัวการนอนคนเดียวตอนกลางคืน ไม่เคยประสบความสำเร็จในความสัมพันธ์ หรือคิดว่าตัวเองไม่ดีพอ
พฤติกรรมเหล่านี้อาจเป็นผลกระทบจากบาดแผลทางใจในวัยเด็กตั้งแต่เรายังไม่รู้ความ หรือเด็กจนลืมไปแล้ว แต่ความเป็นจริง บาดแผลทางใจที่ส่งผลกับคนเราได้มากและฝังลึกที่สุด เกิดขึ้นในช่วงต้นของชีวิต ซึ่งอาจหมายถึงไม่กี่เดือนแรกด้วยซ้ำ
ดร. บรูซ ดี. เพอร์รี ผู้เชี่ยวชาญด้านสมองและบาดแผลทางใจในวัยเด็กบอกว่า การเลี้ยงดูเด็กในช่วงแรกส่งผลต่อการที่สมองสร้างมุมมองต่อโลกของเขา ในหนังสือเล่มนี้ ดร. เพอร์รีและโอปราห์ วินฟรีย์ สร้างบทสนทนาที่ค่อย ๆ พาเราไปรู้จักบาดแผลทางใจมากขึ้น โอปราห์ ผู้เคยพูดคุยกับคนที่มีบาดแผลทางใจมามากมาย ถ่ายทอดเรื่องราวเหล่านั้นให้เราฟัง และเธอยังเปิดใจเล่าเรื่องของเธอเองด้วย
ส่วนดร.เพอร์รี จะคอยให้ความเข้าใจกับกรณีตัวอย่างเหล่านั้น โดยอธิบายว่าสมองของเราทำงานอย่างไร ทำไมคนเราจึงเกิดบาดแผลทางใจ และมันสะท้อนออกมาเป็นพฤติกรรมที่ผิดปกติได้อย่างไร
หนังสือเล่มนี้จะทำให้คุณเปลี่ยนวิธีคิดในการมองคนอื่น โดยเฉพาะคนที่คุณเคยคิดว่า “เขาเป็นบ้าอะไรของเขา” เพราะการจะทำความเข้าใจผู้คนที่มีบาดแผลทางใจ สิ่งสำคัญที่สุดที่ดร. เพอร์รี และโอปราห์ เน้นย้ำคือการเปลี่ยนคำถามจาก “คุณเป็นบ้าอะไรเนี่ย” เป็น “คุณผ่านอะไรมา” การแสดงออกของคนเราล้วนมีที่มาที่ไป หากคุณอยากจะเข้าใจใครสักคนอย่างแท้จริง คุณต้องเรียนรู้อดีตของเขา
ความไม่เข้าใจเรื่องบาดแผลทางใจมีให้เห็นทั่วไปในระบบต่าง ๆ ของสังคม ซึ่งนอกจากระบบบริการด้านสุขภาพจิตอย่างที่กล่าวไปข้างต้น มันยังอยู่ในระบบการศึกษา เช่น คุณครูที่ไม่เข้าใจเด็กที่อารมณ์ร้อน มันยังอยู่ในการบังคับใช้กฎหมาย เช่น การลงโทษคนทำผิดโดยไม่มองถึงปัญหาที่แท้จริงของคนคนนั้น เป็นต้น ในระดับสังคมหนังสือเล่มนี้น่าจะทำให้หน่วยงานต่าง ๆ เห็นความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนการทำงาน
ในระดับปัจเจกบุคคล หนังสือเล่มนี้อาจไม่ได้ทำให้ใครหายจากบาดแผลทางใจได้ราวกับยาวิเศษ แต่เชื่อเหลือเกินว่ามันจะทำให้คนเราเข้าอกเข้าใจกันมากขึ้น และเราอาจได้สังคมที่ทุกคนพร้อมจะเยียวยาซึ่งกันและกัน
หมายเหตุด้วยรัก: หนังสือเล่มนี้อาจทำให้คุณร้องไห้ แต่เชื่อเถอะว่ามันคุ้มค่าที่จะเสียน้ำตา
"WHAT HAPPENED TO YOU ? แค่เข้าใจก็ไม่เจ็บแล้ว" โอปราห์ วินฟรีย์ และ "ดร. บรูซ ดี. เพอร์รี" เขียน วุฒิชัย กฤษณะประกรกิจ แปล สำนักพิมพ์ Amarin HOW-TO
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
