Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
สถานีแห่งความสุข by Supawan
•
ติดตาม
27 ก.พ. 2023 เวลา 02:52 • อาหาร
ทมิฬนาดู (31) .. อาหารอินเดียใต้ .. เผ็ด อร่อย ถูกใจคนไทย
Curry Culture .. อาหารอินเดียมีส่วนประกอบของเครื่องเทศอยู่หลายๆอย่าง แต่กลิ่นไม่แรงเท่าภูมิภาคอื่น เครื่องเทศที่ขาดไม่ได้ ส่วนใหญ่จะเป็นผงกะหรี่
.. สิ่งหนึ่งที่พึงเข้าใจก็คือ อินเดียเป็นประเทศที่กว้างใหญ่ เมื่อพูดถึงอาหารจึงมีความแตกต่างกันอยู่บ้านตามความชอบ และวัฒนธรรมของท้องถิ่น
Street food
อินเดียใต้ .. เป็นแหล่งวัฒนธรรมตั้งแต่สมัยโบราณ จึงมีมีอาหารการกินที่เป็นเอกลักษณ์ และมีความสำคัญต่อพัฒนาการของอาหารอินเดีย ผู้คนในพื้นที่อินเดียใต้ส่วนใหญ่จะทานมังสะวิรัติเป็นหลัก ซึ่งมีทั้งที่เคร่งครัดมากที่อาหารไม่มีส่วนประกอบของเนื้อสัตว์เลย และน้อยลงในระดับหนึ่ง มีเนื้อไก่ ซีฟู้ด ไข่ .. หากเป็นมุสลิมก็ต้องไม่มีเนื้อหมู
อาหารเช้าในโรงแรม
ดังนั้น ไม่ว่าจะเข้าไปทานตามร้านอาหาร หรือนำอาหารไปปรุงเอง ต้องยึดถือหลักการนี้ รวมถึงต้องรู้และคาดหมายเบื้องต้นได้ว่าสถานที่นั้นๆ เราจะเจอกับอาหารประเภทไหนบ้าง
... อย่างไรก็ดี คนอินเดียใต้จะทานข้าวมากกว่าภูมิภาคอื่นๆ รวมถึงใช้มะพร้าว และซีฟู้ดเป็นหลัก ทำออกมารสชาติอร่อยใช้ได้เลย บางเมนูเผ็ดร้อนคล้ายกับอาหารไทย เช่นพวกไก่ย่างต่างๆ หากเรามีซ๊อสติดตัวไป ก็อิ่มอร่อยได้อย่างสบายๆ
สั่งอะไรมาทาน? .. เมนูที่มีชื่อ คือ
ภาพจาก inyernet
Dosa .. ราชาแห่งอาหารอินเดียใต้ คือแป้งกรอบทรงกรวยสีน้ำตาลและเครื่องจิ้มนานาชนิด
… มีหลายสูตร ที่เป็นที่นิยมที่สุดคือ มาซาลา โดซา (Masala Dosa) ที่ทำจากแป้งหมักราดลงบนกระทะทรงแบน เมื่อแป้งสุกเป็นสีเหลืองทองจะนำมาใส่ไส้มันฝรั่งและหอมใหญ่ผัดเครื่องเทศมาซาลา ก่อนพับให้ได้รูปทรงที่ต้องการ
มาซาลา โดซา นิยมกินคู่กับจัดนี (Chutney) หรือเครื่องจิ้มสไตล์อินเดีย ทั้งจัดนีมะพร้าว จัดนีมะเขือเทศ และแกงซัมบาร์ (Sambar) แกงผักอินเดียใต้ ผู้คนนิยมรับประทานโดซาเป็นมื้อเช้าเพื่อให้อิ่มท้องตลอดวัน
Idli .. อิดลี เป็นหนึ่งในอาหารเก่าแก่ที่สุดในอินเดียใต้ มีลักษณะเป็นแป้งนึ่งทรงกลมสีขาว อาหารแป้งชนิดนี้มักไม่ผ่านการปรุงแต่งรสชาติ นิยมกินคู่กับเครื่องจิ้มอื่นๆ อย่างแกงซัมบาร์และจัดนี อิดลีจึงเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ชาวอินเดียใต้นิยมรับประทานเป็นมื้อเช้า เช่นเดียวกับโดซาและวาดา
Vada .. วาดา เป็นอีกหนึ่งอาหารเช้ายอดฮิตเช่นเดียวกับโดซาและอิดลี วาดามีลักษณะคล้ายโดนัททอดที่มีรูตรงกลาง ทำมาจากแป้งผสมผักหลากชนิด ไม่ว่าจะเป็นมันฝรั่ง ถั่วลูกไก่ (Chickpea) หัวหอม และอื่นๆ
วาดาต้นตำรับอินเดียใต้จะมีรสจัดจ้านจากเครื่องเทศ เครื่องเทศที่นิยมนำมาปรุงรสได้แก่ เมล็ดยี่หร่า พริกไทยดำ และใบแกง (Curry leaf) แป้งผสมผักและเครื่องเทศจะถูกนำมาทอดจนเป็นสีทองอร่าม นิยมรับประทานวาดาคู่กับจัดนีและแกงซัมบาร์
Sambar .. แกงซัมบาร์ เป็นแกงเข้มข้นที่มีส่วนผสมของผักหลากชนิด ไม่ว่าจะเป็นมะเขือเทศ มะเขือม่วง มะรุม แครอท ฟักทอง กระเจี๊ยบ ผักโขม ถั่วต่างๆ ฯลฯ เมนูซัมบาร์แต่ละครัวเรือนจะมีสูตรแตกต่างกัน
.. แต่ที่ขาดไม่ได้คือเครื่องปรุงรสตัดเลี่ยนอย่างน้ำมะขามที่ทำให้ซัมบาร์มีรสชาติลึกล้ำ แตกต่างจากแกงอินเดียเหนือที่เน้นความหอมมันจากนมเนยเป็นหลัก ซัมบาร์ถือเป็นสูตรแกงมาตรฐานที่รับประทานคู่กับอาหารจานแป้งได้ทุกชนิด ทั้งข้าวสวย อิดลี โดซา วาดา ฯลฯ เรียกได้ว่าเป็นตัวแทนจิตวิญญาณของชาวใต้อย่างแท้จริง
ภาภจาก internet
Samosa .. ของว่างยามบ่าย มักทานพร้อมชา มีทั้งไส้ไก่และไส้ผัก จะว่าไปแล้วรสชาติคล้ายๆกับกะหรี่ปั๊บบ้านเรา แต่จะแตกต่างกันตรงลักษณะรูปทรงเป็นรูป 3 เหลี่ยม ชิ้นไม่เล็ก แต่ถ้าแบบหิวๆ จัดสัก 2 ชิ้นรับรองอิ่มแน่นอน
Hyderabadi Biryani .. ข้าวหมกที่มีชื่อเสียงลือเลื่องของเมือง ถึงแม้จะหน้าตาแตกต่างไม่เหลืองละมุนเท่าข้าวหมกไก่บ้านเรา และยังมีเครื่องเทศหลายชนิดกว่า
… มีความนุ่มละมุนลิ้นด้วยข้าวบาสมาติที่มีลักษณะเรียวยาวคลุกเคล้าเข้ากับเนื้อสัตว์ได้อย่างลงตัว
.. มักจะจัดเสิร์ฟในหม้อขนาดเล็ก แต่ปริมาณไม่เล็กนะจ๊ะ สามารถทานได้ 1-2 คน อิ่มแบบจุกๆเลยทีเดียว ส่วน Biryani ที่ได้รับความนิยมได้แก่ Mutton biriyani (ข้าวหมกแพะ) และ Chicken biriyani (ข้าวหมกไก่)
เหมือนหมดปลามากกว่า
Fish Curry .. แกงปลา ที่เป็นเมนูเด็ดของทุกเมือง
Momo .. มีต้นกำเนิดมาจากทิเบต แต่ได้รับความนิยมแพร่หลายในอินเดีย ถ้าเปรียบเทียบกับอาหารไทยแล้ว หน้าตาและรสชาติมีความละม้ายคล้ายเกี๊ยวซ่า .. มีหลายไส้ เช่น ไส้ไก่ ไส้ชีส ไส้กุ้ง และไส้ผักหลากหลายชนิด โดยมีทั้งแบบนึ่งและแบบทอด
Butter chicken .. แกงไก่ ที่ใครๆลองก็ต้องติดใจกับแกงไก่ที่เข้มข้นเคี้ยวจากเนย โดยมีส่วนผสมหลักเป็นมะเขือเทศกับเครื่องเทศที่หอมกลุ่นและเนื้อไก่ที่นุ่มลิ้น เสิร์ฟพร้อมแป้ง Naan หรือจะทานพร้อม Ghee rich (ข้าวผัดเนยจากนมวัว/ควาย) ก็ช่างเข้ากันได้ลงตัวสุดๆไปเลยจ้า เมนูนี้ถึงสีจะดูสด ร้อนแรงเหมือนแอด แต่รสชาติไม่เผ็ดตามสีที่เห็นนะจ้ะ
Lassi .. เครื่องดื่มที่ทำมาจากโยเกิร์ตมีหลากหลายรสชาติทั้งรสหวาน รสเค็ม รสมิ้นท์ และรสผลไม้นานาชนิด เคล็ดลับคงความอร่อยแบบไม่มีวันจืดเพราะ Lassi เป็นโยเกิร์ตเพียวๆปั่นแบบไม่มีน้ำแข็งผสม สำหรับรสชาติที่ได้รับความนิยมได้แก่ Mango Lassi และ Sweet Lassi
อาหารเช้าของโรงแรม .. แทบจะลอกตำรากันมา ไปพักที่ไหนก็ได้ เซย์ ฮัลโหลๆๆๆ กับเมนูเหล่านี้ พร้อมกับบอกตัวเองทุกวัน ฉันทานด้ายยยย
คนไทยส่วนใหญ่ดูจะไม่ค่อยคุ้นเคยกับรสชาติอาหารอินเดียเท่าไหร่ .. เมื่อต้องไปสั่งทานในร้ายอาหาร เมนูที่สั่งจึงวนเวียนอยู่กับเมนูที่เป็นไก่ หรือปลา ทานกับข้าวหมก (Briyani) ต่างๆ
Chicken 65 คทอ รูปไก่ในภาพด้านบน
.. ไก่ที่ทุกร้านต้องมี คือ เมนู Chicken 65 ซึ่งตอนแรกบางคนเข้าใจว่า ราคาเมนูนี้เราจะจ่ายเพียง 65 รูปี .. แต่เปล่าเลย นี่คือชื่อของเมนูไก่ทอดจ้า
.. เอ๊ะ .. แล้วทำไมต้อง 65? ทำไมไม่ใช้ 95 33 ..
เจ้าไก่เบอร์หกสิบห้าที่ว่านี้หน้าตาก็คือแก่ชุบแป้งทอดดีๆ นั่นเอง รสชาติจะเข้มข้นและอร่อยมาก หากใครเคยชิม เค้าจะหมักไก่กับกระเทียม ขิง มาซาล่าต่างๆ พริกไทย น้ำส้มสายชูหรือน้ำมะนาว แล้วเอามาชุปแป้งข้าวโพดที่ผสมเครื่องปรุงต่างๆ มาทอดในน้ำมัน บางคนก็ไม่ชุบ เอามาทอดเลยก็มี แต่เรากินร้านไหนก็อร่อยทุกร้าน
ไปค้นคว้ามา .. มีหลายข้อคิด เอามาเดา ..
แหล่งที่ 1 เค้าบอกว่าเจ้าไก่เนี่ย เป็นจานที่อยู่ในเมนูของร้านอาหารชือดัง Buhari Hotel ที่เมืองเชนไน ทางอินเดียตอนใต้ ซึ่งเมนูนี้เริ่มมีในปี 1965 และจริงๆ แล้วก็มีเมนูอื่นด้วย เช่น Chicken 78, Chicken 82 และ Chicken 90, ที่จัดขึ้นในปี 1978, 1982 และ 1990 ตามลำดับ แต่เจ้า 65 เนี่ยคงอร่อยสุด เลยดังขึ้นมา
แหล่งที่สอง บอกว่า ที่ชื่อ 65 เนี่ย ก็เพราะตามสูตรจะต้องหมักไก่ไว้ 65 วัน .. แหล่งนี้ไม่เชื่ออ่ะ เพราะกว่าจะถึง 65 วัน ไก่หมักนี่ตคงเน่าก่อนนำมาทอดแน่เลย ยกเว้นว่าจะหมักโดยการแช่แข็ง
แหล่งที่สาม บอกว่า เจ้าเมนูเนี้ยเป็นเมนูที่ใช้เสริฟทหารในปี 1965
แหล่งที่สี่บอกว่า สูตรของเจ้านี่จะต้องใช้พริกไทยถึง 65 เม็ด
อีกแหล่งบอกว่า เพราะไก่ที่จะนำมาปรุงจะต้องเป็นไก่ที่มีอายุ 65 วัน
แหล่งสุดท้ายเค้าบอกว่า อาหารจานนี้เคยมีอยู่ในเมนูของเหล่าทหารอินเดียทางตอนเหนือ ซึ่งชื่อเมนูเค้าเขียนเป็นภาษาทมิฬ และบรรดาพี่ทหารเค้าอ่านไม่ออก ทีนี้เวลาสั่งเค้าเลยนับเอา ว่าเอาเมนูลำดับที่ 65 เนี้ยแหละ ซึ่งพอสั่งไปกินกันก็ติดใจ เลยมีแต่คนสั่งเอาเบอร์ 65 มาอีก และติดปากกันเรื่อยมาจนกลายเป็นชื่อนั่นเอง
.. งงงงง แต่ที่แน่ๆ เมนูนี้อร่อยทุกร้านจ้า
วัฒนธรรมการทานอาหารของคนอินเดียใต้ มักจะทานบนใบตอง และเปิบด้วยมือ .. แม้ปัจจุบันจะมีจานให้ใช้ แต่ก็ยังวางแผ่นใบตองบนจานอยู่ดี
คนอินเดีย ส่วนใหญ่ยังคงใช้มือเปิบข้าว ไม่ได้เรียกหาช้อน-ซ่อม อย่างพวกเรา .. ทานเสร็จถึงจะไปล้างมือให้สะอาด
.. ดูแล้วชอบที่คนที่นี่ยังเหนียวแน่นในเรื่องของวัฒนธรรมในชีวิตบางอย่าง ไม่ได้ปล่อยให้ “ความเจริญ” มาพรากรากเหง้าและจิตวิญญาณของตนเองไป
เมนูอาหารอินเดีย จะมีเครื่องเคียงเป็นหัวหอมหั่นบางๆ คลุกมากับโยเกริตธรรมชาติ สีขาวขุ่นๆ .. จะว่าไปคงเปรียบได้กับอาจาดบ้านเรากระมัง รสชาติไม่เลว ทานได้กับทุกเมนู
ยำปลากระป๋ิอง
.. อาหารที่ควรจะติดกระเป๋าไปด้วย ช่วยชีวิตได้ยามเมื่อรู้สึกเบื่อและเลี่ยนอาหารอินเดีย
บันทึก
2
1
6
2
1
6
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย