24 ก.พ. 2023 เวลา 00:11 • ไลฟ์สไตล์

24-FEB-23

เย้ เงินเดือนเข้าบัญชีแล้ว แต่คงได้ใช้นิดหน่อย เพราะต้องเอาไปใช้หนี้ หนี้ท่วมหัวค่ะคุณ ฮ่าๆๆ
วันนี้มีอะไรอยากเล่าบ้างน้าา... นู่นนี่แล่นเข้ามาในหัวเร็วเชียว สรุปว่า เอาไป 25 นาทีเหมือนเดิมละกันนะ ตอนแรกว่าจะให้แค่ 15 นาทีเพราะลุกจากเตียงช้า เวลาน้อย ต้องสระผม แต่พอดีว่าสุดที่รักไม่มาทำงานวันนี้ เลยไม่ต้องรีบละ มีเวลาเพิ่มขึ้นนิดหน่อย
เมื่อวานได้ปะทะกับเจ้านายใหม่เป็นครั้งแรก ไม่ถึงกับปะทะหรอก คือเราอยากคุยกับเค้าเพื่อที่ว่าจะได้เคลียร์กันเรื่องงานบ้าง ไรงี้ มันมีงานบางส่วนที่ต้องรีบคุย ถ้าไม่คุยงานมันเดินต่อไม่ได้ แล้วหน่วยงานอื่นเค้าต้องมารอ
เรารู้สึกว่าเจ้านายใหม่เรา เค้าเป็นคนที่มี single focus นะ เค้าไม่สนใจเรื่องอื่นนอกจากเรื่องที่เราคุยกันนะตอนนั้น เค้าไม่มีความรู้สึกว่าอยากจะถามไถ่ สนใจใคร่รู้อะไรเรื่องของทีมฝั่งเราเลย ไม่รู้สิ ไม่มีความเป็น people person เท่าไหร่นะ มีแต่การทำงานที่ออก style แบบ... เอาให้จบ เอาให้ดี แค่นั้นพอ หมดหน้าที่ชั้นแล้ว ประมาณนี้
แต่เราอาจจะคิดผิดก็ได้นะ เราคิดว่าเราต้องใช้เวลาร่วมกับเค้าให้มากขึ้น เราอยากเข้าใจเค้านะ ทำไมเค้าจะต้องเครียดและทำตัวเหมือนยุ่งกับการทำงานตลอดเวลา ทำไมเค้าถึงรู้สึกว่าทุกอย่างเป็นภาระเค้า เค้าดูไม่ friendly เลยอะ แล้วดูลูกน้องกลัวเค้าทุกคน ทำไมเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แบบที่เราเห็นเมื่อวานเค้ายังต้องมา lead เอง ระดับอย่างเค้า ไม่น่าต้องมาจี้ๆ สั่งๆ กับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้
นั่นแหละ เราเลยคิดว่า สิ่งที่เราจะเจอมันคงเป็นเรื่องของความอึดอัด การที่คนในทีมเงียบๆ อยู่แบบหวาดกลัว ไม่กล้าตัดสินใจ ไม่กล้าถาม ไม่กล้า challenge ไม่กล้าแสดงความคิดเห็น เราคิดว่า บทบาทแรกของเราคงเป็นการไปนั่งฟังคนทางนู้นระบายความในใจกัน และปิดท้ายด้วยการบอกกับเราประมาณว่า "เดี๋ยวคุณก็จะรู้เอง อยู่ให้รอดแล้วกัน" แล้วพวกเค้าก็คงจะรอดูเรากับนายใหม่ฟาดกัน หรือวัดศักยภาพเราด้วยการหว่านล้อมให้เราไปฟาดนายเค้าให้
เราเคยเจอสภาพแบบนี้แล้วล่ะ งานที่เก่าเราก็เป็นแบบนี้แหละ ลูกน้องมีแต่เด็กๆ อายุน้อย ประสบการณ์การทำงานน้อย ส่วนคนที่เป็นหัวหน้าก็แก่ แก่แบบ เลยวัยเกษียณไปเยอะมาก แก่แบบทั้งองค์กรเนี่ย มีช่องว่างระหว่างวัยชนิดที่ต้องหาคนซัก 10 คนมาคั่นระหว่างกลางเพื่อให้มี balance เลยแหละ
แล้วสิ่งที่เจอคือ เราอยู่ระหว่างกลางไง อายุเราก็ไม่ได้เยอะมาก แต่ก็ไม่น้อยเท่าน้องๆ ในทีม แล้วเราเป็นหัวหน้าแก๊งเด็กๆ ลูกน้องไง พวกนี้มันก็ใส่มากับเราเยอะสิ ทั้งบ่น ทั้งด่าพวกเจ้านายแก่ๆ เราก็บ้าจี้ อยากสู้เพื่อความถูกต้อง ความโปร่งใส่ และความเท่าเทียม สุดท้ายน้องๆ มันไม่สู้ด้วยไง มันเห่าลับหลังอย่างเดียว แล้วมันปล่อยให้เราไปหน้าโง่ไฝว้กับพวกเจ้านายแก่ๆ เองคนเดียว แล้วมันก็นั่งเงียบๆ ยิ้มๆ หัวเราะเยาะเรากัน
นี่ไง เราก็เลยเป็นหมาน่ะสิ สุดท้ายเราอยู่ไม่ได้หรอก ไปดีกว่า แต่เรารู้นะ ว่าถ้าเราฟาดด่ากราดทุกอย่างจริง อีพวกป้าแก่ๆ ก็สู้เราไม่ได้หรอก เค้าต้องยอมเรา แต่กว่าจะไปถึงจุดนั้น เราคิดว่ามันไม่คุ้ม เพราะเราเห็นป้าแก่ๆ บางคนเริ่มแอบร้องไห้ น้อยใจ ว่าเราอย่างนู้นอย่างนี้ วิจารณ์เราในเรื่องที่มันเลยเถิดนอกจากงานแล้ว ส่วนน้องๆ ในทีมก็อยู่อย่างงงๆ ใจนึงก็ปล่อยให้เราเป็นหมา ส่วนอีกทางก็ไม่อยากเอาใจพวกป้าแก่ๆ มันอีหลักอีเหลื่อไปหมด พอเราได้ opportunity ที่ใหม่ เราเลยไปดีกว่า
ทุกวันนี้ที่เราได้ยินข่าวคราวจากที่ทำงานเก่า มันก็ยังคงเป็นไปในลักษณะเดิมนะ มีเปลี่ยนแปลงบ้างนิดหน่อย แต่ไม่ได้เกิดจากเราหรอก มันเกิดจากวัยของพวกป้าแก่ๆ ที่เค้าเริ่มถดถอยทางร่างกาย เริ่มต้องลดเวลาทำงานของตัวเองลง จนสุดท้ายบางคนต้องวางมือไปรักษาตัวอย่างจริงจัง มันเลยกลายเป็นช่วงเวลาของคนรุ่นใหม่ ซึ่งรุ่นป้าแก่ๆ ต้องยอมไปเอง
ก็ไม่รู้จะรู้สึกยังไงกับองค์กรแบบนั้นนะ ... มันไม่ใช่ที่ทำงานสำหรับหลายๆ คนหรอก มันเป็นที่ที่ให้พวกป้าๆ ลุงๆ ที่เกษียณกันแล้ว มาสังสรรค์กันมากกว่า มาเข้าสังคม ไปทำกิจกรรมดีๆ ทำบุญทำทาน แจกเงินให้เด็กยากจน ให้คนมาหมอบกราบพวกเค้ากันเองมากกว่า เค้าเก็บงานแบบนี้ไว้เพื่อการเข้าสังคมของพวกเค้าเอง ปรับเปลี่ยนเงินเดือนกันเองตามความพอใจ เอาเงินองค์กรไปใช้ตรงนั้นตรงนี้ สนุกสนานกันใหญ่ มันก็โอเคอะนะ ถ้าไม่ใช่ว่าเงินขององค์กรส่วนหนึ่งมันเป็นเงินที่ชาวบ้านเค้าบริจาคให้เด็กยากจนน่ะ
นั่นแหละ สาเหตุใหญ่ที่ทำให้เราไม่อยากทำงานที่นั่นอีก เรารับไม่ได้ที่เห็นเค้าเอาเงินของหน่วยงานไปใช้ในเรื่องส่วนตัวเยอะเกินไป พอเราทักท้วง เค้าก็บอกว่า กิจกรรมท่องเที่ยว กินโต๊ะจีน ต่างๆ ที่ต้องใช้เงินขององค์กรก็เพราะอยากดูแลทีมงานเด็กๆ อยากให้เด็กๆ ได้กินดีๆ แต่มันไม่ได้จำเป็นขนาดนั้นไง ในวันที่พวกเราลูกทีมต้องออกไปหาเงิน ไปเรี่ยไรเงิน มันเหนื่อยนะ และทำไมเราต้องไปอ้างว่าเอาเงินไปให้เด็กยากจนล่ะ ทั้งๆ ที่เงินเยอะมากเอาไปใช้เรื่องกินนอนเที่ยวสนองตัณหาส่วนตัวของพวกป้าๆ
ถ้ามองว่าเรื่องพวกนี้เป็น reward ให้ป้าๆ ที่ทำงานมานาน มันก็ได้นะ แต่ต้องทำสัดส่วนการใช้จ่ายให้ดี โปร่งใส่นะ เพราะรายได้ที่ได้มา มันเป็นเงินบริจาค
จบก่อน หมดเวลาแล้ว
โฆษณา