25 ก.พ. 2023 เวลา 16:21 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
EV เป็นรถที่มีข้อดีอยู่หลายประการครับ
2
แต่ EV เป็นเทคโนโลยีใหม่หากมองในแง่มุมของ “mass production” ซึ่งมีการผลิตจำนวนมหาศาล
ซึ่งเมื่อทั้ง “ผู้ซื้อรถ EV” ให้การตอบรับในแง่มุมของยอดจองและยอดซื้อ ประกอบกับ “ภาครัฐ” ให้การสนับสนุนในแง่กฎหมายที่ช่วยเรื่อง “ภาษี” และมาตรการช่วยเหลือเพื่อ “ลดค่าใช้จ่าย” ในการซื้อและดูแลรักษารถ EV
เชื่อได้ว่า “ปริมาณก๊าซพิษและฝุ่นละออง” ที่ถูกปล่อยออกมาจาก “ท่อไอเสีย” รวมถึง “มลพิษทางเสียง” ที่มาจาก “เครื่องยนตร์สันดาบภายใน” (ICE: Internal Combustion Engine) จะลดลง “อย่างมีนัยสำคัญ” อย่างแน่นอน
1
ประเด็นที่ผมสนใจติดตามเทคโนโลยีของรถ EV คือ
1) “How green is green?”
หากมองในมุมมองของ “การพัฒนาสินค้า” หรือ “Product Development”
ซึ่งมีลำดับขั้นคือ
- Concept and Design
- Development
- Production and Launch
5
- Services and Support
- Retirement
กระบวนการทั้งหมดตั้งแต่เริ่มออกแบบรถ EV
จนกระทั่งมัน “ปลดประจำการ”
บริษัทผู้ผลิต EV ต้องคำนึงถึง “ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม” โดยการเลือกใช้ “วัสดุที่ย่อยสลายได้, นำกลับมาใช้ใหม่ได้, และกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด”
1
และองค์ประกอบสำคัญที่สุดก็คงหนีไม่พ้น
“แบตเตอรี่”
2) “How far is far?”
ครับ “ระยะทางในการขับของรถ EV ต่อการชาร์จแบตเตอรี่จนเต็มหนึ่งครั้ง” หรือ “range” นั้น
1
แทบจะเป็น “specification” หรือ “spec” ที่ท่านผู้สนใจซื้อรถ EV มักให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ
ผมเองไม่ได้อยู่ในกลุ่มผู้ที่สนใจซื้อรถ EV ในขณะนี้ แต่ผมเป็นคนชอบศึกษาเรื่องรถมาตั้งแต่เด็กๆ
EV เป็น “Disruption” ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งนับตั้งแต่ที่ผมนั่ง “รถนำ้มัน” ไปโรงเรียนตอนที่เป็นเด็กๆจนถึงปัจจุบันนี้
“ข้อพิจารณา” อันหนึ่ง ที่ผมให้ความสนใจในเรื่องแบตเตอรี่รถ EV คือ
“weight VS range” graph
ผมขอให้ท่านทั้งหลายลองจินตนาการถึง “กราฟ” ที่ “แกนตั้งแสดงนำ้หนักของแบตเตอรี่รถ EV”
ส่วน “แกนนอนแสดงถึงระยะทางที่รถ EV วิ่งได้ ต่อการชาร์จแบตเตอรี่จนเต็มหนึ่งรอบ”
จากข้อมูลที่ผมลองศึกษาดู มันเป็นแบบนี้ครับ
> “ช่วงแรก”
เส้นกราฟจะเป็นเส้นตรงที่มีค่า “ความชัน” คงที่
กล่าวคือ ค่า weight กับ range จะ “แปรผันตามกัน” ในลักษณะ “linear”
ยกตัวอย่างเชิงสมมุติ เช่น
“ทุกๆ ระยะทางที่ EV วิ่งได้เพิ่มขึ้น 100 กิโลเมตร ——> เราต้องใช้แบตเตอรี่ที่มีนำ้หนักเพิ่มขึ้น 50 กิโลกรัม”
นั่นคือ
“ถ้าเราต้องการระยะทางวิ่งเพิ่ม —-> เราต้องเพิ่มนำ้หนักแบตเตอรี่”
ตรงไปตรงมาใช่มั้ยครับ?
> “ช่วงที่สอง”
ประเด็นมันอยู่ตรงนี้ครับ
กราฟในช่วงที่สอง จะแสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่าง “นำ้หนัก กับ ระยะทาง” ที่ “เปลี่ยนไป”
“เปลี่ยนไปยังไง?”
คือคราวนี้ เส้นกราฟจะ “พุ่งชันขึ้น” โดยมันจะไม่ใช่กราฟ “เส้นตรง” อีกต่อไป!
มันจะเป็นความสัมพันธ์ในลักษณะ
“non-linear”
กล่าวคือ
“ทุกๆ 100 km ที่รถ EV วิ่งไปได้ —-> อัตราการเพิ่มของนำ้หนักของแบตเตอรี่จะพุ่งสูงขึ้นมาก!”
ยกตัวอย่างเชิงสมมุติ เช่น
“ระยะทางวิ่งจาก 200 km ไปเป็น 250 km ต้องการแบตเตอรี่ที่หนักเพิ่มขึ้น 100 kg
และ ระยะทางวิ่งจาก 250 km ไปเป็น 300 km ต้องการนำ้หนักแบตเตอรี่เพิ่มขึ้นถึง 275 kg!” เป็นต้น
และนี่เองที่เป็นที่มาถึง “คำถาม” ที่ว่า
- นอกจากประเด็นเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของกระบวนการผลิตแบตเตอรี่จนกระทั่งการ “บริหารจัดการ” กับแบตเตอรี่ที่หมดอายุแล้ว
“ประสิทธิภาพ” ในการบรรจุกระแสไฟฟ้าของแบตเตอรี่ต่อนำ้หนักของมัน เราสามารถปรับปรุงและพัฒนาไปได้ดีและรวดเร็วเพียงใด โดยที่ไม่ไปกระทบต่อ “ต้นทุน” ที่จะไปทำให้ “ราคา” ของแบตเตอรี่สูงขึ้น (Affordability) จนทำให้แบตเตอรี่ EV เป็นของที่
“จับต้องได้ยาก!”
แต่ผมก็ค้นพบ “ข่าวดี” นะ!
“ข่าวดี” ที่ว่าคือ
เราอาจไม่ต้อง “พึ่งพา” สถานีชาร์จรถ EV ที่เราต้อง “รอ” ให้หัวจ่ายชาร์จไฟให้รถ EV ของเราจนเต็มอีกต่อไป! โดยการนั่งจิบกาแฟรอ!
เพราะตอนนี้ได้มีการประดิษฐ์
“EV battery swap stations”
ขึ้นมาแล้ว!
โดยคุณเพียงแค่นำรถ EV ของคุณเข้าไปรับบริการ “เปลี่ยนแบตเตอรี่ที่ชาร์จเต็มแล้ว” ลูกใหม่ แล้วระบบจะถอดแบตเตอรี่เก่าของคุณออกให้เองในเวลาที่กาแฟของคุณยังชงไม่เสร็จเสียด้วยซ้ำ!
1
ดังนั้น หากคุณกำลังอยู่ในตลาดรถ EV คุณก็ควรพิจารณา
“Swappability”
ของรถ EV ที่คุณสนใจไว้บ้างก็ดีนะครับ!
3) “How long is long?”
ครับ รถ EV ที่มีจำหน่ายอยู่ในขณะนี้ น่าจะระบุ “อายุการใช้งานของแบตเตอรี่” อยู่ที่ราวๆ “7-10 ปี” พร้อมเงื่อนไขการนับประกันจากผู้ผลิต
“SOH: State Of Health” คือ “spec” ของแบตเตอรี่ที่คุณควรให้ความสนใจตรวจสอบเวลาที่คุณนำรถเข้ารับบริการจากทางศูนย์
เจ้าหน้าที่จากศูนย์น่าจะมี “เครื่องมือ” ที่ใช้ตรวจสอบ “สุขภาพ” ของแบตเตอรี่ของคุณว่ามันมีสภาพ “กี่ %” แล้ว?
จากที่ผมลองค้นข้อมูลดู มันจะมีเทคนิคการถนอมแบตเตอรี่รถ EV ประมาณนี้ครับ
- ให้แบตฯ อยู่ในความร้อนระหว่าง 25-40 องศาเซลเซียสจะดีที่สุด
(ควรจอดรถ EV ของท่านในที่ร่ม!)
- การชาร์จนานสามารถช่วยป้องกันแบตเสื่อมได้
เพราะแบตฯ จะไม่ร้อน
- rapid charging หรือ fast charging จะทำการชาร์จได้ไว แบตฯ เต็มไว แต่จะร้อนด้วย ไม่ควรทำบ่อยๆ
- ไม่ควรปล่อยให้ไฟในแบตฯ เหลือ 0% แล้วค่อยชาร์จ เพราะจะทำให้แบตฯ เสื่อมจากการต้องเข้าไปกระตุ้นประจุในตัวแบตฯ
ในขณะเดียวกันก็ควรเลือก “หัวชาร์จ” ที่มีระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อชาร์จไฟเต็มแล้ว
- อย่าขับรถ EV แช่นำ้เกิน 30 นาที
- เหยียบคันเร่งรถ EV ของท่านอย่างสุภาพ
การ “กระทืบ” คันเร่งอย่างแรง อาจส่งผลถึง “อายุการใช้งาน” ของแบตเตอรี่ที่สั้นลง
4) “Keep On Rolling!”
ครับ “แบตเตอรี่” ทำงานร่วมกันกับ “มอเตอร์ไฟฟ้า”
แน่นอนว่า เทคโนโลยีการสร้างมอเตอร์ยังคงพัฒนาต่อเนื่องต่อไป
“มอเตอร์” ที่ดีสามารถแปลง “พลังงานไฟฟ้า” จาก “แบตเตอรี่” ไปเป็น “พลังงานจล” (การหมุน) ได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยเกิดการสูญเสียพลังงาน (lost) น้อยที่สุด!
และ “มอเตอร์” ที่ดี ควรมีนำ้หนัก “เบา” เพราะต้องไม่ลืมว่า
“weight spoils handling!”
และแน่นอนว่า “มอเตอร์” ดีๆ มักมีราคาสูง!
5) “My Obsession”
ผมเองชอบศึกษาเรื่องรถ รวมถึงรถ EV ด้วย
posts เหล่านี้ของผม ได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจไว้ให้แล้วครับ
โฆษณา