Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
แพนด้า5บาท
•
ติดตาม
24 ก.พ. 2023 เวลา 04:35 • บันเทิง
Dybbuk Box ตอนที่ 2 ข้อสงสัย
Dybbuk Box หรือ Dibbuk Box เป็นเรื่องราวของกล่องอาถรรพ์ที่โด่งดัง เรื่องราวเริ่มเป็นที่รู้จักในปี 2003 เมื่อเควิน แมนิส(Kevin Mannis) ได้โพสขายสินค้าที่เขาตั้งชื่อว่า Dibbuk Box ในeBay พร้อมบรรยายเหตุการณ์ผิดปกติที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ต่อมาโจเซฟได้ซื้อมันไปเขาเก็บมันไว้ได้เพียงไม่กี่เดือนก็นำมันกลับมาขายในeBay แบบเดียวกับที่เควินเคยทำ โจเซฟเผชิญกับเรื่องราวผิดปกติในระหว่างที่ครอบครองกล่องใบนี้เช่นกัน เขาประกาศขายมันในเดือนมกราคม ปี 2004
ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2004 กล่องก็ได้เจ้าของคนใหม่เป็น เจสัน แฮ็กซ์ตัน(Jason Haxton) ผู้อำนวยการของพิพิธภัณฑ์ Osteopathic Medicine ในเคิร์กสวิลล์ รัฐมิสซูรี เจสันเคยได้ยินเรื่องราวของกล่องใบนี้มาก่อนจากเด็กฝึกงานที่อยู่บ้านหลังเดียวกับโจเซฟ หลังจากเจสันได้กล่องใบนี้ไปเขาก็เริ่มศึกษามัน ด้วยความเป็นนักวิชาการเจสันศึกษากล่องใบนี้อย่างเป็นระบบ และแลกเปลี่ยนข้อมูลกับผู้เชี่ยวด้านต่างๆ
เจสันเชื่อว่าพลังที่บรรจุอยู่ในกล่องใบนี้มีสภาวะเป็นกลาง พลังของมันจะปรากฏออกมาแตกต่างกันในผู้สัมผัสแต่ละคน เขามีอาการผื่นขึ้นและเห็นภาพแสงเงาแปลกๆในตอนที่เขาพึ่งได้มันมา เพื่อให้พลังที่อยู่ในกล่องใบนี้สงบเจสันใส่ Dibbuk Box ไว้ในหีบไม้อะคาเซียที่ภายในบุด้วยทองคำ24กะรัต แล้วใส่มันไว้ในกล่องกันกระเทกเกรดทางการทหารอีกที เขาเอามันไปไว้ในสถานที่บางแห่งในที่ดินของเขาเพื่อไม่ให้มันถูกรบกวน นอกจากนี้เจสันยังได้สร้างกล่องจำลองขึ้นมาอีก 1 ชุดเพื่องานทางด้านสื่อ
ในปี 2011 หนังสือที่ชื่อ The Dibbuk Box แต่งโดยเจสัน แฮ็กซ์ตันได้ออกวางขาย ด้วยความที่เจสันมีชื่อเสียงทั้งในแวดวงวิชาการ และในชุมนุมเรื่องลี้ลับอาถรรพ์ ทำให้เรื่องราวของ Dibbuk Box แพร่ไปในวงกว้าง และถูกใช้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างภาพยนตร์เรื่อง The Possession ที่ออกฉายในปี 2012
จุดเด่นที่ทำให้หนังสือของเจสันมีความน่าสันใจคือเขาบอกเล่าเรื่องราวของกล่องใบนี้ผ่านมุมมองของนักวิชาการ ประเด็นในหนังสือมีความก้ำกึ่งกันระหว่างความลี้ลับอาถรรพ์กับความเป็นไปได้ที่จะเป็นเรื่องหลอกลวง แต่เจสันก็ไม่ได้สรุปว่ามันควรจะเป็นไปในทางใดปล่อยให้เป็นคำถามปลายเปิดที่ผู้อ่านต้องตัดสินใจเอาเอง
เจสันเก็บกล่องใบนี้ไว้จนกระทั่งเขาบริจาคมันให้กับพิพิธภัณฑ์ผีสิงของแซก บาแกนส์ (Zak Bagans' The Haunted Museum) ในปี 2016 (บางกระแสก็บอกว่าขายมัน) แซก บาแกนส์ (Zak Bagans) โด่งดังจากการเป็นพิธีกรรายการ Ghost Adventures แซกจัดแสดงกล่องไว้ในพิพิธภัณฑ์บนแท่นวางที่โรยด้วยเกลือ
ตามคำบอกเล่าของแซคมีเหตุการผิดปกติเกิดขึ้นเป็นบางครั้ง ซึ่งเหตุการณ์ที่โด่งดังที่สุดเกิดขึ้นกับโพสต์ มาโลน(Post Malone) นักดนตรีชื่อดัง โพสต์เข้าร่วมการถ่ายทำรายการของแซคในห้องจัดแสดง Dibbuk Box จากนั้นเขาก็ประสบความโชคร้ายหลายอย่างซึ่งโพสต์เชื่อว่ามาจากกล่องใบนี้ สุดท้ายไม่ว่า Dibbuk Box จะมีความอาถรรพ์เพียงใดแต่สำหรับผู้มาเยี่ยมชมแล้ว Dibbuk Box ถือเป็นหนึ่งในไฮไลท์สำคัญที่พวกเขาอยากจะเห็น
เรื่องราวการเดินทางของ Dibbuk Box จบลงด้วยการที่มันไปตั้งแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ แต่เรื่องราวการสืบค้นความจริงเกี่ยวกับกล่องใบนี้ยังดำเนินต่อไป
ในปี 2012 เจสสิก้า ลัซเซนฮอป (Jessica Lussenhop) นักเขียนเชิงสืบสวน ของ The Riverfront Times ( RFT ) ได้เผยแพร่บทความชื่อ Devil's Wine Box: Missouri's tie to The Possession สิ่งที่น่าสนใจคือ เจสัน แฮ็กซ์ตัน เคยขอให้เควิน แมนิสพาเขาไปที่บ้านของหญิงชราชาวยิวที่เควินได้ซื้อกล่องใบนี้มา เควินขับรถวนไปมาแล้วอ้างว่าเขาจำบ้านหลังนั้นไม่ได้ เจสันพยายามตามรอยของหญิงชราจากบันทึกต่างๆ แต่ก็ไม่พบบันทึกใดที่กล่าวถึงหญิงชราที่เสียชีวิตในปี 2001 ด้วยวัย103 ปีเลย
เจสันได้คุยกับพี่น้องของเควินพวกเขาบางคนไม่เคยมีอาการฝันร้านซ้ำๆถึงหญิงชราหน้าตาน่าเกลียดน่ากลัวเลย และที่ร้านเหล้าชื่อ Club Underground ที่เมืองบีเวอร์ตัน(Beaverton) แมทธิว คริสเตนเซน(Matthew “Shaggy” Christensen) คนครัวของร้านยอมรับว่าเส้นผมในกล่องมัดหนึ่งเป็นของเขาเอง เควินถูกตั้งข้อสงสัยว่าเขาอาจใช้เรื่องราวจากคุณยายของเขาเองที่เป็นผู้อพยพชาวยิววัย 105 ปีมาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างเรื่องราวนี้มา
ในปี 2019 เคนนี่ บิดเดิล (Kenny Biddle) ช่างภาพ และนักเขียนผู้ชื่นชอบการตรวจสอบเรื่องอาถรรพณ์ ได้พบกับโพสต์บนหน้าFacebook ของ Haunt ME ลงไว้เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2015 อ้างถึงเควิน แมนิส ที่ยอมรับว่าเป็นคนสร้างเรื่องราวของ Dibbuk Box ขึ้นมาเอง
เคนนี่ยังเปิดเผยต่อไปถึงข้อความที่เควินพูดออกมาในรายการ Ghost Adventures : Deadly Possessions ที่ออกอากาศในเดือนเมษายน 2016 ตอนนั้นแซก บาแกนส์ให้เควินลงไปในห้องใต้ดินของพิพิธภัณฑ์ ที่นั่นเควินเจอกับ Dibbuk Box ไม่นานเขาก็ทำท่าเหมือนไม่ได้สติและพึมพำบางอย่างออกมา แซกต้องให้ทีมงานไปช่วยพาเควินขึ้นมา เมื่อเควินได้สติเขาบอกว่าเขาจำสิ่งที่เกิดขึ้นในห้องใต้ดินไม่ได้
เคนนี่ค้นหาความจริงด้วยการนำข้องความที่เควินพูดไปค้นหาในอินเทอร์เน็ต เขาพบว่ามีชาเน็ตที่ใช้ชื่อ 4plebs แก้ปริศนานี้ได้ มันคือเพลงที่ชื่อ The Shadowman Part 1แต่งโดย เควิน แมนิส เควินอับโหลดเพลงนี้ขึ้นเว็บไซต์
Broadjam.com
เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2012
เคนนี่ บิดเดิล ยังคงค้นหาข้อมูลต่อไปจนพบตู้ที่มีความคล้ายกับ Dibbuk Box มันเป็นมินิบาร์รุ่น Liquor Bar Cabinet Structure ที่ผลิตโดย Robert B. Karoff ในนิวยอร์ก ที่ยื่นขอจดสิทธิบัตรเมื่อวันที่ 18 กันยายน ปี 1957 เคนนี่เชื่อว่าหญิงชราชาวยิวไม่น่าจะหาซื้อตู้เก็บไวน์นี้จากประเทศสเปน และเขายังเชื่ออีกว่าตู้เก็บไวน์หรือมินิบาร์แบบนี้ไม่น่าจะมีวิญญาณอะไรมาอาศัยอยู่ได้
Credit
ข้อมูล
http://www.dibbukbox.com/auction.htm
https://www.riverfronttimes.com/news/devils-wine-box-missouris-tie-to-the-possession-2500991
https://skepticalinquirer.org/exclusive/the-dibbuk-box/
รูปภาพ
https://bloody-disgusting.com/the-further/3598910/viral-horrors-investigating-ebays-infamous-dybbuk-box/
https://exemplore.com/paranormal/The-Dibbuk-Box-Where-is-it-Now
https://thehauntedmuseum.com/zak-bagans-the-haunted-museum/
https://www.insider.com/post-malone-dybbuk-box-curse-jewish-folklore-2018-10
เรื่องผี
เรื่องเล่า
เรื่องเล่าจากดาวนี้
1 บันทึก
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย