วัดนาคปรก
วัดสุดท้ายแล้วสำหรับทริปนี้ ถ้าใครสนใจเรื่องของอร่อยก็ติดตามตอนต่อไป จะเป็นอาหารประเภทเส้นเจ้าอร่อยแถววัดนาคปรกบ้าง เพราะแถวนั้นมีของอร่อยไม่น้อยกว่าตลาดพลูเลย มีทั้งเจ้าเก่าดั้งเดิม และแม่ค้าพ่อค้าหน้าใหม่
มาคุยเรื่องวัดนาคปรกกันดีกว่า วัดนี้มีสถานะเป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย มีเนื้อ 13 ไร่ 1 งาน 64 ตารางวา สำหรับอาณาเขตของวัด มีดังนี้
ทิศตะวันออกจรดกับวัดนางชีโชติการาม
ทิศตะวันตกจรดกับโรงเรียนวัดนาคปรก
ทิศเหนือจรดกับคลองวัดนาคปรก
ทิศใต้จรดกับคลองบางหว้า
วัดนาคปรกได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา พ.ศ. 2291 กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียน “วัดนาคปรก” เป็นโบราณสถาน ตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม 2520 ในปัจจุบัน มีพระกิตติโสภณวิเทศ (เศรษฐกิจ สมาหิโต) เป็นเจ้าอาวาส
วัดนาคปรก มีอายุเก่าแก่เกือบ 300 ปี เดิมที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “วัดปก” เนื่องจากตั้งอยู่กลางสวนป่าที่ปกคลุมไว้ สันนิษฐานการสร้างวัดว่า ประชาชนชาวบ้านในชุมชนร่วมกันสร้างขึ้น ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย
ต่อมาวัดเสื่อมโทรมลง จนในสมัยรัชกาลที่ 3 เจ้าสัวพุก แซ่ตัน หรือ พระบริบูรณ์ธนากร และภรรยาซึ่งเป็นคนไทย ได้บูรณะอุโบสถ และยังได้ขอพระราชทานพระพุทธรูปสุโขทัยที่รัชกาลที่ 1 ทรงให้รวบรวมจากหัวเมืองต่าง ๆ มาเป็นพระประธาน โดยพระประธานองค์ประดิษฐานที่วิหารนั้นมีพญานาค 7 เศียรแผ่พังพาน เป็นรูปปูนปั้น องค์พระเป็นพระปางมารวิชัยสัมฤทธิ์ ถือได้ว่าเป็นพระนาคปรกแห่งเดียวที่องค์พระพุทธรูปเป็นปางมารวิชัย และถือได้ว่าเป็นพระนาคปรกที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพมหานครชาวบ้านจึงได้เรียกว่า วัดนาคปรก
ที่นี่ถือว่ามีสิ่งโดดเด่นหลายที่ในวัดแห่งนี้ จึงมีผู้คนเนื่องแน่นเลยที่เดียวไม่ต่างจากวัดปากน้ำ
ที่แรกที่อยากแนะนำ จะเป็นพญานาคสีขาวองค์ใหญ่ อยู่ด้านหน้าทางเข้า โดยตรงลำตัวของพญานาค จะมี ช่องบรรจุดวงใจนาค ให้เรานำเหรียญบาทไปใส่ อธิษฐานขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล
ส่วนที่ 2 พ่อหมอโกมารภัทร์ ซึ่งเป็น บรมครูแห่งการแพทย์แผนไทย อยู่ก่อนเข้าวิหารหลวงพ่อนาคปรก ซึ่งเป็น บรมครูแห่งการแพทย์แผนไทย หากใครเจ็บป่วย ไม่สบาย ลองกราบไหว้ขอพร
ส่วนที่ 3 หลวงพ่อนาคปรก พระพุทธรูปปางมารวิชัยจากเมืองสุโขทัย มาประดิษฐานไว้ในวิหาร แล้วสร้างพญานาค 7 เศียรด้วยปูนปั้น ขนดกายขึ้น 4 ชั้นแผ่พังพานขึ้นเหนือเศียรพระ องค์พระเป็นปางมารวิชัย มีขนาดใหญ่ซึ่งมีความยาวหน้าตัก 39 นิ้ว เนื้อโลหะสัมฤทธิ์ปิดทอง รวมทั้งาดภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในวิหาร ด้านหลังเล่าเรื่องราวการเสด็จลงจากดาวดึงส์ และด้านหน้าเล่าเรื่องราวการชนะมารของพระพุทธเจ้า ที่มีความสวยงามสมบูรณ์
ส่วนที่ 4 ท้าวเวสสุวรรณ ก็มีอยู่ไม่ไกลจากอุโบสถ มาขอโชคลาภ หรือให้ปู่เวสคุ้มครอง ปัดเป่าสิ่งไม่ดี
ส่วนที่ 5 หลวงพ่อเจ้าสัว อายุ 700 ปี บนอุโบสถขาว มีบันไดพญานาคราชสีขาวตั้งตระหง่านฟ้าดูเจิดจรัสดั่งดอกอุบลขาวที่กำลังเบิกบานรับแสงอาทิตย์ในยามเช้า ให้ผู้คนได้สัมผัสถึงความสงบและความสุขเมื่อได้พบเห็น
หลวงพ่อเจ้าสัวประดิษฐาน อยู่บนฐานชุกชีที่ทำเป็นรูปมังกร มีลวดลายจิตรกรรมเป็นศิลปะทางจีนโดยแต่ละลวดลายนั้นมีความหมายในทางฮวงจุ้ย ซึ่งสื่อถึงความมั่งคั่งร่ำรวยความมีอายุยืนชื่อเสียงและก็อำนาจบารมี และไม่ควรลืมลงไปรอดพระอุโบสถ ซึ่งมีความเชื่อกันว่าหากผู้ใดมีดวงชะตาที่ไม่ดีหรือต้องการยกปรับปรุงดวงชะตา ลองแวะไปเยือนดู
ส่วนที่ 6 ลูกนิมิตสีทอง โดยนำแผ่นทองปิดบนลูกนิมิต และนำเหรียญบาทวางบนลูกนิมิต เพื่อฝากดวงชะตา ให้มีเรื่องดี ๆ เข้ามา ปัดเป่าเรื่องร้ายออกไป ซึ่งอยู่ด้านข้างอุโบสถขาว
ส่วนที่ 7 รอยพระพุทธบาทอินเดีย สามารถปิดทอง และนำเหรียญบาทวางไว้ที่รอยพระพุทธบาท และด้านหน้ารอยพระพุทธบาท จะมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่กรวดน้ำและปะพรมเพื่อความเป็นสิริมงคล
ส่วนที่ 8 เจ้าแม่กวนอิม ใกล้กับห้องน้ำ อยู่ด้านหน้าของวัดเลย
เจ้าแม่กวนอิม
หลวงพ่อนาคปรก
หลวงพ่อเจ้าสัว
บันไดพญานาคราชสีขาว
ลูกนิมิตสีทอง พร้อมทั้งพระพุทธรูปอริยะสงฆ์
บริเวณที่รอดพระอุโบสถ
ท้าวเวสสุวรรณ
อุโบสถขาว
ทางเข้าอุโบสถขาว
สำหรับวัดนี้ขอก็จะมีสิ่งที่น่าสนใจประมาณนี้ ก็ขอจบทริปไหว้พระ 9 วัดกับฝั่งธนฯ แต่เพียงเท่านี้ ตอนต่อไปจะเป็นเมนูเส้นแสนอร่อยแทน
อ้างอิง
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
