ทมิฬนาดู (29) .. เทวาลัยป้อมหิน (Thayumanavar - Rock Fort Temple)
Tiruchirappalli Rockfort หรือที่คนพื้นเมืองเรียกว่า Malaikottai .. ณ เมือง Tiruchirappalliบนฝั่งแม่น้ำ Kaveri เป็นป้อมปราการที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ (the Madurai Nayak-era fort) และและศาสนสถานที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองมานานกว่าพันปี ซึ่งตั้งอยู่บนภูเขาหินธรรมชาติที่สูงราว 83 เมตร ที่เชื่อว่าเก่าแก่ที่สุดในโลก มีอายุ 3.8 ล้านปี เก่าแก่มากกว่าเทือกเขาหิมาลัย ..
มี 3 เทวาลัยใหญ่ที่นี่ คือ เทวาลัย Ucchi Pillayar .. เทวาลัย Thayumanaswami และเทวาลัยพระพิฒเนศ (Pallava-era Ganesha)
ในอดีตที่นี่เคยเป็นสมรภูมิรบที่ดุเดือดของกองกำลัง Madurai Nayakas และกองกำลังของราชวงศ์ Adil Shahi แห่ง Bijapur รวมถึงกองกำลังแห่ง Maratha Imperial .. ซึ่งกลายเป็นการวางรากฐานของอาณาจักรอังกฤษในอินเดีย
หากย้อนอดีตไป มีหลักฐานว่าอาคารที่เก่าแก่ที่สุด ณ ที่แห่งนี้คือ เทวาลัยถ้ำหินที่สร้างโดยกษัตริย์ Mahendravarman I (c. 580–630 CE) แห่งราชวงศ์ปัลวะ โดยมีเมือง Woraiyur ซึ่งอยู่ไม่ไกลนักเป็นเมืองหลวง .. แต่ต่อมาพื้นที่แถบนี้อยู่ภายใต้การปกครองของราชวงศ์อื่น จนกระทั่งในศตวรรษที่ 10 ราชวงศ์ปัลวะจึงได้กลับมาปกครองอีกครั้งเป็นเวลายาวนาน จนกระทั่งอาณาจักรเสื่อมสลายลง และราชวงศ์นายกะเข้ามาครอบครองในที่สุด
ในช่วงกลางศตวรรษที่ 14 พื้นที่นึ้ครอบครองโดยสุลต่าน แห่งเดลฮี ภายหลังจากที่นายพล Malik Kafur's เข้ามากวาดล้างอินเดียใต้ .. อย่างไรก็ตามสุดท้ายราชวงศ์วิจานายกะ ได้ขับไล่ออกไปในช่วงต้นศตวรรษที่ 16 และเมือง Tiruchirapalli ก็รุ่งเรืองมาจนถึงปัจจุบัน
เหล่า Madurai Nayaks ได้สร้างเทวาลัยแห่งร๊อคฟอร์ตขึ้น .. สร้างเมืองให้เป็นเมืองหลวงและศูนย์กลางการค้าขายในเวลาต่อมา
หลังยุคของนายกะ .. Chanda Sahib ร่วมกับกองกำลังฝรั่งเศส เข้ามาถูกรุกรานและครอบครองป้อมหินแห่งนี้ แต่หลังจากที่ฝรั่งเศสรบพ่ายแพ้อังกฤษ ป้อมนี้ก็ถูกเปลี่ยนมือ ซึ่งชัยชนะครั้งนี้ทำให้อังกฤษเข้มแข็งขึ้น มีอิทธิพลมากในเขตทมิฬนาดู และภายหลังในอินเดียใต้
เราเดินมุ่งหน้าสู่ร็อคฟอร์ต (Rock Fort) อันเป็นที่ตั้งของวัด Thayumanavar ในเมือง Tiruchirappalli ประเทศอินเดีย .. ระหว่างทาง เราเดินผ่านเมืองซึ่งเป็นย่านการค้า มีร้านค้าหลากชนิด
ผ่านตลาดนัด .. แผงขายสินค้าที่คึกคักมาก
ผลไม้ พวงมาลัย สินค้าเบ็ดเตล็ด .. วางขายตลอดสองข้างทางที่เราเดินผ่าน
Rock Fort .. มองจากด้านล่าง มีลักษณะเหมือนป้อมปราการที่มีกำแพงล้อมรอบ
ด้านล่าง .. มีสระน้ำ นัยว่า เป็นสระของเทวาลัยที่อยู่ด้านบน และภาพของ Rock Fort เมื่อนานมาแล้ว
เมื่อเราเลี้ยวเข้าสู่ทางเข้าหมู่เทวาลัย .. มีร้านค้า แผงขายสินค้าเบ็ดเตล็ด ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการสักการะเทพเจ้าต่างๆในเทวาลัย
เทวาลัย Manikka Vinayakar เป็นเทวาลัยแรกที่ตั้งอยู่ตีนเขาที่เราจะเจอ
.. เราเดินเลี้ยวซ้ายเดินไปตามทางเดิน ผ่านบ้านเรือนของชาวบ้าน .. สักพักจะมาถึงที่ตั้งของเทวาลัยถ้ำ มองเห็นเป็นถ้ำเกิดจากการขุดเจาะพื้นผิวของภูเขาหินเข้าไปเป็นส่วนของโถงถ้ำ เข้าใจว่าไม่ใช่ถ้ำที่เกิดตามธรรมชาติ
ถ้ำนี้ เป็นถ้ำยุคแรกๆในบริเวณนี้ .. สร้างขึ้นก่อนถ้ำที่พระเจ้า Mahendravarman I สร้างเมื่อปี 600 – 630 AD เชื่อว่าสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่พักของ บรรพบุรุษชาวชน (Jain Ancestics)
คือราวปี 100-130 AD แต่ไม่เป็นที่รู้จักกันมากนัก .. เราไม่รู้ชื้อของถ้ำหรือเทวาลัย รวมถึงไม่รู้ประวัติ แต่มีโอกาสเดินชมรูปสลักต่างๆภายในถ้ำ
ทางเข้าเทวาลัยมี 5 ช่อง 4 เสา .. ด้านที่ติดผนังด้านในสุดหันหน้าออกมาทางด้านนอก แกะสลักเป็นรูปพระวิษณุและสาวกจำนวน 4 ช่อง
บนชานชาลาทั้ง 2 ด้านมีรูปสลักเทพองค์ต่างๆ .. ตรงกลางเป็นห้องขนาดเล็ก มีรูปสลักอยู่ด้านใน
เราเดินกลับมาตามทางเดิม
เทวาลัย Manikka Vinayakar .. ผู้คนมักจะแวะสักการะเทพเจ้าต่างๆที่เทวาลัยแห่งนี้ ก่อนที่จะเดินขึ้นไปด้านบน
ศาสนสถานแห่งนี้เชื่อว่าสร้างครั้งแรกในสมัยปัลลวะ แต่สร้างเสร็จในสมัยนายกะแห่งแมนดูไร อุทิศถวายแด่เทพผู้ปกป้องเมือง ด้านในมีรูปปั้นของพระพิฒเนศ (Lord Vinayaka)ในรูปฟอร์มต่างๆ
หลังจากผ่านเทวาลัยแรก .. มีบันได 344 ขั้นทอดตัวยาวมุ่งสู่ศาสนสถานด้านบน รอให้เราได้ทดสอบความแข็งแรงของร่างกาย
เทวาลัย Lower Cave Temple Tiruchilapilli .. ช่วงศตวรรษที่ 8 รูปลักษณะเป็นมณฑปสี่เหลี่ยมกว้าง มีการสกัดหินเป็น 2 ช่อง ทางด้านเหนือและด้านใต้ ซึ่งไม่ปรากฏมีเทพเจ้า
ผนังขนาดใหญ่ตรงกลาง แบ่งเป็น 5 ช่อง มีรูปสลักเทพเจ้า เช่น พระพิฒเนศ พระพรหม พระนางทุรคา เป็นต้น
จากนั้นจะมีบันไดทอดตัวสู่ด้านบน
เทวาลัย Arulmigu Thayumanaswamy Temple .. รู้จักกันในนาม "the lord who became the mother" สร้างในสมัยปัลลาวะโดยพระเจ้ามเหนทราวรมันต์ ที่ 1 (Mahendravarmai I) ถวายพระศิวะและพระเทวี
ตามตำนานของฮินดู .. มีหญิงท้องแก่คนหนึ่งชื่อ รัตนาวาตี ซึ่งภักดีต่อองค์พระศิวะมาก ในช่วงใกล้คลอด เธอต้องการให้แม่มาอยู่ใกล้ๆ แต่แม่ของเธอมาไม่ได้ ด้วยเหตุที่เกิดน้ำท่วมใหญ่ .. พระศิวะจึงแปลงกายมาในรูปของมารดาของเธอ ในช่วงเวลาที่เธอคลอดลูก พระศิวะในปางนี้จึงได้ชื่อว่า Thayumanaswamy หรือเทพเจ้าผู้เปรียบเสมือนมารดา
.. เป็นถ้ำอยู่ระหว่างกลางของป้อมหิน ที่ตัดหินเข้าไปเป็นถ้ำ .. มีภาพสลักพระศิวะเป็นที่สักการะในฐานะเทพ Thayumanvar ในเทวาลัยมีภาพสลักของพระนางปาราวตี ในรูปแบบ Mattuvar Kuzhalammai อยู่ด้วย
พระศิวะสี่กรในรูป คงคาสมูรติ (Gangadhara Murti) เป็นภาพสลักที่เก่าแก่ที่สุดของทมิฬนาดู .. พระศิวะทรงใช้มวยพระเกศารองรับสายน้ำจากพระแม่คงคา ที่เสด็จลงมาจากสวรรค์ น้ำคงคานั้นไหลแรง เกินกว่าที่โลกจะรับได้ หากลงมาโดยตรง โลกก็จะถูกกระแทกทำลายจนพินาศสิ้นในทันที .. ในภาพจะเห็นมือขวาของพระศิวะถือมวยผมชูขึ้น พระแม้คงคา จะเห็นเป็นภาพผู้หญิงงขนาดเล็กอยู่ในมวยผม
ทั้งสองข้างของพระศิวะ มีรูปสลักของวิทยาธรลอยอยู่ บนพื้นมีภาพบุคคลในเครื่องแต่งกายบอกถึชนชั้นสูงกำลังคุกเข่าต่อหน้าพระศิวะ
ในเทวาลัยนี้ยังมีจารึกหินในภาษาสันสกฤตที่สำคัญ .. รวมถึงมีบางจารึกในยุคปัลวะ (Pallava Grantha script) และภาษาทมิฬ
จารึกที่น่าสนใจ เป็นบทกวี 8 บทที่อยู่รอบๆผนังที่สลักภาพ คงคามูรติ ซึ่งกษัตริย์เขียนขึ้นด้วยพระองค์เอง เพื่ออธิบายเรื่องราวของ คงคามูรติ
มีโอกาสเข้าไปในมณฑปนี้ .. แต่ไม่ทราบเรื่องราวความเป็นมาค่ะ
เราเดินขึ้นบันไดไต่ความสูงขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง ...
มองเห็นอาคารในภาพ ..
มองเห็นเป็นอาคารเหมือนป้อมปราการ แต่ไม่ทราบเรื่องราว
ทัศนียภาพด้านบนของ Rock Fort ก่อนจะต้องไต่บันไดอีกหลายสิบชั้นสู่ศาสนสถานชั้นบนสุด
.. วิวของเมืองที่อยู่ด้านล่าง สวยงาม
เทวาลัย Ucchi Pillayar .. เทวาลัยบนยอดเขา สร้างอุทิศแก่ เทพวินายกะ (Lord Vinayaga) หรือพระคเนศ (Vinayaka Temple - Ganesh) สร้างในศตวรรษที่ 17
ภายในเทวาลัยไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ .. รอบๆมีลูกกรงกั้นโดยรอบ กลายเป็นจุดชมวิวเมืองตริชี่
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- โฆษณา
- © 2025 Blockdit
