ลองให้ ChatGPT จัดสรร media budget!
จากตอนที่แล้ว เราลองให้ ChatGPT วางแผน media เบื้องต้นดูให้ แต่ไม่ได้ระบุเรื่องงบประมาณ (media budget) เพื่อให้ ChatGPT ช่วยจัดสรรให้ตามโจทย์ที่ให้ไป
ครั้งนี้เลยลองต่อยอดจากโจทย์เดิม เพื่อให้ ChatGPT ช่วยทำ digital media budget allocation มาให้หน่อย และนี่คือผลที่ได้
อันดับแรกเลย เราต้องรู้ก่อนว่าเราจะมีงบในการทำ digital marketing เท่าไหร่ แน่นอนว่า ChatGPT ไม่สามารถแนะนำให้ได้จากศูนย์เลยถ้าเราไม่มีข้อมูลตั้งต้นให้ ดังนั้นจึงต้องตั้งเป้ายอด (revenue) ที่ต้องการขึ้นมาก่อน
สำหรับตัวอย่างนี้ เราตั้งว่า ต้องการให้ได้ยอดขาย 5 ล้านบาทภายในหนึ่งเดือนช่วงเปิดตัว
Chat ให้คำตอบว่า
การตั้ง budget สำหรับ digital media ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ตั้งแต่เป้าหมายและจุดประสงค์ของ campaign กลุ่มเป้าหมาย และความเข้มข้นในการแข่งขันในตลาด ซึ่งโดยปกติแล้ว บริษัทมักจะจัดสรรงบประมาณ 10% - 20% ของยอดขายที่ต้องการ
ดังนั้นถ้าเป้ายอดขายคือ 5 ล้านบาทในหนึ่งเดือน ควรใช้เงินประมาณ 500,000 ถึง 1 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี มันสำคัญมากๆ ที่ต้องนำหลายๆ ปัจจัยมาประกอบการตัดสินใจ และต้องคอย monitor ดู performance ของ campaign และผลประกอบการของบริษัทด้วย
ถามต่อลงรายละเอียดว่าด้วย budget ที่แนะนำมานี้ เราควรต้องแบ่งลงตามแต่ละช่วงใน funnel เท่าไหร่เพื่อให้มั่นใจว่าเราจะสร้างการรับรู้ให้กับสินค้าใหม่ที่เพิ่งออกสู่ตลาดมากพอเพื่อต่อยอดไปสู่ conversion ยอดขายได้จริง
ChatGPT อีกครั้งตอบเปิดหัวมาก่อนว่า การตั้ง budget ขึ้นอยู่กับเป้าหมายของ campaign และกลุ่มเป้าหมาย อย่างไรก็ดี สำหรับ guideline โดยทั่วไปแล้ว เราควรจัดสรร budget ในแต่ละ stage ดังนี้
1. Awareness Stage: ให้ใช้ประมาณ 40% ของ budget ทั้งหมดในการสร้างการรับรู้แก่กลุ่มเป้าหมาย ซึ่งอาจจะใช้ โฆษณาบน social media, influencer marketing, display ads เพื่อแนะนำสินค้าใหม่ของเราสู่กลุ่มเป้าหมาย สำหรับ budget 500,000 ถึง 1 ล้านบาท เราควรใช้ budget ประมาณ 200,000 ถึง 400,000 บาทสำหรับ awareness stage นี้
2. Consideration Stage: ให้ใช้ budget ประมาณ 30% ของ budget ทั้งหมดในการ engage กับกลุ่มเป้าหมายที่กำลังสนใจและพิจารณาสินค้าเราอยู่ ซึ่งอาจจะใช้ SEM, content marketing, email marketing เพื่อให้ข้อมูลที่มีคุณค่ากับกลุ่มเป้าหมายบอกถึงประโยชน์ของการใช้สินค้าของเรา สำหรับ budget 500,000 ถึง 1 ล้านบาท เราควรใช้ budget ประมาณ 150,000 ถึง 300,000 บาทสำหรับ consideration stage นี้
3. Conversion Stage: ใช้ budget ประมาณ 30% ของ budget ทั้งหมดเพื่อให้เกิด conversion สร้างยอดขาย ซึ่งอาจจะใช้โฆษณาบน E-marketplace, remarketing campaign, หรือเน้นเรื่องโปรโมชั่นและส่วดลดต่างๆ เชิญชวนให้กลุ่มเป้าหมายซื้อสินค้า สำหรับ budget 500,000 ถึง 1 ล้านบาท เราควรใช้ budget ประมาณ 150,000 ถึง 300,000 บาทสำหรับ conversion stage นี้
เนื่องจากคำตอบในการ allocate budget ตาม funnel ค่อนข้างพื้นฐานและตามตำรา เลยถามต่ออีกว่า แล้วถ้าพ้นช่วงเปิดตัวสินค้าใหม่แล้ว เราสร้าง awareness มาพอสมควรแล้ว ถ้าภายใน 3 เดือนถัดมา เราต้องการยอดขาย 20 ล้าน เราควรจัดสรร budget ตามแต่ละช่วงใน funnel อย่างไรเพื่อให้ได้เป้านี้
ซึ่งคำตอบที่ได้ ยังคงได้แบบเดิม คือให้ตั้ง budget ประมาณ 10-20% ของยอดขายที่ต้องการ และจัดสรร budget ในแต่ละช่วงของ funnel เป็น 40/30/30 พร้อมคำแนะนำประกอบแบบเดิมที่เคยให้มาแล้ว
เลยถามย้ำไปว่า เรายังต้องจัดเป็น 40/30/30 เหมือนเดิม ทั้งที่เลยช่วงเปิดตัวไปแล้ว?
ChatGPT ตอบว่า ใช่ การจัด budget 40/30/30 เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับ campaign ใหม่ แต่บริษัทก็สามารถปรับได้ตามความเหมาะสมตามกลุ่มเป้าหมายและ goal ของ campaign เช่นหากต้องการเน้นเรื่องยอดขาย ก็จัด budget 40% ในช่วง conversion stage แล้วไปลดช่วงอื่น
หรือหาก goal คือต้องการสร้าง awareness ให้กับสินค้าใหม่ ก็จัด budget 50% ลงไปที่ awareness stage แล้วไปลดช่วงอื่นแทน
จึงถามใหม่ ย้ำไปอีกว่า ถ้างานนี้ไม่ใช่ campaign ใหม่ และเราสร้าง awareness มาพอสมควรแล้ว เราควรต้องจัด budget ลงตามแต่ละช่วงของ funnel อย่างไรเพื่อให้ถึงยอดขายที่ตั้งไว้
คราวนี้ ChatGPT ตอบมาเป็น 20/30/50 แทน โดยที่รายละเอียดอื่นๆ แทบจะเหมือนเดิมหมด
ปิดท้ายเลยถามต่อว่า ถ้า budget ที่ตั้งไว้ ต้องใช้สำหรับ production หรือค่าใช้จ่ายในการทำชิ้นงานต่างๆ ออกแบบ ads, สร้าง content, เขียน copy และอื่นๆ ที่จำเป็นสำหรับนำไปใช้ในการลง digital media และ budget ก้อนนี้ก็ต้องนำไปใช้สำหรับลงงบในการซื้อ media ต่างๆ เราควรแบ่ง budget ให้เป็นค่า production เท่าไหร่และค่าลง media เท่าไหร่
ChatGPT แนะนำว่า ให้ลงงบใน production cost ประมาณ 30-40% และลงงบในการซื้อ media ประมาณ 60-70% พร้อมกับปิดท้าย ท่าเดิมว่า การจัด budget ขึ้นอยู่กับเป้าหมายของ cmpaign, กลุ่มเป้าหมาย และปัจจัยอื่นๆ รวมถึงต้องคอย monitor และปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมกับ performance ที่ได้ เพื่อให้ได้ยอดขายตามที่ตั้งไว้
สรุป
สำหรับการให้ ChatGPT ช่วงจัดสรรงบ media ให้ หรือ media allocation เจ้า ChatGPT ตอบได้ตาม best practice หรือ guideline ปกติ ซึ่งก็เชื่อว่าเป็นไปตามข้อมูลที่มันถูกเทรนมา อย่างที่เคยบอกไปในตอนที่แล้วว่า เราสามารถให้ ChatGPT แนะนำเบื้องต้นได้ แต่ก็ควรให้ผู้เชียวชาญหรือคนที่เคยมรประสบการณ์กับหมวดหมู่สินค้านั้นๆ หรือตลาดนั้นๆ ในการวางแผนจริงอีกครั้งต่อไป
สำหรับตัวอย่างนี้เป็นแค่การใช้งาน ChatGPT แบบเบื้องต้นเท่านั้น อย่างไรก็ดี เชื่อว่าถ้ามีการเทรนและป้อนข้อมูลที่มีประโยชน์เพิ่มมากขึ้น เจ้า ChatGPT ก็น่าจะตอบได้หลากหลายและละเอียดกว่านี้มาก ไม่ใช่แค่ดึง guideline มาตอบ อาจจะสามารถวิเคราะห์จากข้อมูลการตลาดของสินค้าแต่ละประเภทจริงๆ นำ data เหล่านั้นไปสร้าง predictive model ต่อไปได้
หากใครอยากรู้ว่าสิ่งที่ ChatGPT แนะนำในการทำ digital marketing นั้น ดีพอไหม มั่วหรือไม่ มาลงเรียนคลาสนี้ของ Digital Marketing Academy
เพราะยังมีรายละเอียดอีกมากมายสำหรับการวางแผน digital media ให้แม่นยำและมีประสิทธิภาพ มากกว่าพึ่งพา ChatGPT
มาเรียนกันว่า agency และแบรนด์ใหญ่ๆ เขาทำ digital media planning กันอย่างไร
The Power of Planning: Digital Media Planning for Success
วางแผนมีเดีย (media planning) อย่างมืออาชีพ ตั้งแต่ต้นจนจบ แบบที่ agency และแบรนด์ใหญ่ทำ
เข้าใจภาพรวมและประโยชน์ของการใช้ digital media ให้ประสบความสำเร็จ
เรียนรู้ขั้นตอนตั้งแต่
> ทำความรู้จักและการเลือกมีเดียที่เหมาะสม
> การขัดเกลากลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน
> การตั้งเป้าหมายและเลือกการวัดผลที่ถูกต้อง
> การจัดสรรงบประมาณ (budget allocation) ที่มีประสิทธิภาพ
> วางแผนช่วงเวลาการขึ้นและระยะเวลาอย่างเป็นระบบ
คลาสนี้เหมาะกับใคร
> นักการตลาดที่ดูแลแบรนด์ ที่มีประสบการณ์ execute media มาบ้างแล้ว (ยิงแอด)
> เจ้าของกิจการ ผู้บริหาร ที่คุมการตลาดเอง เพื่อนำความรู้ไปวางแผนกับทีมงาน
เรียน on-site เต็มวัน 9.00 - 16.00 (มีพักทานอาหารกลางวัน และ coffee break)
เสาร์ที่ 11 มีนาคม
ณ Skyview Hotel
Inbox หรือติดต่อ Line: maemepp
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
