24 ก.พ. 2023 เวลา 10:42 • หุ้น & เศรษฐกิจ

อย่ารีบ "รีไฟแนนซ์บ้าน" หากยังไม่อ่านบทความนี้

การ "รีไฟแนนซ์บ้าน" เป็นเรื่องที่ค่อนข้างละเอียดที่ต้องศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ แม้จะครบกำหนดสัญญาสามารถดำเนินการได้แล้วก็ตาม
"รีไฟแนนซ์บ้าน" ต้องประเมินปัจจัยแวดล้อมให้รอบด้าน ก่อนดำเนินการ จะทำให้มีประสิทธิภาพและเห็นผลมากกว่า
สิ่งที่ต้องรู้ก่อน "รีไฟแนนซ์บ้าน" มีดังนี้
1.รู้ข้อดี : ประโยชน์ที่แท้จริงของการ "รีไฟแนนซ์บ้าน" มีอะไรบ้างต้องรู้ เช่น "อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ใหม่ที่ถูกกว่า" ทำให้เราผ่อนชำระได้ดอกเบี้ยถูกลงกว่าเดิม, อาจได้วงเงินกู้มากขึ้นกว่ายอดคงค้างเดิม, ลดภาระหนี้ ทำให้จำนวนเงินที่ต้องผ่อนต่อเดือนลดลง และ อาจจะได้เงินส่วนต่างจากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง ทำให้มีเงินเหลือใช้จ่ายส่วนอื่น ๆ ที่จำเป็นได้มากขึ้น สามารถนำไปหมุนเวียนใช้จ่ายหรือหมุนเวียนในธุรกิจได้ เป็นต้น
2.รู้ข้อเสีย : เหรียญมี 2 ด้านเสมอ เมื่อมีข้อดี ก็ต้องมีข้อยุ่งยากบ้างแหละ (เดี๋ยวชีวิตจะสบายเกิน ฮ่า ๆ) การ "รีไฟแนนซ์บ้าน" มักทำให้ระยะเวลาผ่อนชำระนานขึ้น, เสียค่าจัดรีไฟแนนซ์ใหม่ เสียค่าใช้จ่ายจิปาถะในการดำเนินการ เสียเวลา และอาจต้องเสียค่าปรับหากมีการไถ่ถอนก่อนกำหนด รวมถึงมีความยุ่งยากในการเตรียมเอกสาร เช่น เอกสารเกี่ยวกับรายได้ของผู้กู้ หากปัจจุบันผู้กู้ตกงาน ไม่มีรายได้ ไม่สามารถหาเอกสารที่ยืนยันรายได้ของตนเอง อาจทำให้ไม่สามารถทำการรีไฟแนนซ์ได้ เป็นต้น
3.รู้ค่าใช้จ่าย : อันนี้สำคัญมาก เพราะถือเป็นต้นทุนของเรา ค่าใช้จ่ายในการ"รีไฟแนนซ์บ้าน" ที่จำเป็นต้องรู้ ประกอบด้วย...
3.1.หากขอ “รีไฟแนนซ์” ก่อนกำหนดสัญญากับธนาคารเดิม (ปกติ 3 ปี) จะมีค่าปรับประมาณ 0-3% ของวงเงินกู้ (ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละธนาคาร) ซึ่งหากโดนสัก 3% จะถือว่ามากโขอยู่นะ ดังนั้นหากไม่จำเป็นก็ไม่ควร “รีไฟแนนซ์บ้าน” ก่อนครบกำหนดสัญญา
3.2.ค่าใช้จ่ายในการประเมินราคาทรัพย์สิน ปกติอยู่ที่ 0.25-2% ของราคาสินทรัพย์ (ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละธนาคาร) โดยเท่าที่เจอมาจากประสบการณ์ ปัจจุบันจะอยู่ที่ราว 3,000 บาท +++ ดังนั้นหากธนาคารใหม่ที่จะไปรีไฟแนนซ์ไม่คิดค่าใช้จ่ายตรงนี้ก็จะถือว่าแจ่มมาก ^^
3.3.ค่าธรรมเนียมการปล่อยสินเชื่อ จะอยู่ที่ราว 0-3% ของวงเงินกู้ (ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละธนาคาร) ดังนั้นควรหาที่คิดค่าธรรมเนียมนี้ให้ต่ำที่สุด
3.4.ค่าอากรแสตมป์ 0.05% ของวงเงินกู้ใหม่ อันนี้จะคิดเท่ากันเกือบทุกธนาคาร แต่บางธนาคารใหม่ที่เราไปไฟแนนซ์อาจจะมีโปรโมชั่นฟรี ดังนั้นเลือกให้ดี
3.5.ค่าจดจำนอง 1% ของวงเงินกู้ คิดเท่ากันทุกธนาคารเช่นกัน แต่บางธนาคารใหม่ที่เราไปไฟแนนซ์อาจจะมีโปรโมชั่นฟรี หรือ จ่ายคนละครึ่ง ซึ่งต้องเลือกสายฟรี หรือ จ่ายน้อยไว้ก่อน
3.6.ค่าประกัน ซึ่งรวมถึง ประกันอัคคีภัย และ MRTA แม้จะเป็นการทำด้วยความสมัครใจ แต่ก็ควรทำ เพราะเป็นการประกันความเสี่ยงต่าง ๆ ซึ่งค่าใช้จ่ายตรงนี้ขึ้นอยู่กับมูลค่าบ้านและโปรแกรมที่ผู้กู้เลือกซื้อ
3.7.ค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ซึ่งบางธนาคารมีบางธนาคารไม่มี และอัตราที่เรียกเก็บก็ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละธนาคาร ดังนั้นหาที่ไม่มีก็จะดีนะ
4.รู้จักเปรียบเทียบ : ก่อนทำการ "รีไฟแนนซ์บ้าน" ต้องเปรียบเทียบข้อเสนอของสินเชื่อประเภทนี้จากทุกธนาคารให้ครบ เพื่อหาตัวเลือกที่ดีที่สุด ได้ประโยชน์สูงสุด ซึ่งจะทำให้เป็นการ "รีไฟแนนซ์บ้าน" ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ลอง Google ดูได้เลยว่า "เปรียบเทียบสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน" ข้อมูลจะปรากฏมาเพียบเลย ซึ่ง Lumpsum ก็มีบริการดังกล่าว แถมเป็นข้อมูลที่อัปเดตบ่อยครั้งด้วย เพื่อให้ท่านไม่พลาดข้อเสนอใหม่ >> https://bit.ly/3Gp3x5h
เห็นไหมว่าการ "รีไฟแนนซ์บ้าน" ไม่หมูเลย ต้องศึกษาและวิเคราะห์รายละเอียดให้ครบถ้วนเสมอก่อนดำเนินการ หาไม่แล้วอาจจะไม่คุ้มค่าก็ได้นะ
แจกฟรี! ไฟล์ตารางผ่อนบ้าน ใช้วางแผนผ่อนบ้านให้หมดไวๆกัน >> https://bit.ly/3zPqvAS
แอดไลน์เพื่อสอบถามเพิ่มเติม หรือเพื่อติดตามข้อมูลข่าวสาร และคอนเทนต์ดีๆจากเราได้ที่นี่ >> ID: @lumpsumofficial หรือลิงก์นี้ https://lin.ee/aTmHRon
.
หนึ่งเอง หนึ่งไง จะใครล่ะ ^^
โฆษณา